การที่ชีวิตได้มีโอกาสลืมตาขึ้นมาได้พบอากาศบริสุทธิ์ในช่วงตีสาม ตีสี่ ตีห้า ถือว่าเป็น “กำไรของชีวิต”
อากาศที่ชุ่มชื่นจากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ
ผสมผสานกับความเงียบสงัดจากเสียงรถราที่ยังไม่ออกมาวิ่งบนท้องถนน
บรรยากาศยามเช้าจึงเป็นความสงบที่เราทุกคนสามารถสัมผัสได้
การทำวัตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ เพื่อที่ฝึกฝนจิตใจนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะทำในตอนเช้า ๆ
การมีโอกาสได้อยู่เงียบ ๆ นั้น จิตใจของเราสามารถพบกับความสงบในเบื้องต้น คือ พบกับความสงบทางกาย
สภาพบรรยากาศที่ใครต่อใครในสังคมยังไม่ออกาเดินขวักไขว่ไปหา เป็นบรรยากาศอันแท้จริงของชีวิต
ชีวิตที่เราเห็นในช่วงสาย เป็นชีวิตที่ถูกหลอกล่อด้วยกิเลส ตัณหา กามราคะ
อันเป็นมารที่หลอกให้เราดิ้นรน ไขว่คว้า เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง ทรัพย์สิน หาให้ได้มาก ๆ เกินอยู่ เกินกิน
สภาพตอนเช้าที่เงียบสงบนั้นเป็นธรรมชาติที่สอนเราว่า ชีวิตที่สุขแท้นั้นคือชีวิตที่สงบ
ชีวิตที่ไม่ต้องดิ้นรน ไขว่คว้า ไปตามกิเลส ตัณหา และกามราคะที่หลอกให้เราทะยานอยากไปตามผู้คนและสังคม
ยามรุ่งอรุณของวันใหม่ ฝูงวิหคนกกาส่งเสียงร้องจุ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ ในแนวไพร เป็นเสียงเพลงที่ไพเราะ สดใส
ชีวิตที่ไม่มีวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เป็นชีวิตที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันเที่ยงแท้
ชีวิตที่เที่ยงแท้คือชีวิตที่สงบ
ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่แสนสงบ
ตื่นเช้าวันละนิด จิตแจ่มใส
หากเราได้ตื่นนอนตอนเช้า ๆ แล้วเราจะพบความสุขที่แท้จริง...
ปภังกร วงศ์ชิดวรรณ
17 กรกฎาคม 2554
นี่คือความหมายของการมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง...