การสอนให้ท่องจำอักษรสูง-กลาง-ต่ำของไทยเรา ผมว่ามันค่อนข้างไม่สร้างสรรค์ เช่น อักษรกลาง สอนให้ท่องจำกันแต่เพียงว่า...
ไก่จิกเด็กตายบนปากโอ่ง
ซึ่งไร้ความหมาย ว่าไปแล้วก็มีความหมายอยู่ แต่กลายเป็นความหมายที่ไม่ดีนัก .. ที่ออกไปทางรุนแรงเสียอีก ไม่ได้ช่วยเสริมสร้างจินตนาการเชิงสร้างสรรค์อะไรให้แก่เด็กๆของเราเลย (ไก่บ้าอะไรจะจิกเด็กตายได้ แถมตายบนปากโอ่งเสียอีก อะไรมันจะคิดและยอมรับอย่างกว้างขวางกันได้ถึงปานนั้น ...เฮ้อ สังคมไทยของเรา)
ผมลองคิดดูเมื่อประมาณ 10 กว่าปีมาแล้ว ได้วลีเพื่อการจดจำใหม่ดังนี้ครับ
กรรมจะดีต้องไปเอาบุญ
(หมายเหตุ...คนอีสานโบราณ ใช้คำว่า เอาบุญ แทนคำว่า ทำบุญ)
ซึ่งครบทุกตัวอักษร และยังได้คติสอนใจอีกด้วย การสอนเด็กของเรา ต้องเอาทุกทาง รวมทั้งการสอดแทรก “บุญ” หรือ การทำดี โดยอ้อมเช่นนี้
ส่วนอักษรต่ำนั้น ของเก่าคือ...งูใหญ่นอนอยู่ริมวัดโมฬีโลกย์ (หรืออะไรทำนองนี้ ตอนผมเด็กๆ ไม่เคยได้ยิน แสดงว่าคงเป็นวลีที่เกิดขึ้นใหม่) ซึ่งอักษรก็ไม่ครบอีกต่างหาก ผมจึงมาเสริมให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้นดังนี้....
....คนไทยวันนี้ ชอบฮำร้องเล่นเพลงธรรมะ..ซึ่งแม้พระยังงง
สำหรับอักษรสูง ยังไม่เคยได้ยินวลีจำที่สอนกัน นอกจาก “สาวสวยใส่เสื้อสีแสด” ซึ่งมันเป็นตัว ส ทั้งนั้น จึงขอเสนอดังนี้ครับ....
...ฉันเฝ้าศึกษาถนอมสังขารผุๆให้หอมเสมอ
ความจริง รมว. กท.ศึกษาน่าจะจัดประกวดคำกลอนสอนจำเรื่องพยัญชนะทั้งสามระดับ ...ดีกว่าจ้างประกวดชื่อหมีแพน”บ้า”
....คนถางทาง (ประมาณ ๒๕๓๙)
เมื่อวัยเด็ก ก็ได้แต่อ่านหนังสือมากมาย แบบอ่านได้คล่องแคล่ว
แต่ว่า เด็กสักกี่คน ที่จะเข้าใจได้ลึกซึ้งถึงความหมายหลากหลายตัวหนังสือที่อ่าน ซึ่งมักเป็นไปตามความคิดของคนที่เขียน
เหมือนกับ เราเรียนหนังสือ อาจได้ปริญญามากมาย ซึ่งบางคนก็ได้มาโดยง่าย เพราะเรียนเก่ง บางคนก็ต้องพยายามมากมาย เพื่อปริญญาสักใบ
ยุคสมัยผ่านมา กลายเป็นว่า จบอะไรมาก็ได้ ได้งานไม่ตรงกับความรู้วิชาที่เรียนจบการศึกษานั้นๆ สุดท้ายแล้ว บางคนก็อาจไม่ได้ทำงานด้วยซ้ำ ดังจะเห็นจากข่าวคนว่างงานมีจำนวนมากมาย.. ดังนั้น ส่วนมากวิชาที่ใช้ ก็แค่คำนวณงบประมาณในการใช้ชีวิตประจำวัน
ดิฉันอาจมองผิดก็ได้ แต่มองรอบๆ ตัวตอนนี้ ก็เห็นเป็นแบบนี้ค่ะ
ครอบคุณมากค่ะคุณพี่ครูสั่งให้มาหาพอดี
สุดยอดเลยค่ะ…หนูขออนุญาตเอาไปท่องจำบ้างนะคะ อิอิ