ประหยัด 50 กิโล/ลิตร แน่กว่ามาร์ช


   สายวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ หลังจากจัดของเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่มือหนึ่งจับแฮนด์ อีกมือหนึ่งมองดูนาฬิกา เห็นเวลา ๐๙.๐๙ น. ประหลาดดี เลขนี้เป็นเลขที่ชาวบ้านเขาถือกันว่าเลขดี แต่ผมก็เคยแย้งว่า ทำไมมันไม่เต็มสิบสักที อันที่จริงไม่ได้คิดว่าจะออกจากบ้านพักในเวลานั้นเลย ผมคิดเพียงว่าจัดของเสร็จก็ออกเดินทางเท่านั้น

   พาหนะที่ผมใช้เพื่อการเดินทางคือ จักรยานคันเดิม 

ปั่นออกทางหน้าหมู่บ้าน ผ่านวัดบางนมโค โลตัสเสนา ข้ามสะพาน มองไปที่ร้านอาหารแหล่งหนึ่งริมแม่น้ำ น้ำกำลังไหลนองล้นตลิ่ง เมื่อสองวันก่อนเหลืออีกประมาณสองฟุต วันนี้ล้นตลิ่งไปเรียบร้อยแล้ว พบว่า การปั่นจักรยานข้ามสะพานตรงขึ้นเนินนั้นต้องใช้กำลังขามากทีเดียว เรียกได้ว่า เหนื่อยพอสมควร มุ่งหน้าไปถึงสี่แยกวรเชษฐ์ หากเลี้ยวขวาเราสามารถไปปทุมธานีได้ ซึ่งรถตู้สาย รังสิต-เสนา-ผักไห่ ก็ใช้เส้นทางสายนี้ ตรงสี่แยกวรเชษฐ์ มีโดมใหม่เกิดขึ้น ยังสงสัยอยู่ว่าเขาสร้างเพื่อทำธุรกิจอะไรกันแน่

   ก่อนนั้น เห็นหญิงสาวแรกรุ่นคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ศาลาริมทาง กำลังคุยโทรศัพท์และคาดว่ากำลังรอรถประจำทางอยู่ด้วย ดูทรวดทรงองค์เอวแบบผ่านๆ น่าจะเข้าข่ายรูปร่างดี ในแบบฉบับคนไทย (ไม่สูง) หน้าตาของเธอขาวผ่องด้วยเครื่องประทินผิว ด้วยความที่ผมมักมองโลกในแง่ร้าย (ทุกข์) และมักไม่มองตามสภาพที่เห็นจริง เพราะปกติเรามักจะมองในเชิงบวกว่า เธอสวย น่ารัก แต่ผมกลับวิปริตคิดไปว่า หากเอาเครื่องประทินผิวออก แท้จริงคือผิวคล้ำนั่นเอง เหตุผลในข้อนี้คือ เมื่อเทียบระหว่างใบหน้ากับผิวหนังที่คอและแขนแล้วมันทำให้ชวนคิดไปอย่างนั้น ปั่นจักรยานไปก็คิดไปเรื่อยเปื่อย คนบ้านนี้เมืองนี้น่าจะทำไร่ทำนา ต้องกรำแดดกรำฝน แม้ว่าเทคโนโลยีจะครบครัน แต่คงไม่วายกับการต้องพบกับสภาพปัญหาทางธรรมชาติ ผิวคล้ำคือคล้ำจากการตรากตรำ แต่หากได้สัมผัสพูดคุยแล้วเราจะรู้ว่าคนบ้านนี้เมืองนี้มีน้ำใจซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักกับสังคมใหม่ จิตใจที่ต้องยอมรับว่าดี อัธยาศัยดี มีกรุณา ซึ่งน่าจะสังเกตได้ง่ายๆเมื่อเราขึ้นรถประจำทาง

ผ่านเลยมาถึงวัดอะไรสักอย่างหนึ่ง เห็นเป็นเจดีย์คู่ จึงแวะเข้าไปเวียน ซึมซับบรรยากาศเมืองเก่า จากนั้น เดินทางต่อไป เข้าไปเที่ยวตลาดน้ำวัดท่าการ้อง วัดนี้หากใครต่างถิ่นมาเที่ยว ผมขอแนะนำ เพราะมีอะไรแปลกหูแปลกตาเยอะ โดยเฉพาะห้องน้ำตัวอย่างที่สะอาด และบรรยากาศดีมาก (แต่ผมไม่ได้ใช้บริการ แค่ไปดูเฉยๆ) ผมมองเห็นความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นกับวัด แม้ใจหนึ่งผมไม่ค่อยจะถูกใจนักกับการทำวัดให้เป็นที่ท่องเที่ยว เพราะจะวุ่นวาย แต่ว่า หากไม่ทำอย่างนี้ วัดในฐานะส่วนหนึ่งของเมืองก็ยากที่จะอยู่ได้ ส่วนหนึ่งจึงเห็นดีด้วย เพราะเป็นกิจกรรมที่คาดเองว่า ไม่ใช่เชิงธุรกิจนัก เมื่อเทียบกับอีกหลายแห่งของตลาดน้ำ นอกจากจะเป็นเรื่องของการบริจาคทานตามความเชื่อแล้ว มีกิจกรรมอื่นๆ ด้วยเช่น การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งเยาวชน มีเรือพายขายของ (ก็ตลาดน้ำ) ของกินหลากหลาย ของใช้ก็เยอะ

 ผมออกจากวัดท่าการ้อง มุ่งสู่ตัวเมืองอยุธยา แวะโน่นแวะนี่ แล้วแวะไปที่ ตลาดน้ำอโยธยา อันหนึ่งที่น่าเหนื่อยใจคือ การแย่งชิงลูกค้ากับบริการรับฝากรถ ผมผ่านไปแล้วกลับออกมา มุ่งหน้าสู่ พระอินทร์และเข้า มรภ. จำไ้ด้ว่า เมื่อตอนเพื่อนขับรถไปนั้น วัดระยะคือ ๕๐ กิโลเมตร ผมถึงที่หมายเวลา บ่ายสามโมงกว่าๆ ปวดขา ปวดเข่า ปวดก้้นแทบนั่งไม่ได้ แต่ยังดีที่รู้สึกได้ว่ามีอาการปวดอยู่

  สรุป ๕๐ กิโลเมตร ใช้น้ำไป ๑ ลิตร ครับผม ไม่ใช่น้ำมันนะ

หมายเลขบันทึก: 455394เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2011 09:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท