ทำไมเวลาสัญญากันต้องเกี่ยวก้อย


ทำไมเวลาสัญญากันต้องเกี่ยวก้อย

เกี่ยวก้อยสัญญากันนะ…หาก เราย้อนภาพความทรงจำของเรากลับไปยังช่วงวัยเด็ก ตอนที่เราเรียนอนุบาล การเกี่ยวก้อยสัญญากันคงเป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกับเพื่อนที่ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง...บางคนก็ทำกันจนเป็นนิสัย

 

       การที่เราเลือกใช้นิ้วก้อยในการให้คำสัญญากัน แสดงว่านิ้วก้อยต้องเป็นนิ้วที่มีความหมายไปในทางที่ดี แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของการเกี่ยวก้อยสัญญาอยู่ ดีจะมีก็แต่ นิทานก่อนนอนของเด็กๆ เรื่องนึง ที่เล่าถึงความเป็นมาของการเกี่ยวก้อยสัญญา...มาฟังนิทานก่อนนอนกันดีกว่า...เรื่องก็มีอยู่ว่า...  

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
มีเจ้า หญิงคนหนึ่ง หน้าตาสวยงามและฉลาดมาก

ด้วยเหตุนี้จึงมีเจ้าชายที่ต้องการอภิเษกสมรสด้วยเป็นจำนวนมาก

พระราชาจึงประกาศหาคู่อภิเษกกับเจ้าหญิง...มีผู้ชายมาเข้าคัดเลือกมากมาย

แต่ในที่สุด เจ้าหญิงก็คัดเลือกจนได้เหลือ5คน

เจ้าหญิงจึงคิดวิธีเลือกเจ้าชายขึ้นมาโดยซ่อนมือขวาไว้ด้านหลังแล้วให้เจ้าชายทุกคนชูนิ้วขึ้นมา1นิ้วให้ตรงกับเจ้าหญิง

แล้วจะอภิเษกด้วยคนแรกชูนิ้วโป้งคนที่สองชูนิ้วชี้

คนสาม คนสี่...และคนที่ห้าชูนิ้วก้อย ซึ่งตรงกับเจ้าหญิงพอดี และยื่นมาเกี่ยวกัน



วันหนึ่งเกิดสงครามครั้งใหญ่ เจ้าชายต้องออกไปร่วมรบด้วยจึงเกี่ยวก้อยและสัญญากับเจ้าหญิงว่าจะกลับมา

เมื่อสงครามจบลงเจ้าหญิงก็ยังรอต่อไปโดยที่เจ้าชายยังไม่กลับมา

วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆเจ้าชายก็ยังไม่มา แต่ความงดงามของเจ้าหญิงยังไม่เสื่อมคลายจึงมีเจ้าชายมาขออภิเษก เรื่อยๆ...

จนในที่สุดเจ้าหญิงก็ต้องยอมอภิเษกอีกครั้งแต่จะยอมอภิเษกด้วยกับคนที่มีนิ้วก้อยขนาดเท่ากับเจ้าหญิงเท่านั้น...

จน ในที่สุดก็ไม่มีเจ้าชายคนไหน มีขนาดนิ้วก้อยเท่ากับเจ้าหญิงเลยซักคนแต่แล้วก็มีขอทานคนหนึ่งเข้ามาใน วังทหารพยายามกีด กันเขาไว้ แต่เจ้าหญิงให้เข้ามาได้เพราะทุกคนต้องมีสิทธ์เท่าเทียมกันแล้วชู นิ้วก้อยขึ้นมา...

ปรากฏว่าขอทานคนนั้นได้เอานิ้วก้อยมาเกี่ยวด้วยกันนั่นหมายความว่าขอทานคนนั้นคือเจ้าชายที่หายสาบสูญไปนั่นเอง

คืนนั้นขอทานคนนั้นก้อได้หายไปจากวังโดยไม่มีร่องรอยเหลืออยู่เลย

วิญญาณของคนเรานั้นมีเวลาอยู่ได้49วันซึ่งวันนี้ครบ49วันหลังจากที่เจ้าชายหายสาบสูญไปพอดี

    แต่ถึงกระนั้นเจ้าชายก็ยังรักษาสัญญากลับมาเจ้าหญิงได้ เป็นไงๆเห็นไหมเวลา จะสัญญาอะไรก็เลยต้องเกี่ยวก้อยไงเพราะมันจะเป็นจริงอย่างที่เจ้าชายกลับมาหาเจ้าหญิง

หมายเลขบันทึก: 457351เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2011 21:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ซึ้งมากเลย....แต่จบเศร้านิดๆ

ก็เป็นเรื่องที่เราทำๆกันมาจนกลายเป็นค่านิยม โดยไม่รู้ว่ามีที่มาอย่างไร และมีความหมายขนาดไหน มาส่งกำลังใจให้สมาชิกใหม่ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท