ประการที่ 9 เล็งเห็นค่าคนอื่น ในพระคัมภีร์กล่าวว่า " จงรักด้วยใจจริง จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี จงรักกันฉันพี่น้อง ส่วนการที่ให้เกียรติแก่กันและกันนั้น จงถือว่า ผู้อื่นดีกว่าตัว " ( โรมบทที่ 12 ข้อ 9-10 ) สิ่งที่น่าสังเกต คือ คำว่า "จงถือว่า.." หมายถึงว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่เป็นการ "ถือว่า" คือ เปรียบเสมือนว่าเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ดังนั้น การถือว่า ผู้อื่นดีกว่าตัว ก็หมายถึงว่า ให้คิดเสมอว่า ผู้อื่นนั้น ดีกว่าตนเอง เป็นการคิดให้ถ่อมตัว ถ่อมใจอยู่เสมอ ให้เกียรติผู้อื่น เห็นคุณค่าของผู้อื่น สิ่งนี้จะทำให้ผู้นำคนนั้น มีผู้ที่อยากร่วมทำงานด้วยเสมอ ด้วยความจงรักภักดี เพราะรู้ว่า ผู้นำหรือหัวหน้าของตนนั้น มองเห็นคุณค่าของตัวเรานั่นเอง
ประการที่ 10 สุดท้ายคือ ชื่นชมกับผลสำเร็จ ไม่เพียงแต่ชื่นชมกับผลสำเร็จของคนอื่น แต่ขณะเดียวกันก็รู้จักที่จะชื่นชมกับผลสำเร็จของตนเองด้วย แต่ไม่ใช่การคุยโม้โอ้อวด ทับถมคนอื่น เมื่อมีผู้ชมเชย ผู้นำนั้น จะรู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่ทรงช่วยให้พบกับความสำเร็จ รู้ว่าเป็นพระพรที่มาจากพระเจ้า ทำให้มีความชื่นชมยินดี ทำให้มีกำลังที่จะบากบั่นทำงานต่อไป
ทั้ง 10 ประการที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงมุมมองของคริสเตียนต่อภาวะความเป็นผู้นำแบบหนึ่งเท่านั้น ความจริงในพระคัมภีร์ของคริสเตียนมีเรื่องเกี่ยวกับความเป็นผู้นำอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งผมจะพยายามนำมาบันทึกให้พวกเราได้ติดตามกันต่อไป
ไม่มีความเห็น