วัณโรคถือเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาของหลายๆพื้นที่ จากตัวของโรคเอง จากยาต้านวัณโรคที่มีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างไม่เป็นที่ประทับใจ หรือก่อเกิดการรบกวนชีวิตคนไข้มากที่สุด แม้กระทั่งในด้านขององค์ความรู้ ของโรค การดูแลตนเอง และการดูแลเมื่อมีสมาชิกที่เจ็บป่วย ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เป็นโรคที่สังคมยังไม่รังเกียจ ไม่อยากเข้าใกล้ กลัวการติดเชื้อ ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ ต้องประสบกับความทุกข์ยากเป็นอย่างมาก สุดท้ายเมื่อมีปัญหารุมเร้ามากขึ้น ทำให้ไม่มารับยาที่ต่อเนื่อง หรือหยุดการรักษาไปเลย
กาก้า เป็นผู้ป่วยอีกรายหนึ่งที่อยู่ในการดูแลของเรา ได้รับส่งต่อจากงานคลินิควัณโรคว่า กาก้าไม่มารับยาตามนัด บ่ายวันแรกที่เราไปตามเยี่ยมบ้าน ภาพที่เห็น สภาพบ้านปูนชั้นเดียว ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ประตูไม้เก่าๆถูกปิดไว้ เสมือนว่าไม่น่าจะมีคนอยู่บ้าน เราจึงไปถามข้างบ้าน
“ บ้านหลังนี้มีคนอยู่มั้ย หมอจากโรงพยาบาลบัวขาวมาเยี่ยม “
“ เขาอยุ่ในนั้น แหละ เรียกดังๆๆเลย”
แล้วเขาก็มาเรียกคนไข้ช่วยเรา “กาก้า หมอมาเยี่ยม กาก้าตื่นหรือยัง” เสียงประตูไม้เก่าๆๆดังเอี๊ยด แล้วค่อยๆเปิดออก ภาพวัยรุ่น ผมกระเซิง ตัวผอมๆๆหน้าตายังไม่ส่างนอน เสียงเนือยๆๆในการตอบคำถาม
“กาก้า หมอที่โรงพยาบาล บอกว่า กาก้า ขาดยา ไม่ไปรับยา มีปัญหาอะไรให้หมอช่วยหรือเปล่าคะ “
“หมอ วันนี้ข้าวผมก็ยังไม่ได้กินเลย ผมไม่มีแรงไปหาหมอหรอก เงินค่ารถไปหาหมอก็ไม่มี “
คำถามที่ฉันถามออกไป กับคำตอบที่ได้มา มันช่างเป็นคำถามที่ไม่ตรงคำตอบเอาเสียเลย
“ผมเหนื่อย ผมอยากนอน”
คำพูดคำสุดท้ายจบลง พร้อมกับมือผอมๆข้างนั้นก็ดึงประตูไม้เก่าๆปิดตามเข้าไปด้วย
โอ้…..ไม่นะ..เธอทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ….ฉันมาเยี่ยมเธอนะ….ฉันได้แต่คร่ำครวญในใจ
เมื่อทีมเยี่ยมบ้านเราขึ้นมาอยู่บนรถพร้อมกัน แต่ละคนก็ได้แสดงความคิดเห็นไปต่างๆนานา บ้างก็บอกว่าปล่อยเขาไปเถอะ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย บางคนก็บอกว่าน่าสงสาร และกลุ่มที่ว่าน่าสงสารมีเยอะกว่ากลุ่มแรก คือ 2 ต่อ 1 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมทั้งฉันด้วย แล้วเราก็เริ่มวางแผนกันใหม่ ว่าเราจะเข้ามาหากาก้าได้อย่างไร
“กาก้า หมอเอาข้าวมาฝาก มีเงาะด้วย”
สักครู่ประตูบานที่ปิดใส่เราเมื่อวานก็แง้มออกมา แล้วตัววัยรุ่นผอมๆ ท่าทางโทรมโทรมคนหนึ่งก็เดินโซเซออกมาหาเราที่ใต้ต้นมะยมหน้าบ้าน และยื่นมือผอมๆมารับถุงข้าวกับผลไม้ไปถือไว้และยกมือไหว้กล่าวขอบคุณ พร้อมแววตาที่ดีใจ
“พรุ่งนี้หมอมาเยี่ยมอีกได้ไหม “
กาก้าพยักหน้า และกล่าวขอบคุณเราอีกครั้งสำหรับข้าวมื้อนี้ แล้วเราก็พากันขึ้นรถเพื่อไปเยี่ยมคนไข้รายอื่นๆต่อไป แต่บทสนทนาของเราบนรถวันนี้ช่างแตกต่างจากเมื่อวาน ทีมงานเยี่ยมบ้านทุกคนดูมีความสุข และทุกคนได้คุยกันถึงเรื่องพรุ่งนี้ว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป
“กาก้า หมอเอาข้าวมาฝาก ”
วันนี้กาก้ามายืนรอเราที่ใต้ต้นมะยมหน้าบ้าน และใบหน้าที่ดูมีพลังชีวิตมากกว่าเมื่อวาน ฉันจึงเริ่มต้นถามเรื่องครอบครัวของกาก้า เพราะตั้งแต่ที่เรามาเยี่ยมเรายังไม่เห็นคนอื่นๆในบ้านหลังนี้เลย และแล้วเรื่องราวต่างๆตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันก็พรั่งพรูออกมา กาก้ามีพี่น้อง 3 คนพี่ชาย และน้องชาย พ่อแม่แยกทางกัน ตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อเรียนจบประถมหก ก็ไปทำงานรับจ้างกับญาติที่กรุงเทพฯ และด้วยชีวิตวัยรุ่นที่ขาดครอบครัวยึดเหนี่ยวทำให้ใช้ชีวิตที่ไร้ทิศทางเงินที่ได้มาจากการทำงานอันน้อยนิดก็เที่ยวเตร่ ไม่มีใครให้ผูกพัน แล้ววันหนึ่งร่างกายก็ทรุดโทรม ไม่รู้จะเหลียวหน้าไปหาใครที่อยู่ในเมืองหลวง จึงได้กลับมาที่บ้านเกิด โชคยังดีที่ยังมีบ้านหลังเก่าๆที่ยายได้สั่งเสียไว้ก่อนตายว่าเก็บไว้ให้ลูกหลานที่ไม่มีที่อาศัย ไม่ให้มีใครเป็นเจ้าเข้าเจ้าของโดยเด็ดขาด กาก้าจึงได้มีที่พอคุ้มแดดคุ้มฝนบ้าง ส่วนพี่น้องคนอื่นๆก็หาเลี้ยงใส่ปากใส่ท้องตนเองก็แทบไม่พอยาไส้ ส่วนแม่ก็ไปมีสามีใหม่และฐานะก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เขาไม่รู้ว่าแต่ละวัน จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร วันๆจึงมีแต่นอนโดยไม่รู้วันเวลา อยากนอนหลับโดยไม่ต้องตื่นขึ้นมา
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวกาก้าแล้วทุกคนรู้สึกเห็นใจเขาอย่างมาก เมื่อกลับมาที่ทำงานเราประชุมทีมใหญ่กันถึงแนวทางการช่วยเหลือกาก้า โดยเป้าหมายหลัก คือ กาก้าต้องมีข้าวกิน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราไม่อาจพูดเรื่องการกินยาวัณโรคกับเขาได้เลย ซึ่งข้าวที่เราเล็งเห็นนั่นก็คือข้าวโรงครัวนั่นเอง เพราะโดยปกติคนไข้วัณโรคที่มีปัญหาเรื่องการกินยาแพทย์จะต้องให้นอนโรงพยาบาลเพื่อให้อยู่รับยาที่ห้องแยกโรคอยู่แล้ว กาก้าก็ถือว่าเข้าเกณฑ์เพียงแต่เปลี่ยนจากห้องแยกโรคโรงพยาบาลเป็นที่บ้านคนไข้ และให้วันละมื้อ หยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไข้ได้ช่วยตนเองบ้าง คำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วถูกกว่ามาก หลังจากเป็นมติที่ประชุมของเราแล้ว พี่ปิ๋มได้อาสาที่จะเป็นผู้เจรจาทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับข้าวที่โรงครัว
“กาก้า วันนี้เป็นข้าวมันไก่นะ ได้มาถุงเบ้อเร่อเลย พี่ที่โรงครัวใจดีมากกลัวกาก้าไม่อิ่ม”
“วันนี้ดูหน้าตาสดใสขึ้นมากเลยนะ ดูหล่อกว่าเมื่อวานตั้งเยอะเลย”
“พี่ขอดูสมุดบันทึกการกินยาและยาที่เหลือหน่อยสิ “
“โอ้โฮ เก่งจังเลย บันทึกได้ถูกต้อง ตัวหนังสือก็สวยด้วย “
สำหรับเรื่องการบันทึกการกินยานั้น ตอนแรกเราได้นำปฏิทินไปให้เขาทำเครื่องหมายกากบาทในวันที่กินยาและเราเป็นคนลอกลงสมุดให้ เนื่องจากบอกให้เขาทำแล้วเขาไม่ยอมทำ จึงต่อรองให้ทำเครื่องหมาย ส่วนเรื่องยา เป็นระบบการเติมยา โดยเริ่มจาก 5 วัน ดูว่ากินได้ถูกต้องก็เพิ่มเป็นอาทิตย์ ขยับเป็น 2 อาทิตย์ แล้วในที่สุดก็เป็นเดือนและบันทึกลงสมุดเองโดยที่เราไม่ต้องบอก
“กินยาครบ 2 เดือนแล้ว ต้องไปตรวจเอกซเรย์ปอดที่โรงพยาบาลนะ ไปได้มั้ย เอาเสมหะไปตรวจด้วย พี่จะเอาตลับไว้ให้นะ และจะทำบัตรรอไว้ “
วันแห่งปาฏิหาริย์ ของเช้าวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันคลินิกวัณโรค เราได้เห็นกาก้ามายืนอยู่ที่หน้า PCU ทุกคนพากันตื่นเต้น และดีใจมากเหมือนสิ่งที่เราแอบหวังและลุ้นอยู่ลึกๆแล้วมันเป็นจริงขึ้นมา หลังจากที่ทักทายกันแล้ว ฉันรีบไปทำบัตรและได้ไปส่งเขาที่ห้องเอกเรย์
ตอนนี้กาก้ารับยาเดือนสุดท้าย อีกไม่กี่วันก็จะครบ แ ต่เราไม่ได้เอาข้าวไปให้เขาแล้ว เพราะเขาสามารถที่จะทำงานรับจ้างที่ร้านขายของส่งและมีรายได้เพื่อดูแลตนเอง และบางครั้งมีญาติๆ เพื่อนๆแวะเวียนมาที่บ้านเพื่อเยี่ยมยามถามข่าว
“ CAT 5 ใช้สำหรับผู้ป่วย TB ที่ไม่มีข้าวกิน TB ที่นอนทั้งวัน เพราะไม่รู้จะตื่น มาทำไม ตื่นมาก็ไม่มีข้าวกิน ”
โดย วัณณา แสงฤทธิ์ พยาบาลศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลบัวขาว
ไม่มีความเห็น