พระราชพิธีตรียัมปวาย – ตรีปวายในประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้น ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายไปตามยุคตามสมัยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในหลาย ๆ ด้าน ทั้งภูมิประเทศ สภาพเศรษฐกิจ การปกครอง
พระราชพิธีตรียัมปวาย - ตรีปวาย และ/หรือ การโล้ชิงช้าตามคติของพราหมณ์นั้นมีมานานแล้วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะดินแดนประเทศไทยปรากฏหลังฐานมาตั่งแต่ก่อนสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี หลักฐานเก่าที่สุดที่บันทึกแน่ชัดสุดเกี่ยวกับลัทธิไศวนิกายในดินแดนประเทศไทยคือ ศิลาจารึกหุบเขาช่องคอย อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ค้นพบที่ ต.ควนเกย อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจารึกที่เก่าแก่ที่สุดหลักแรก ๆ ของประเทศไทย ข้อความดังนี้ :-
จารึกหุบเขาช่องคอย อักษรปัลวะ ภาษาสันสกฤต พุทธศตวรรษที่ ๑๒
พบที่ตำบลควนเกย อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ตอนที่ ๑ (ศิลาจารึกนี้เป็น) ของพระผู้เป็นเจ้าแห่งวิทยาการ (พระศิวะ)
ตอนที่๒ ขอความนอบน้อม จงมีแก่ท่านผู้เป็นเจ้าแห่งป่า
ขอความนอบน้อม จงมีแก่ท่านผู้เป็นเจ้าแห่งเทพทั้งมวล
ชนทั้งหลายผู้เคารพต่อพระศิวะ คิดว่า ของอันท่านผู้เจริญ
(พระศิวะนี้) จงฝังให้มีอยู่ในที่นี้ จึงมาเพื่อประโยชน์ (นั้น)
ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใด
ตอนที่ ๓ ความสุขและผล (ประโยชน์) จงมีแก่ชนทั้งหลายนั้น (ศิลปากร, กรม, จารึกในประเทศไทย เล่ม ๑, ๒๕๒๙ : ๕๔)
กลุ่มที่สร้างจารึกหุบเขาช่องคอยขึ้นนี้ คงจะมีกลุ่มชนที่ใช้ภาษาสันสฤตนับถือศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย และคงได้เดินทางมาพักพิงอาศัยในบริเวณนี้ เป็นการชั่วคราว ไม่ใช่กลุ่มคนที่อยู่ประจำถิ่น อีกทั้งยังได้กำหนดสถานที่บริเวณศิลาจารึกหุบเขาช่องคอยขึ้นเป็นเทวสถานไวศนิกายเพื่อปฏิบัติกิจตามจารีตของตน (ศิลปากร, กรม, จารึกในประเทศไทย เล่ม ๑, ๒๕๒๙ : ๕๔) จึงทำให้สันนิฐานได้ว่า พิธีตรียัมปวาย- ตรีปวาย ซึ่งถือว่าเป็นพิธีสำคัญในลัทธิไศวนิกายคงได้ถูกประกอบขึ้น ณ ที่นี้ด้วย
อีกหลักฐานสำคัญที่ระบุการประกอบพระราชพิธีตรียัมปวาย – ตรีปวายในแผ่นดินประเทศไทย ปรากฏในจารึกปราสาทพนมรุ้ง หลักที่ ๙ ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ จังหวัดบุรีรัมย์ ข้อความ ดังนี้ :-
จารึกพนมรุ้ง ๙ (ด้านที่ ๑) อักษรขอมโบราณ ภาษาสันสกฤต พุทธศตวรรษที่ ๑๘
พบที่ ปราสาทหินพนมรุ้ง ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
ด้านที่ ๑
โศลกที่ ๔ เขาได้ถวายชิงช้าซึ่งมีชื่อว่า ชิงช้างาม (อินฺทรโทล) แด่อิศวรที่ชื่อถัทรเรศวร และนอกจากนี้ยังได้ถวายยานใหญ่แด่พระศัมภุ ซึ่งสถิตบนถูเขาใหญ่อีกตัว
โศลกที่ ๕ เขาได้ถวายชิงช้าทองอันดี มีค่า ซึ่งบรรทุกด้วยยาน สำหรับโล้แด่พระเทวีในราชคูห่ เพื่อความสุขแด่พระศาสดาที่เคารพ
ฯลฯ
จารึกพนมรุ้ง ๙ (ด้านที่ ๒) อักษรขอมโบราณ ภาษาสันสกฤต พุทธศตวรรษที่ ๑๘
พบที่ ปราสาทหินพนมรุ้ง ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
ด้านที่ ๒
โศลกที่ ๕ เรียกว่ากระแสน้ำและลม............ถวายแด่พระศิวะ....................เขาได้ (ถวาย) ชิงช้าสำหรับโล่แด่ครู (ศิลปากร, กรม, จารึกในประเทศไทย เล่ม ๔, ๒๕๒๙ : ๑๘๕)
เชื่อได้ว่าประเทศไทยได้รับประเพณีการโล้ชิงช้าเนื่องในพิธีตรียัมปวาย – ตรีปวาย จากอาณาจักรขอมมานับแต่บัดนั้น
วาทิน ศานติ์ สันติ : เรียบเรียง
อ้างอิง
ศิลปากร, กรม จารึกในประเทศไทย เล่ม ๑ – ๕. กรุงเทพฯ : หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร. ๒๕๒๙.
ข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศุนย์มานุษยวิทยาสิริธร. http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/th/main.php?p=ZGV0YWls&id=10
ไม่มีความเห็น