พระครูสมุห์เอกรัฐ อภิรกฺโข
พระครูสมุห์เอกรัฐ อภิรกฺโข พระครูสมุห์เอกรัฐ อภิรกฺโข พระเอก ไชยมาตร

นิราศจากบ้านผ่านดอย


กล้าอาสา กล้าแผ่นดิน

 “นิราศ...จากบ้านผ่านดอย” 

                                            นิราศจากบ้านผ่านดอย

เป็นผลงานชาวค่ายกล้าอาสา ครั้งที่ ๑๗ เมื่อตุลาคม ๒๕๕๒

อาจไม่ถูกฉันทลักษณ์มากนัก แต่...เป็นการเริ่มต้นของวัยรุ่นที่อยากบอกเล่าความรู้สึกผ่านวรรณศิลป์

คงไม่ต้องเทียบฝีมือเหล่าบรรดาเซียน นักล่ารางวัล

 

 

 ก้าวแรกของกล้าอาสา...มาหลากหลาย

เยาวชนคนใจจริงทั้งหญิงชาย                         สู่เชียงรายเมืองชายแดนสามแผ่นดิน

            แบกความสุขรอยยิ้มมาเต็มอก            ขอช่วยปกความหมองเศร้าให้สูญสิ้น

มาครั้งนี้หวังบูชาคุณธานิน                              ลาจากถิ่นบ้านเกิดและเมืองนอน

            ปฐมนิเทศกันที่วัดดงหนองเป็ด            กล้าอาสา “หนึ่งเจ็ด” ร่วมช่วยสอน

ประสบการณ์ความรักความอาทร                   อุทาหรณ์เตือนใจให้แนวทาง

            เหนือ-กลาง-ใต้-อีสานผ่านทั่วแคว้น     เส้นเขตแดนไม่อาจจะกั้นขวาง

มิตรภาพแสนดีไม่มีจาง                                   ใจไม่ห่างแม้กายจะไกลกัน

            ภารกิจจิตอาสามีหลายสิ่ง                   อย่าประวิงถ้ามุ่งทางการสร้างสรรค์

มีความสุขสนุกสนานทุกคืนวัน                        ร่วมแบ่งปันน้ำใจสร้างไมตรี

 

 

๒ ร้อยใจไทยภักดี ๑๐๙ ปี สมเด็จย่า 

          สิบแปด...ตุลาคมปีห้าสอง                  เหล่าพวกพ้องกล้าอาสามาเร็วรี่

เข้าร่วมงานร้อยใจไทยภักดี                             ร้อยเก้าปีสมเด็จย่า,,,คู่เมืองฟ้า

            เวทีไทยจัดงานเทิดพระเกียรติ             ผู้ชมเบียดร่วมแห่มาถ้วนหน้า

ทั้งเด็กเล็ก – ผู้ใหญ่ ร่วมใจมา                         ดูดารามาบรรเลง เสียงดนตรี

            ตั๊ก บงกช เจเน็ท เขียวโชว์ลูกคอ         ยังไม่พอพี่ธันวาเน้นแสงสี

บนคอนเสิร์ตเต็มด้วยนักร้องดี                         ด้านล่างนี้ครื้นเครงเต้นกระจาย

            กล้าอาสาทำงานสร้างรายได้               ขายดอกไม้เรี่ยไรบุญไม่เบื่อหน่าย

ทั้งถุงผ้า กรอบรูป  มีวางราย                           ผู้คนหลายรายร่วมบริจาคกัน

            มีผู้ใหญ่ใจดีท่านเลี้ยงไก่จ๊อ                 โอ้ละน้อกินไข่ไก่ให้สุขสันต์

อาหารฝากท้องได้อีกหลายวัน                         น้ำใจนั้นแสนประเสริฐน่าเชิดชู

 

 

๓ กระโดดหอ

            กระโดดหอรอเราไว้ในช่วงบ่าย            ทดลองใจและกายให้พร้อมสู้

พอยินเสียงรถจอดออกมาดู                             เห็นรถหรูสีเขียวมาจอดรอ

            พอจะก้าวขึ้นไปใจละเหี่ย                    รถก็สูงคนก็เตี้ยทำไงหนอ

บันไดเหยียบมันอยู่สูงเกือบถึงคอ               แต่ก็พอได้ขึ้นนั่งอย่างสบาย

            นั่งรถเดินทางไปไม่ทันหลับ                  รถก็ขับเข้าจอด ณ ที่หมาย

เห็นหอสูงครั้งแรกใจละลาย                            วันนี้รอดหรือตายเดี๋ยวได้ดู

            ครูฝึกกล่าวต้อนรับอันดับแรก              เสร็จแล้วใส่ชุดแปลกแปลกที่รออยู่

จะไม่โดดก็ไม่ได้ใครก็รู้                                                เพราะพระอาจารย์ท่านเล่นขู่ไว้มากมาย

            เสียงกรี๊ดกร๊าดดังเน้นเป็นช่วงช่วง       เห็นเพื่อนโดนผลักร่วงทรวงขวัญหาย

พอกระโดด เสร็จตลอด...เฮ้อรอดตาย             ใจแทบวาย..สนุกดี ที่ได้มา

 

๔ จากเชียงรายสู่พะเยา

            เริ่มเดินทางออกจากวัดดงหนองเป็ด   เพื่อสำเร็จถึงที่หมายภายข้างหน้า

เดินทางไปวัดร่องขุ่นเป็นบุญตา                      เห็นสถาปัตยกรรมชื่นฉ่ำใจ

            ไปต่อที่พานพิเศษเขตศึกษา                ได้รู้ว่าคนที่นี่มีใจใส

ร่วมบริจาคเงินทองของเครื่องใช้                      ร่วมทำบุญจากใจให้เด็กดอย

            ผ่านโรงเรียนแม่ใจแม้ไกลห่าง             น้ำใจสร้าง เพื่อถิ่นไทย ไม่ท้อถอย

ทางข้างหน้า มีคนท้อที่รอคอย                         เสริมสร้างรอยสุขแท้มอบแก่กัน

            “ วิทยาลัยพยาบาล บรมราชชนนี ”     พระบารมีสมเด็จย่ามาคุ้มขวัญ

ไปวัดศรีโคมคำสุขสัมพันธ์                               พวกเรานั้นสุขใจอิ่มไอบุญ

            ไหว้พระเจ้าตนหลวงนำดวงจิต            ทุกชีวิตแจ่มใสมีไออุ่น

วัดราชคฤห์ได้เมตตาเกื้อการุญ                       ขอขอบคุณ ที่พักพิง อิงแอบใจ

 

 

๕ กว๊านพะเยา

          กว๊านพะเยาแหล่งน้ำใหญ่ให้ชีวิต        หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณนานสมัย

องค์พ่อขุนงำเมืองเลื่องลือไกล                                    องค์ตนหลวงพระใหญ่ประทานพร

            มีวัดอยู่กลางน้ำงดงามยิ่ง                   เป็นขวัญมิ่งบุญเมืองอนุสรณ์

เราเดินเรียบริมฝั่งตะวันรอน                            เงาสะท้อนแวววามงามเหลือเกิน

            ราชคฤห์วัดนี้ที่นอนหลับ                      ชาวพะเยาต้อนรับไม่เคอะเขิน

มีข้าวเหนียวกับหมูทอดกินจนเพลิน                พระอาจารย์จำเริญดำเนินงาน

            ได้รับฟังสิ่งที่ดีมีค่านัก                         ได้รู้จักเมืองพะเยาเขาเล่าขาน

ปล่อยโคมเพื่อปล่อยเคราะห์ตลอดกาล          เป็นตำนานล้านนาน่าชื่นชม

            ตื่นเช้ามาตีห้าพากันวิ่ง                        แสนดีจริงบรรยากาศที่เหมาะสม

บ้างก็เต้นบ้างรำมวยสุขอารมณ์                      “พะเยา” ร่มเงาถิ่นแผ่นดินทอง

 

๖ จากพะเยาถึงนครพิงค์

            แสนอาลัยกว๊านพะเยาที่เราจาก          ทำใจยากเหลือเกินเดินเศร้าหมอง

ธรรมชาติสดใสยามได้มอง                              คลายขุ่นข้องหมองใจได้อย่างดี

            นั่งรถยนต์ยังลำปางอย่างหรรษา         เห็นรถม้าวิ่งอยู่คู่พื้นที่

เอกลักษณ์ของจังหวัดจัดให้มี                         สร้างศักดิ์ศรีให้โลกรู้สู่สากล

            ศูนย์ฝึกช้างสร้างไว้ได้มองเห็น             เสมือนเป็นแหล่งเกื้อหนุนบุญกุศล

รักษาช้างปลอดภัยไร้กังวล                             น้ำใจคนไม่สิ้นจากดินแดน

            สู่สถานีรถไฟได้เปลี่ยนท่า                    ใจเริงร่ายามรถไฟได้โลดแล่น

เตรียมอาหารและน้ำใจให้ไม่ขาดแคลน           ก่อนสู่แคว้นนครพิงค์แอบอิงใจ

            รถไฟวิ่งมุ่งหน้าอย่างผาสุก                  สุดสนุกลอดอุโมงค์โพรงสูงใหญ่

รถไฟหยุดจุดจอดมองลอดไป                          ถึงเชียงใหม่สุดอร่ามงดงามตา

 

 

๗ สันป่าตอง – บ้านขุนวง

            ต้องเดินทางสู่ขุนวงคงวุ่นจิต                ได้แต่คิดถึงทางอยู่ข้างหน้า

ต้องเดินทางสู่ขุนวงดงพนา                              ด้วยหัวใจปรารถนาอาสางาน

            ก่อนเดินทางเพื่อความเป็นมงคล         คลายกังวลสบายใจทุกสถาน

ด้วยพิธีสืบชะตาแต่ช้านาน                              ร่วมประสานหัวใจเป็นหนึ่งเดียว

            เริ่มเดินทางด้วยหัวใจที่กล้าแกร่ง        เดินด้วยแรงศรัทธาไม่มีเดี๋ยว

ขนกระเป๋าขึ้นรถใจกลมเกลียว                        ป่าสีเขียวประกบคู่อยู่ข้างทาง

            พอเดินทางมาได้ระยะหนึ่ง                  ก็มาถึงซึ่งขวากหนามคอยกั้นขวาง

ถนนขาดทรุดหายใจเคว้งคว้าง                        ทุกคนต่างตื่นตระหนกตกใจพลัน

            พวกเรายังมุ่งหน้าต่อไม่ท้อแท้              คิดเพียงแค่เดินบนดอยรอคอยฝัน

กล้าทุกต้นไม่เคยคิดเปลี่ยนใจกัน                   พร้อมมุ่งมั่นสู่ขุนวงถิ่นพงไพร

 

๘ บ้านขุนวง

            รวมทุกทิศรวมน้ำใจไทยทุกภาค          สร้างฐานรากกล้าแผ่นดินถิ่นอาศัย

มาร่วมกันสร้างฝันปันน้ำใจ                             ในแดนไกล “ บ้านขุนวง ” ดงสุดฟ้า

            สิบสามกิโลเมตรที่ต้องเดิน                  ต้องเผชิญอุปสรรคและปัญหา

มีกลุ่มเพื่อนรุ่นพี่ให้พึงพา                                 ต่างที่มาแต่รวมเป็นสายใย

            สัมภาระที่แบกไว้บนหลัง                     สองเท้าหยั่งเดินเท้าไม่หวั่นไหว

แม้หนทางจะลำบากและยาวไกล                    ด้วยจิตใจ มานะ และฝ่าฟัน

            เมื่อยามแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า           ก้าวย่างมายังไม่ถึงซึ่งฝั่งฝัน

ด้วยน้ำใจ ด้วยรัก และผูกพัน                          เราช่วยกันเร่งฝีเท้า ก้าวเร็วไว

            เมื่อมาถึงจุดหมายที่ปลายทาง            ทุกสิ่งอย่างที่เหนื่อยล้าก็สดใส

เห็นรอยยิ้ม เห็นแววตาจากข้างใน                   เป็นภาพแสนประทับใจ ผู้วัยเยาว์

 

 

๙ บ้านขุนวง

            เช้าวันใหม่สุขสดใสใจสดชื่น                แสนร่มรื่นบ้านขุนวงกลางป่าเขา

จะทุ่มเทใจกายด้วยมือเรา                               ช่วยบรรเทาทุกข์ภัยให้เด็กดอย

            ภารกิจที่หนึ่งนั้นยากนัก                      เรารวมรักรวมแรงสู้ไม่ถอย

เด็กทั้งหลายรอห้องน้ำที่เฝ้าคอย                     ตาละห้อยมองสิ่งที่เฝ้ารอ

            ภารกิจสองสามนั้นตามติด                  ช่วยพิชิตทาสีมิต้องขอ

ทั้งซ่อมโต๊ะเก้าอี้ที่หักงอ                                   หวังแค่พอแข็งแรงและทนทาน

            ภารกิจที่สี่ห้าน่าสนุก                              พวกเราบุกเกี่ยวข้าวสมัครสมาน

งานสำเร็จในเวลาไม่ช้านาน                             แล้วเยี่ยมบ้านน้องน้องปันน้ำใจ

            ภารกิจที่หกสร้างรอยยิ้ม                      นั่งอยู่ริมรอบกองไฟไม่หวั่นไหว

ทั้งยังมีการแสดงสร้างสายใย                          ส่งเสริมให้กล้าทำดี...ที่ยืนยง

 

๑๐ ขุนวงสู่บ่อหลวง

จากถิ่นบ้านขุนวงดงกลางป่า              ต้องอำลาเด็กดอยที่คอยส่ง

เดินทางเท้าออกจากบ้านขุนวง                        และก็คงต้องจากลาและแยกทาง

            “ แม่สะเรียง บริบัตรศึกษา “                ต้องจากลาไปไกลได้เหินห่าง

มุ่งหน้าต่อยังบ่อหลวงไม่ละวาง                       สู่ก้าวย่างต่อไปในทันที

            ในค่ำคืนที่รู้สึกแสนเหว่ว้า                    การแสดงสู่สายตาของทุกสี

แต่ละภาคต่างกันต่างมีดี                                ภาคใต้มีเพลงบอก..ออกประชัน

            ชุดอีสานลำซิ่งสิงห์อีสาน                     เพลงกังวานเร้าใจสมวัยฝัน

แห่นางแมวภาคกลางสร้างสัมพันธ์                 ยังมีนอกจากนั้นภาคเหนือไง

            การแสดงชุดหนึ่งในสยาม                   ดูงดงามมากแท้แลยิ่งใหญ่

การแสดงทุกภาคได้ผ่านไป                             คืนนี้นอนหลับใหลกันทั้งปวง

 

 

๑๑ บ้านบ่อหลวง

            สุรีย์สาดแสงจากฟากสวรรค์               เริ่มคืนวันสดใสในบ่อหลวง

พวกเรากล้าอาสามาเติมทรวง                         ให้กับดวงตะวันแห่งฝันไกล

            แปดโมงเช้าเราพร้อมทำหน้าที่ เริ่มเปรมปรีดิ์ทาสีแสนสดใส

อีกส่วนหนึ่งได้รับการวางใจ                             พระครูให้ช่วยสอนน้องต้องพากเพียร

            วันที่สองความเศร้าเข้าสู่จิต                 เราได้ติดต่อกลับบ้านไม่ใช่เขียน

คือให้ได้โทรกลับบ้านเพื่อกราบเรียน               ให้พ่อแม่ได้เปลี่ยนทุกข์เป็นสุขใจ

            วันที่สามขยี้ตาไม่อยากตื่น                   แต่ต้องฝืนลุกขึ้นมาสู่วันใหม่

ในยามเช้ามิค่อยได้ทำอะไร                             บ่ายนั้นให้น้องเรียนฐานบานอุรา

            พรุ่งนี้สามสิบเอ็ดตุลาคม                     จะระดมเดินทางไปข้างหน้า

สู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งตา                            สูงสุดฟ้ายังคอยถิ่น...อินทนนท์

 

๑๒ สวนสน

            เราออกจากโรงเรียนบ้านบ่อหลวง       เหล่าทั้งปวงต้นกล้าไปสวนสน

เพียงรถจอดริมทางต่างลุกลน                         เราทุกคนชื่นมื่น ตื่นเต้นกัน

            ที่สวนสนงามอย่างธรรมชาติ               เหมือนภาพวาดวิจิตรเกินคิดฝัน

สนยืนต้นเรียงรายตามสายพันธ์                      ต่างแลหันชมชื่นรื่นรมย์ใจ

            ทุกสีมาพักผ่อนหย่อนใจกาย               ต่างสบาย เล่นร่าเริงส่งเสียงใส

เหล่าพี่เลี้ยงชวนเล่นเกมที่จัดไว้                       ต่างสนุกในกิจกรรมที่นำมา

            ฐานแรกนั้นอาสาสามัคคี                     ร่วมทำดีเก็บขยะอย่างหรรษา

แยกขยะให้เป็นดูงามตา                                  พร้อมผูกผ้ามัดเท้าก้าวต่อไป

            ฐานสองเกมสนศิลป์เน้นสร้างสรรค์     ออกแบบพลันประดิดประดอยรูปรอยใหม่

และฐานสามเน้นความดี มีน้ำใจ                      แยกแยะในขยะอย่างสร้างปัญญา

 

 

๑๓ พระธาตุศรีจอมทอง

            ถึงวัดวาอารามงามสะอาด                   องค์พระธาตุศรีจอมทองสูงเสียดหล้า

ประชาชนแวะเวียนกันเข้ามา                           เพื่อบูชาองค์พระธาตุนามลือไกล

            มีประวัติสืบมาอย่างช้านาน                 ให้ลูกหลานได้รับรู้คู่สมัย

พระพุทธรูปปูนปั้นอันอำไพ                              เคลื่อนย้ายไปจากวัดร้างสู่จอมทอง

            พระธาตุศรีจอมทองเด่นเป็นสง่า         มีคุณค่ายิ่งใหญ่ไม่เป็นสอง

สะดุดตาสะดุดใจเมื่อได้มอง                           เป็นบุญของชาวเขียงใหม่ได้บูชา

            ชาวบ้านได้ประจักษ์ความศักดิ์สิทธ์     บุญเรืองฤทธิ์ส่องสว่างอย่างทั่วหน้า

สีทองเหลืองอร่ามงามต้องตา                          ร่วมกันจารึกไว้ในวิญญาณ

            นับว่าเป็นมงคลประเสริฐสุด               หลังได้หยุดบูชาอธิษฐาน

เราคนไทยอนุรักษ์ร่วมสักการ                          เสริมความสุขสำราญเบิกบานใจ

 

๑๔ จากพระธาตุศรีจอมทองสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

            จากพระธาตุศรีจอมทองรองเรืองค่า    ดูสง่าถิ่นพระธรรมนำสดใส

กล้าอาสาเจ็ดหนึ่งเจ็ดก้าวเดินไป                    ตั้งเป้าไว้มุ่งสู่ดอยอินทนนท์

            สองเท้าย่างขึ้นรถครบหมดแล้ว           เสียงเจื้อยแจ้วกระหื่มดังดั่งห่าฝน

การปล่อยมุกเรียกเสียงฮาจากทุกคน              สุขมากล้นการเดินทางของพวกเรา

            พอเวลาผ่านไปได้สักพัก                      ต่างประจักษ์ทุกคนหลับพาหงอยเหงา

มองข้างทางมากไม้ให้ร่มเงา                            มากขุนเขาอุดมสมบูรณ์พันธุ์

            รถแล่นไปสู่ทางอย่างคดเคี้ยว             พาใจเสียวแต่สนุกอย่างสุขสันต์

ถ่ายรูปเพื่อนเล่นไว้ให้ดูกัน                              ไม่ไหวหวั่นหนทางที่เผชิญ

            บ่ายกว่ากว่าถึงจุดพักหยุดพักผ่อน     เข้าห้องก่อนเก็บของไม่ขัดเขิน

ทำกิจกรรมอื่นต่อไป..ไม่หมางเมิน                   ยังเพลิดเพลินทำการงานทุกเวลา

 

 

๑๕ ริมน้ำตก...การทำความสะอาด

            สายนทีชุ่มฉ่ำจากป่าใหญ่                   น้ำรินไหลตกลงสู่หมู่หินผา

ส่งสายเลือดหล่อเลี้ยงไพรพนา                       ให้แกร่งกล้าสมบูรณ์เพิ่มพูนพันธุ์

            น้ำนั้นมีคุณประโยชน์มากมายนัก       เราจงร่วมอนุรักษ์อย่างแข็งขัน

คนละไม้คนละมือร่วมใจกัน                             ริมฝั่งนั้นจะสะอาดปราศมลทิน

            มีวิธีให้ช่วยทำอยู่หลากหลาย              แต่กลับกลายไม่ใส่ใจในทุกถิ่น

บางคนนั้นทิ้งขว้างอย่างเคยชิน                       จนแผ่นดินเปรอะเปื้อนเพราะคนทราม

            เหมือนฟ้าส่งคนดีลงมาเกิด                 ก่อกำเนิดเป็นต้นกล้าน่าเกรงขาม

“ อินทนนท์ ” ชื่อนี้ระบือนาม                            ได้งดงาม เพลิดเพลินจำเริญตา

            ช่วยกันปัดช่วยเก็บกวาดคนละน้อย    พากันร้อยเป็นน้ำใจที่แน่นหนา

งานสำเร็จดั่งใจหวังที่ตั้งมา                             เพราะพวกเราเหล่าต้นกล้าสามัคคี

 

๑๖ การสร้างฝาย

            ถึงริมดอยอินทนนท์พ้นช่วงบ่าย           มาสร้างฝายห้วยทรายเหลืองเลื่องศักดิ์ศรี

เหล่าชาวค่ายเร็วไวใจยินดี                               ร่วมชีวีพัฒนาป่าลำธาร

            เสียงวี้ดว้ายมากมายหลายตลบ          เมื่อได้พบสบสายน้ำที่กล่าวขาน

ผองเพื่อนมาร่วมมิตรจิตชื่นบาน                      สุขสำราญลงน้ำไปไม่รีรอ

            เพื่อนชาวค่ายหลายคนต่างสงสัย        ว่าสร้างฝาย คืออะไร อย่างใดหนอ

เรียกอีกทีให้ดีกว่า “ การชะลอ ”                      โดยนำหินมาต่อก่อเรียงราย

            เท้าแช่น้ำพยายามให้สำเร็จ                 เลื่อยไม้เสร็จลำเรียงส่งลงที่หมาย

หวังกั้นน้ำมีกินไว้ใช้สบาย                               เพียงหญิงชายเร่งรัดร่วมจัดแจง

            ความสำเร็จจากชีวิตจิตอาสา              เหล่าต้นกล้ามาร่วมสร้างกันทุกแห่ง

ด้วยน้ำพัก น้ำมือ และน้ำแรง                           เป็นฝายแกร่ง ถูกแต่งเติม เสริมด้วยใจ

 

 

๑๗ ดอยอินทนนท์

            เยือนยอดดอยสูงสุดแคว้นแดนสยาม  เลื่องลือนามไปทุกยุคทุกสมัย

ยามรุ่งเช้าอากาศหนาวร้าวทรวงใน                 มีต้นไม้สูงใหญ่อยู่เรียงราย

            “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์”          สูงมากล้นแดดรำไรในตอนสาย

ทรัพยกรธรรมชาติมีมากมาย                           มองดูคล้ายท้องถิ่นแผ่นดินทอง

            ทุกยามเช้าหมอกปกคลุมทั่วผืนป่า      มีกิ้งก่าหัวสีฟ้าน่าสยอง

กุหลาบพันปี ก่อเดือย และบัวตอง                  มีให้มองเยี่ยมชมได้ทั้งปี

            ดูเขาสูงเรียงสลับอย่างซับซ้อน            ทั้งกลุ่มก้อนเมฆงามตามพื้นที่

ธารน้ำตกแฝงตัวทั่วพงพี                                 แลดูดีมีอยู่ดูชื่นตา

            ประทับใจในงานโครงการหลวง          เป็นช่วงช่วงยืนยงคู่ดงป่า

ถึงถนนคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา                              เป็นลีลาฝึกใจให้อดทน

 

๑๘ ลมหนาว  สายหมอก

            หนึ่งพฤศจิกาในป่าใหญ่                      ตื่นแต่เช้าไร้แดดไร้เมฆฝน

รถสีส้มคันเดิมบรรทุกคน                                 ไปส่งบนจุดสูงสุดแผ่นดินไทย

            ผ่านหมอกหนาฟ้าหลบพบทางขาด     น่าอนาถเดินขึ้นมิใช่ใกล้

ถึงจุดมอบใบประกาศแทบขาดใจ                   เดินต่อไปขนลุกชูสู้แรงลม

            ลงจากดอยถอยกลับมาตรงทางผ่าน  สู่แดนกิ่วแม่ปานม่านหมอกถม

แต่เราไม่สนใจให้ทุกข์ตรม                               ยังนั่งกินข้าวต้มสบายใจ

            เสร็จยังเดินเข้าป่าอย่างกล้าสู้             เก็บความรู้ดูวิวป่าฟ้ากว้างใหญ่

แสนเพลิดเพลินเดินไปถ่ายรูปไป                     กว่าจะได้กินข้าวเลยครึ่งวัน

            แล้วมาไหว้พระมหาเจดีย์ที่สูงเด่น       ลมพัดเช่น ลมน้ำค้างสร้างสุขสันต์

ไหว้พระเสร็จออกมาถ่ายรูปกัน                        หลังจากต้องฝ่าฟันงานหลายคราว                 

 

 

๑๙ กิ่วแม่ปาน

            สุดสดชื่นมายืนยิ้มริมเชียงใหม่            ไม่ใกล้ไกล กิ่วแม่ปาน ย่านเมืองหนาว

ใช้เวลา ที่มีค่า อย่างยืดยาว                             รู้เรื่องราว ความเป็นมา ป่าพืชพรรณ

            เหล่าหญิงชายค่ายอาสาเจ็ดหนึ่งเจ็ด  ลงรถเสร็จ รีบเดินหน้า หาความฝัน

แม้ต้นไม้ จะร้อยรับ กับเถาวัลย์                       เราเชื่อมั่น จิตอาสา กล้าเผชิญ

            กิ่วแม่ปาน อุทยานสถานความสุข        เป็นแหล่งซุก ทุกชีวิต คิดสรรเสริญ

ผ่านป่าเมฆ อยู่โดดเด่น เห็นทางเดิน               เราเพลิดเพลินกับต้นหญ้าป่าอุดม

            แลทิวสวยด้วยพรรณไม้ที่หลายหลาก แม้ลำบากเดินท้องกิ่ว หิวขนม

อากาศเย็นเพียงใด ไม่ตรอมตรม                     ขอเชยชมความงามตามเส้นทาง

            ผ่านลำธาร ผ่านหน้าผา ฟ้าสวยสุด     มายืนหยุด จุดชมวิวทิวฟ้ากว้าง

ทั้งลมเย็น เห็นทางออก หมอกเบาบาง            แล้วเพื่อนต่าง เดินต่อไป ไม่รู้โทรม

 

๒๐ นภเมทนีดล<

หมายเลขบันทึก: 454351เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2011 09:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท