เป็นเป้าหมายหรือเป็นแค่ความฝัน


ผมเชื่อว่าทุกคนคงต้องมีการตั้งเป้าหมายในชีวิต ว่าอนาคตอยากจะเป็นอะไร อยากจะได้อะไร เคยลองถามตัวเองมั้ยครับว่าสิ่งที่ตั้งขึ้นมานั้น เป็นเป้าหมายที่แท้จริง หรือเป็นแค่ความฝันของเรา ที่ฝันไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีวิธีที่จะทำให้ฝันนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมา

บางคนนั้นสับสนระหว่างเป้าหมายกับความฝัน คนที่มีเป้าหมายในใจ จะพยายามหาวิธีที่จะไปสู่เป้าหมายที่เขาต้องการ ผิดกับคนที่มีแค่ความฝัน ก็จะฝันไปเรื่อยๆ อยากได้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้คิดถึงวิธีการที่จะไปสู่ความฝันที่เราต้องการเลย

ที่ผมเขียนเรื่องนี้ก็เพราะว่า มีน้องๆ และเพื่อนๆ หลายคนที่บ่นว่า ตนเองไปไม่ถึงเป้าหมายที่เราต้องการสักที ไม่รู้เป็นอะไร ทั้งๆ ที่ก็ทำตามนักจิตวิทยา หรือหนังสือพัฒนาตนเองทั้งหลาย ว่าจะต้องมีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ให้ขอสิ่งที่ตนเองต้องการโดยกำหนดสิ่งนั้นให้ชัด และให้เชื่อว่าเราจะได้สิ่งนั้น จากนั้นก็รอรับ

ผมว่าสิ่งที่ทำข้างต้นนั้นเป็นเพียงแต่ความฝันนะครับ เพราะถ้าเป็นเป้าหมายที่ต้องการจริงๆ สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือการกำหนดสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจนมากๆ มีนักจิตวิทยาทางด้านการสร้างความสำเร็จในชีวิตหลายคนกล่าวไว้ว่า การที่เราต้องการจะบรรลุเป้าหมายอะไรสักอย่างนั้น เราจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และเขียนลงบนกระดาษที่เราสามารถเห็นได้ทุกวัน ตัวอย่างการเขียนเป้าหมายที่ดี กับความฝันนั้นแตกต่างกันดังนี้ครับ

ความฝัน

เป้าหมายที่ชัดเจน

  • ฉันอยากเรียนหนังสือเก่งๆ ได้เกรดดีๆ
  • ฉันอยากหุ่นดีเหมือนนางแบบ นายแบบ
  • ฉันอยากรวย
  • ฉันจะทำเกรดเฉลี่ยให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3.5 ในเทอมนี้
  • ฉันจะลดน้ำหนักลงอีก 10 กิโลกรัม และมีสัดส่วน 34 24 36 ภายในปี 2554
  • ฉันจะทำรายได้ 5 ล้านบาทในปี 2554

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างเป้าหมาย กับความฝันก็คือ เป้าหมายจะมีความชัดเจนมากกว่า มีขอบเขตที่สามารถวัดได้ และมีระยะเวลาที่บอกอย่างชัดเจนว่าจะต้องบรรลุเมื่อไหร่

แต่เป้าหมายที่ชัดเจนนั้น มันก็อาจจะกลายเป็นแค่เพียงความฝันได้เช่นกัน ถ้าเราไม่มีวิธีการไปสู่เป้าหมายนั้นๆ และทำมันอย่างจริงๆ จังๆ ทุกวัน เช่น นักศึกษาที่ต้องการเรียนหนังสือให้ได้เกรดดีๆ อยากเรียนเก่งๆ ตั้งเป้าหมายที่วัดได้ด้วยเกรดเฉลี่ย จากนั้นแต่ละวัน ก็นอนเล่น คุยเล่น แชทกับเพื่อน เล่นเฟซบุ๊ค เดินชอปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยวกลางคืน ฯลฯ ถ้าทำแบบนี้เป้าหมายที่เราตั้งไว้อย่างชัดเจนนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน อยู่ดีครับ

ถ้าเราตั้งเป้าชัดแล้วแต่ไปไม่ถึงสักที หรือทำยังไงก็ไม่สามารถที่จะควบคุมตนเองให้ไปถึงเป้าหมายนั้นได้ แสดงว่าเป้าหมายนั้นไม่ใช่เป้าหมายที่เราอยากจะบรรลุจริงๆ เพราะถ้าคนเรามีเป้าหมายที่เราอยากจะบรรลุให้ได้จริงๆ แล้ว คนเราจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาให้ได้ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่ามี Passion ครับ ก็คือมีความอยากที่จะไปสู่เป้าหมายนั้นมากเพียงใด มีความต้องการแบบสุดๆ ว่าต้องทำให้ได้นั่นเองครับ

เมื่อเรามี Passion แล้ว พฤติกรรมของเราก็จะเปลี่ยนไป เพราะเราเอาเป้าหมายนั้นมาเป็นภาพในอนาคตที่เราจะต้องไปให้ถึง และจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันใหม่ เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายนั้น เช่น นักศึกษาคนเดิม เริ่มมี Passion ในการที่จะเรียนให้เก่ง และจบด้วยเกรดไม่ต่ำกว่า 3.5 สิ่งที่เขาจะทำก็คือ ทบทวนบทเรียนทุกเย็นหลังจากกลับถึงบ้าน อ่านหนังสือเพิ่มเติม และตั้งใจเรียนเวลาที่อาจารย์สอน พยายามทำความเข้าใจบทเรียนให้ได้มากที่สุด เมื่อไม่เข้าใจก็ถาม ถึงเวลาวันหยุด ก็ค่อยไปเที่ยวบ้างอะไรบ้าง

นี่คือการปรับเปลี่ยนชีวิตของเราใหม่ เพื่อให้เราไปถึงเป้าหมายที่เราต้องการจริงๆ ผมขอเอาคำพูดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มาให้อ่านกันอีกสักครั้งนะครับ เขาพูดว่า

“Insanity: doing the same thing over and over again and expecting different results.”

แปลเป็นไทยว่า

“มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก ที่เราจะคาดหวังให้เกิดผลลัพท์ที่ดีในชีวิตด้วยการทำสิ่งเดิมๆ ทุกวันๆ”

อยากได้ผลอย่างไรเราก็ต้องลงมือหว่าน และหมั่นรดน้ำพรวนดินทุกวัน ไม่ใช่แค่คิด แล้วผลจะเกิดขึ้นได้ จริงมั้ยครับ

คำสำคัญ (Tags): #เป้าหมาย
หมายเลขบันทึก: 452142เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2011 06:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม 2012 11:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท