"พี่หนาน"
นาย พรพจน์ พี่หนาน เรียงประพัฒน์

ได้-เสียอะไรจากอุบัติเหตุ


ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง

๒๙/๐๗/๒๕๕๔ ************

            เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา เวลาประมาณ ๑๑.๔๕ น. พี่สาว คือนางอ้อย ธานี ประสบอุบัติเหตุ ได้ถูกรถตู้เย็นส่งไอศกรีม “วอลล์” เฉี่ยวชนมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า สกูปี้ ตรงบริเวณปากทางสามแยกเข้าหมู่บ้าน รถของพี่สาววิ่งมาทางซ้ายมือ พอใกล้ถึงทางแยกเลี้ยวขวาก็เปิดไฟเลี้ยวแล้วก็เลี้ยวอย่างกะทันหัน ขณะนั้นรถส่งไอศกรีม ขับมาด้วยความเร็วและกำลังจะแซงก็เฉี่ยวชนรถพี่สาวทางด้านซ้ายของคนขับอย่างแรงเสียงดังสนั่นรถล้ม พี่สาวกลิ้งไปสองสามตลบ มีพนักงานจ้างของ อบต. กำลังตัดหญ้าอยู่ริมทางเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี หลายคนได้ช่วยกันนำตัวพี่สาวส่งโรงพยาบาลอำเภอทองแสนขัน หมอตรวจเอ็กซเรย์อาการเบื้องต้น ปรากฏว่า กระดูกเชิงกรานหัก และเจ็บไหล่ด้านขวาซึ่งกระแทกกับตัวรถตู้ไอศกรีมและที่ตะโพกอีกแห่งหนึ่ง สรุปแล้วก็ไม่ถึงกับอาการโคม่าเท่าไหร่

           ปัญหาที่พบในวันนั้นก็คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสถานที่เกิดเหตุ มีการทำแผน ถ่ายรูปรถทั้งสองคันว่า เสียหายตรงไหน ลักษณะอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งเรียกหาคนที่เห็นเหตุการณ์มาสอบถาม ล่าช้าพอสมควร จากนั้นก็ให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายนำรถไปที่โรงพักตัวอำเภอ แล้วก็ทำสำนวน เรียกหาเอกสารของทั้งสองฝ่าย เกิดความล่าช้า เพราะเอกสารของนางอ้อย ธานี หาไม่พบ เพราะในใต้เบาะรถหรือที่ตัวรถคันดังกล่าว

            • ไม่มีสำเนาเอกสารซื้อขายประจำอยู่กับรถ

            • ไม่มีสำเนาหนังสือคู่มือทะเบียนรถ

            • ไม่มีประกันที่ยังมีอายุความ มีแต่ประกันของ บ.วิริยะที่พึ่งหมดไปสามวัน

            • ไม่มีใบขับขี่ของผู้บาดเจ็บ(ยังหาไม่เจอ)

            ผู้เขียนจึงได้ติดต่อขอเอกสารการซื้อขาย หนังสือคู่มือทะเบียนรถจากทางร้านศรีชัยฯอุตรดิตถ์ ที่ซื้อรถมา(รถกำลังผ่อนส่งยังไม่ได้โอน) ไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของทางร้าน จึงนึกขึ้นได้ว่า ต้องติดต่อสอบถามศูนย์โทรศัพท์ที่ให้บริการค้นหาหมายเลขทั่วประเทศ คือ 1133 ไม่ต้องกดดอกจันหรือสี่เหลี่ยมอะไร ก็ได้หมายเลขของร้านศรีชัยที่ขายมอเตอร์ไซค์มา จากนั้นก็โทรติดต่อให้ทางร้านส่งเสาเนาเอกสารทะเบียนรถพร้อมกับเอกสารการต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถส่งมาให้ ทางร้านได้ส่งแฟกซ์สำเนาเอกสารที่ต้องการส่งมาให้ที่ฝ่ายสื่อสารสถานีตำรวจ การสื่อสารมีประโยชน์มากก็ตอนที่เรากำลังมีปัญหานี่แหละ

            ต่อไปผมคงจะต้องเตรียมเอกสารการซื้อขาย ทะเบียนรถ พ.ร.บ.ติดไว้ใต้เบาะรถมอเตอร์ไซค์ของผมบ้างแล้วหละ และคอยเช็คระยะเวลาการหมดอายุของ พ.ร.บ. และทะเบียนเป็นระยะ ๆ ด้วย

            การประสบอุบัติเหตุของพี่สาวคนเดียว ทำให้เมียผู้ใหญ่บ้านเดือดร้อนเพราะบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุรีบขี่มอเตอร์ไซค์มาบอกญาติที่บ้าน พี่เขยกำลังทำงานซ่อมมอเตอร์ไซค์กับลูกชายต้องรีบเอารถกระบะออกไปที่เกิดเหตุ แต่ไม่ทันคนอยู่ใกล้กว่าคือช่างปะผุเคาะพ่นสีที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ น้าใหม่ต้องรีบโทรไปหาพี่สาวคือแม่ของผู้บาดเจ็บที่ไปเยี่ยมคนป่วยในหมู่บ้าน ป้าพรรณผู้ช่วยน้าใหม่ขายของ รีบวิ่งมาบอกผมให้โทรตามแม่ให้ไปดูพี่สาว น้ารีบขับมอเตอร์ไซค์ไปดูพี่สาวที่โรงพยาบาลพร้อมกับหลานชายคนเล็กที่กลับมาจากโรงเรียนเพื่อมาเอาของอะไรสักอย่าง แม่มาถึงบอกผมให้เฝ้าบ้าน เพราะไม่มีใครอยู่ดูร้านทั้งสองแห่ง

            ผมปิดร้านแล้วรีบไปดูเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ประกอบการทำสำนวน ณ จุดเกิดเหตุจากนั้นก็ไปเยี่ยมพี่สาวที่โรงพยาบาลพร้อมกับ “ดาว” เพื่อนของน้องสาวลูกของน้าหล้าอีกคนหนึ่ง และได้ไปติดต่อทำเอกสารประกอบสำนวนของตำรวจกับน้า

            “หนานจิ๊บ” น้องชายลูกน้าใหม่มาจากพิษณุโลกพึ่งมาถึงก็ช่วยขับรถกระบะของญาติอีกคน พร้อมกับคนที่รู้ข่าวอยากไปเยี่ยมจำนวนหนึ่งไปที่โรงพยาบาล ส่งคนเสร็จแล้วเลยไปเอา “น้ำมันมนต์” ของหมอกระดูกที่บ้านนาลับแลง อีกประมาณ ๕ กิโลเมตร เพื่อนำมาให้พี่อ้อย เอาไว้ทาบริเวณที่ฟกช้ำและตรงที่กระดูกหัก

             ผมมาติดต่อเรื่องประกันสุขภาพที่โรงพยาบาลอีกครั้งกับน้าใหม่ พอมาที่ห้องผู้ป่วยเห็นคนมาเยี่ยมพี่สาวกันแล้ว ๕-๖ คน ข่าวสารตามชนบทเดินทางรวดเร็วมาก โดยไม่ต้องใช้เครื่องขยายไมโครโฟน “ปากคนยาวกว่าปากกา” ไม่กี่นาทีก็รู้กันเกือบทั้งหมู่บ้าน ยิ่งถ้าเป็นคนตายพอได้ยินเสียงเพลง “ธรณีกรรแสง” ยิ่งไวมาก

             คนเราทุกคนมักจะ “ได้อย่าง เสียงอย่าง” เสมอ ผมกับพี่เขย “ต้องเสีย” รายได้จากการค้าขายและซ่อมรถที่ร้าน น้าใหม่เป็นแม่ค้าขายของชำ สินค้าการเกษตรต้องเสียรายได้จากการขายของหลาย ๆ อย่าง ดาว ต้องเสียเวลาในวันหยุดที่ไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ (ทำงานโรงโม่หิน) ในการซักเสื้อผ้า พักผ่อน ทำงานบ้าน  น้องจิ๊บต้องเสียเวลาที่จะไปติดต่อขายสินค้าแอมเวย์และพักผ่อนจากการขี่มอเตอร์ไซค์มาจากพิษณุโลก พนักงานจ้างของอบต.ที่กำลังตัดหญ้าอยู่ริมถนนต้องเสียเวลาวิ่งมาช่วยกันประคองคนเจ็บ ขึ้นรถและกลับมาให้ตำรวจสัมภาษณ์อีกครั้ง คนที่เปิดร้านปะผุ เคาะพ่นสี อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ต้องเสียเวลาหารายได้รีบนำผู้ป่วยขึ้นรถเพื่อไปส่งโรงพยาบาล ตำรวจหลายนายต้องเสียเวลามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ฯลฯ

            ชีวิตคนเราทุกคนนั้น ต่างมีความผูกพันกับผู้คนรอบข้างจำนวนไม่น้อยเสมอ  อย่างน้อยก็ญาติวงศาของเราเอง  โดยเฉพาะ “พ่อกับแม่” ที่คอยมาเฝ้ายามป่วยไข้ คอยปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ เตียงไม่ห่างหาย พี่สาวผมก็เช่นกัน “แม่” ต้องไปคอยเฝ้าพี่สาวอยู่ทุกวันถึงสามสี่ทุ่มพี่เขยถึงจะไปเปลี่ยนและนอนเฝ้าแทน

             สิ่งที่ “ได้มา” คือ ได้เห็นความช่วยเหลือ ความมีน้ำใจของทุกคนทุกฝ่าย ตั้งแต่คนงานตัดหญ้าริมถนน คนเรียกรถคือเมียผู้ใหญ่บ้าน คนปะผุที่นำรถมารับคนป่วย คนที่บ้านใกล้มาช่วยยกรถหลบให้พ้นจากถนนหลวง น้ำใจของเจ้าหน้าที่จุดตรวจบ้านแพะที่มารักษาจุดเกิดเหตุและขี่รถไปตามคนตัดหญ้ามาให้ปากคำ น้องดาว น้าใหม่ น้าพรรณ น้องจิ๊บ ลุงไซ ป้าหลัด ป้างอ หลายคนที่คอยเป็นห่วง

            และที่ลืมไม่ได้ก็คือ “น้อง” สองคนที่เป็นคนขับรถส่งไอศกรีม “วอลล์” ที่เฉี่ยวชนแล้วไม่หนีรับผิดชอบต่อความพลาดพลั้งของตนอย่างสมกับความเป็นลูกผู้ชาย คอยให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจนมีอาการเริ่มดีขึ้นมากแล้ว

            วันต่อมาก็มีคนคุ้นเคยซึ่งเปรียบเสมือนญาติอย่างยิ่ง “วิสสาสา ปรมา ญาตี” (พุทธศาสนสุภาษิต) พอรู้ข่าวก็หลั่งไหลพากันมาเยี่ยมคนป่วยที่โรงพยาบาล จนหมอต้องย้ายคนป่วยจากห้องรวมไปห้องพิเศษ เนื่องจากเสียงดัง คนเข้าออกพลุกพล่าน คนป่วยแทบไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะมัวแต่ตอบคำถามของหลาย ๆ คนแบบอัตโนมัติครึ่งหลับครึ่งตื่น

           ผมเองก็ต้องขอขอบคุณทุกคน ทุกท่าน ทุกฝ่ายที่ช่วยให้พี่สาวอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วรวมทั้งคุณหมอและนางพยาบาลด้วยครับ

หมายเลขบันทึก: 451524เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2011 20:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท