แลกชีวิต.......เพื่ออีกชีวิต.......ในเวลาที่เหลืออยู่
ป้าแหมว คืออีกหนึ่งผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ถูกส่งต่อจากโรงพยาบาลมหาราชฯเพื่อมารอรับการฉายรังสีรักษาและดูแลแบบประคับประคองที่โรงพยาบาลหัวทะเล ป้าแหมวเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดแพร่กระจายไปที่สมอง ผลจากโรคทำให้ป้าแหมวของเรามีอาการเวียนศีรษะ กล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง พูดสื่อสารได้ช้ากว่าปกติ อาการต่างๆเหล่านี้ทำเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่กังวลใจว่าอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับป้าสักวันเพราะตั้งแต่ป้าแหมวมานอนรักษาตัวที่นี่ป้าแหมวของเราไม่มีญาติมาเยี่ยมและเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดเหมือนเช่นผู้ป่วยคนอื่นๆ เราจึงต้องเฝ้าระวังและคอยช่วยเหลือป้าแหมวอยู่ตลอดเวลาและเฝ้าคอยว่าเมื่อไหร่จะมีใครสักคนมาคอยดูแลหรืออย่างน้อยมาคอยให้กำลังใจแก่ป้าแหมวของเราก็พอ
“ คุณรัตน์ ลูกชายป้าแหมวต้องการย้ายแกไปนอนที่โรงพยาบาลมหาราชฯ เขาถามว่าทำไมแม่เขาอาการแย่ลง ” เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลส่งผู้ป่วยไปฉายรังสีรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชฯกลับมาแจ้งพยาบาลใน Ward ด้วยสีหน้าเป็นกังวลใจในคำพูดของผู้เป็นญาติ
“ ใจเย็นๆนะคะพี่กร เดี๋ยวรัตน์คุยกับญาติของป้าแหมวเองค่ะ แต่ว่าตอนนี้เรามาช่วยกันนำป้าแหมวลงเตียงเดิมก่อนดีกว่าป้าจะได้พัก คงจะเพลียมากหลังฉายแสง ” พยาบาลกล่าวอย่างเข้าใจในสถานการณ์และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าหน้าที่ว่าจะสามารถแก้ไขสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้
หลังจากเคลื่อนย้ายนำป้าแหมวลงเตียงเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พยาบาลได้สอบถามอาการของป้าแหมวและวัดสัญญาณชีพก็พอที่จะประเมินอาการของป้าได้ว่าป้าคงจะเพลียจากการฉายรังสีรักษามากเท่านั้นเอง
“ ผมจะขอย้ายแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชฯเหมือนเดิมวันนี้ เพราะผมสังเกตว่าแม่อาการแย่ลงจากเดิม ขาก็ไม่มีแรง ปวดท้องกินอะไรก็อาเจียน” ลูกชายกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรนพร้อมแววตาที่กังวลกับอาการของแม่
“ คุณเป็นลูกชายของป้าแหมวหรือคะ ป้าแหมวมีลูกกี่คนคะ ” พยาบาลเอ่ยถามหลังจากฟังคำบอกกล่าวของลูกชายอย่างไม่ละเลย
“ 2 คนครับ ” ลูกชายตอบโดยไม่ละสายตาจากแม่ของตน
“ เพิ่งเคยมาเยี่ยมอาการของป้าแหมวครั้งแรกใช่ไหมคะ ” พยาบาลซักถามด้วยไม่เคยพบหน้าญาติของป้าแหมวมาก่อน
“ ผมมาส่งแม่มานอนที่นี่ในครั้งแรก แม่ยังมีอาการดีกว่านี้ ” ลูกชายป้าแหมวชี้แจง
“ ตั้งแต่ป้ามานอนรักษาตัวที่นี่คุณได้คุยอาการของป้ากับคุณหมอบ้างไหมคะ ” พยาบาลซักถามการได้รับข้อมูลของป้าแหมวจากลูกชาย
“ ก็พอจะรู้บ้างว่าแม่เป็นอะไร ” ลูกชายให้ข้อมูลแก่พยาบาล
“ ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าอย่างนั้นกรุณารอตรงนี้สักครู่เดี๋ยวจะให้แพทย์ประจำที่นี่มาคุยรายละเอียดให้ฟังและถ้าคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวอาการ การรักษาต่างๆของป้าแหมวให้สอบถามกับคุณหมอได้เลยนะคะจะได้เข้าใจ ” พยาบาลเกริ่นให้ข้อมูลในเบื้องต้นแก่ญาติเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนได้พูดคุยจริงกับคุณหมอและเดินจากมาเพื่อเตรียมข้อมูลในการปรึกษาแพทย์
“ อาจารย์สายลักษณ์คะ มีCase Palliative Care ญาติยังไม่ทราบรายละเอียดโรคและอาการ วันนี้หลังกลับจากฉายรังสีรักษาญาติจะขอย้ายผู้ป่วยกลับไปที่โรงพยาบาลมหาราชฯคะ ” พยาบาลให้ข้อมูลกับ Disease Manager ประจำโรงพยาบาล
“ เดี๋ยวผมของดูข้อมูลของผู้ป่วยทั้งหมดก่อนแล้วค่อยเชิญญาติมาคุยกัน ” นายแพทย์สายลักษณ์กล่าวพร้อมทบทวนข้อมูลการรักษาจากประวัติการตรวจร่างกายและผลการวินิจฉัยต่างๆที่ส่งมาพร้อมกับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลมหาราชฯ
เมื่อทบทวนข้อมูลเรียบร้อยแล้วคุณหมอได้เดินไปตรวจเยี่ยมอาการของผู้ป่วยที่เตียงและได้รับข้อมูลของผู้ป่วยจากญาติเพิ่มเติมอีกครั้ง
“ หมอตรวจร่างกายแล้วนะครับ อาการปวดท้องของคุณป้าคงจะมาจากการรับประทานอาหารได้น้อยลงก็เลยแสบท้องเดี๋ยวหมอจะสั่งยาบรรเทาอาการไว้ให้และเดี๋ยวหมอขอคุยกับลูกชายสักครู่นะครับ ” หลังพูดจบคุณหมอก็เดินนำหน้าออกมาที่เคาน์เตอร์พยาบาล
“ จากการดูประวัติต่างๆของป้าแหมวแล้ว ทำให้รู้ว่าป้าเป็นมะเร็งปอดที่แพร่กระจายไปที่สมองและสมองของคนเราควบคุมเคลื่อนไหวของแขนขา การพูดฯก็เลยทำให้ป้ามีอาการต่างๆอย่างที่ลูกเห็นนั่นแหละครับและการไปฉายรังสีรักษาก็เป็นการไประงับอาการที่ผิดปกติดังกล่าวแต่ก็ไม่ใช่การรักษาให้หาย หมอก็เลยอยากให้ญาติทำใจเกี่ยวกับแม่เผื่อเอาไว้บ้างนะครับ หมออธิบายมาพอจะเข้าใจบ้างไหมครับและถ้าสังสัยอะไรก็ถามได้และสิ่งที่หมอพูดไปนี้ให้ช่วยไปเล่าให้ญาติคนอื่นๆได้เข้าใจด้วยนะครับ ” คุณหมอได้ทำหน้าที่ Disease Managerอย่างตั้งใจและเข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นลูกชายเป็นอย่างดี
“ ผมเข้าใจแล้วครับและผมก็จะให้แม่นอนรักษาต่อที่นี่ ขอบคุณมากครับหมอ ”
ลูกชายป้าแหมวกล่าวขอบคุณพร้อมยกมือไหว้แล้วเดินจากไปดูแลแม่ต่อที่เตียง
วันต่อมาป้าแหมวก็ไร้ญาติมาเฝ้าดูแลเช่นเดิมเป็นเพราะอะไรเมื่อทุกคนน่าจะรู้แล้วว่าป้าเป็นโรคร้ายและรอคอยวันจากโลกนี้ไปทำไมยังไม่มีญาติมาอยู่ใกล้ชิดในเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่นานนี้แล้วของป้าแหมว
“ หมอครับ แฟนผมถ่ายเปื้อนเต็มเตียงไปหมดเลยครับ ผมขอผ้าเปลี่ยนหน่อยครับ ” เสียงแหบพร่าของผู้ชายรูปร่างสูงผอมบาง ผิวคล้ำเข้ามาขอความช่วยเหลือจากพยาบาลคนเดิมในเวรเช้าวันใหม่ด้วยแววตาซื่อ
“ ลุงเป็นญาติของเตียงไหนคะ เดี๋ยวหมอจะไปช่วยเปลี่ยนผ้าให้ค่ะ ” พยาบาลสอบถามกลับเนื่องจากไม่คุ้นหน้าตาญาติคนนี้เลย
“ ผมเป็นแฟนนางแหมวครับ ” ญาติตอบพร้อมชี้ไปที่เตียงผู้ป่วย
หลังจากทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าของป้าแหมวเรียบร้อยแล้ว พยาบาลคนเดิมก็ได้เชิญสามีของป้าแหมวมานั่งพูดคุยที่หน้าเคอน์เตอร์
“ ลุงยังไม่เคยมาเฝ้าป้าแหมวที่นี่เลย แล้วพอจะทราบอาการของป้าจากลูกชายของลุงบ้างไหมคะ ” พยาบาลซักถามเพื่อให้ได้ข้อมูลเบื้องต้นของการเริ่มสนทนา
“ เมื่อวันก่อนลูกชายคนเล็กผมมาเยี่ยมแม่เขา แล้วกลับไปเล่าให้ฟังว่าหมอคุยให้ฟังว่าแม่เป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและแม่ก็อาการไม่ดีเลย ผมก็ไม่เคยมาเยี่ยมแฟนผมสักทีเคยแต่พาไปรักษาที่คลีนิคในอำเภอพิมายตอนนั้นก็เริ่มมีปวดหัว หมอก็บอกว่าเป็นความดันสูงให้น้ำเกลือแล้วก็กลับบ้าน แต่อาการกลับไม่ดีขึ้น ก็เลยพามารักษาที่โรงพยาบาลพิมายพอหมอตรวจน้ำไขสันหลังแล้วก็เลยส่งตัวมาที่โรงพยาบาลมหาราชฯ แล้วหลังจากนั้นลูกชายสองคนเขาก็มาเฝ้าดูแลแม่เขาเองและช่วงที่แม่เขาไปฉายแสงลูกชายคนเล็กจะไปรออยู่ที่โน่นเพื่อคอยดูแลแม่เขา ลูกชายคนโตก็เพิ่งลางานครบกลับไปทำงานแล้ว ส่วนผมก็เป็นห่วงแฟนเหมือนกันแต่ที่บ้านมีวัวอยู่ 8 ตัวที่ผมต้องเลี้ยงเองและก็ต้องดูแลบ้าน แต่พอเมื่อวานลูกชายคนเล็กไปเล่าให้ฟัง ผมก็ยิ่งเป็นห่วงแฟนก็เลยตัดสินใจขายวัวที่เลี้ยงไป 7 ตัวเพื่อหาเงินค่ารถและค่าอยู่กินช่วงที่มาอยู่เฝ้าเขา เหลือเอาไว้เวลาเงินขาดมือจริงๆแค่ตัวเดียว ตัดภาระที่บ้านก็จะได้มาอยู่เฝ้าดูแลและเป็นกำลังใจให้เขาใกล้ๆ และยิ่งพอมาเห็นสภาพเขาแล้วผมก็สงสาร เขาไม่หลับไม่นอน ดึงอะไรๆไปทั่วพลอยทำให้ผมต้องคอยลุกขึ้นมาถามอยู่ตลอดว่าต้องการอะไรแต่ก็คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง ” ลุงพูดคุยพร้อมน้ำตาคลอๆเสียงสั่นเครือเมื่อพูดถึงภรรยาและสภาพชีวิตที่ดำเนินอยู่
“ แล้วลุงจะทำอย่างไรต่อไปคะเมื่อเห็นอาการของป้าด้วยตาตัวเองแบบนี้แล้ว ” พยาบาลถามกลับด้วยความซึ้งใจในความรักและเป็นห่วงของลุงที่มีต่อป้าแหมว
“ ผมก็คงต้องดูแลแฟนผมต่อไปให้ดีที่สุด แต่ผมก็ทำใจกับลูกไว้บ้างแล้วเพราะยังไงทุกคนก็ต้องตายเหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากให้เขาทรมานมาก ” ลุงพูดด้วยแววตาเศร้า
“ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ลุงนะคะ และถ้าลุงต้องการให้เราช่วยเหลือในเรื่องเกี่ยวกับการดูแลป้าก็ให้บอกถ้าเราทำได้เราก็ยินดี แต่ตอนนี้ลุงเตรียมตัวไปส่งป้าไปฉายแสงที่โรงพยาบาลมหาราชก่อนนะคะรถที่จะไปส่งพร้อมแล้วค่ะ ” พยาบาลเอ่ยให้กำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นในการให้การช่วยเหลือที่พร้อมจะให้เมื่อลุงต้องการ
ไม่มีความเห็น