ยาต้านวัณโรค CAT 5


วัณโรคถือเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาของหลายๆพื้นที่ จากตัวของโรคเอง  จากยาต้านวัณโรคที่มีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างไม่เป็นที่ประทับใจ  หรือก่อเกิดการรบกวนชีวิตคนไข้มากที่สุด  แม้กระทั่งในด้านขององค์ความรู้ ของโรค  การดูแลตนเอง  และการดูแลเมื่อมีสมาชิกที่เจ็บป่วย  ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ  เป็นโรคที่สังคมยังไม่รังเกียจ  ไม่อยากเข้าใกล้  กลัวการติดเชื้อ  ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ ต้องประสบกับความทุกข์ยากเป็นอย่างมาก  สุดท้ายเมื่อมีปัญหารุมเร้ามากขึ้น ทำให้ไม่มารับยาที่ต่อเนื่อง  หรือหยุดการรักษาไปเลย

                กาก้า  เป็นผู้ป่วยอีกรายหนึ่งที่อยู่ในการดูแลของเรา  ได้รับส่งต่อจากงานคลินิควัณโรคว่า กาก้าไม่มารับยาตามนัด     บ่ายวันแรกที่เราไปตามเยี่ยมบ้าน  ภาพที่เห็น  สภาพบ้านปูนชั้นเดียว ขนาดไม่ใหญ่มากนัก  ประตูไม้เก่าๆถูกปิดไว้  เสมือนว่าไม่น่าจะมีคนอยู่บ้าน  เราจึงไปถามข้างบ้าน

“  บ้านหลังนี้มีคนอยู่มั้ย  หมอจากโรงพยาบาลบัวขาวมาเยี่ยม  “

“  เขาอยุ่ในนั้น แหละ  เรียกดังๆๆเลย”

   แล้วเขาก็มาเรียกคนไข้ช่วยเรา “กาก้า   หมอมาเยี่ยม  กาก้าตื่นหรือยัง”   เสียงประตูไม้เก่าๆๆดังเอี๊ยด  แล้วค่อยๆเปิดออก  ภาพวัยรุ่น  ผมกระเซิง  ตัวผอมๆๆหน้าตายังไม่ส่างนอน   เสียงเนือยๆๆในการตอบคำถาม

 “กาก้า  หมอที่โรงพยาบาล บอกว่า กาก้า ขาดยา  ไม่ไปรับยา  มีปัญหาอะไรให้หมอช่วยหรือเปล่าคะ “

 “หมอ  วันนี้ข้าวผมก็ยังไม่ได้กินเลย  ผมไม่มีแรงไปหาหมอหรอก  เงินค่ารถไปหาหมอก็ไม่มี “

คำถามที่ฉันถามออกไป  กับคำตอบที่ได้มา มันช่างเป็นคำถามที่ไม่ตรงคำตอบเอาเสียเลย

“ผมเหนื่อย  ผมอยากนอน”

คำพูดคำสุดท้ายจบลง พร้อมกับมือผอมๆข้างนั้นก็ดึงประตูไม้เก่าๆปิดตามเข้าไปด้วย

โอ้…..ไม่นะ..เธอทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ….ฉันมาเยี่ยมเธอนะ….ฉันได้แต่คร่ำครวญในใจ

                เมื่อทีมเยี่ยมบ้านเราขึ้นมาอยู่บนรถพร้อมกัน  แต่ละคนก็ได้แสดงความคิดเห็นไปต่างๆนานา  บ้างก็บอกว่าปล่อยเขาไปเถอะ  อย่าไปยุ่งกับเขาเลย  บางคนก็บอกว่าน่าสงสาร  และกลุ่มที่ว่าน่าสงสารมีเยอะกว่ากลุ่มแรก  คือ 2 ต่อ 1 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมทั้งฉันด้วย  แล้วเราก็เริ่มวางแผนกันใหม่  ว่าเราจะเข้ามาหากาก้าได้อย่างไร

“กาก้า  หมอเอาข้าวมาฝาก  มีเงาะด้วย”

สักครู่ประตูบานที่ปิดใส่เราเมื่อวานก็แง้มออกมา  แล้วตัววัยรุ่นผอมๆ ท่าทางโทรมโทรมคนหนึ่งก็เดินโซเซออกมาหาเราที่ใต้ต้นมะยมหน้าบ้าน   และยื่นมือผอมๆมารับถุงข้าวกับผลไม้ไปถือไว้และยกมือไหว้กล่าวขอบคุณ พร้อมแววตาที่ดีใจ      

“พรุ่งนี้หมอมาเยี่ยมอีกได้ไหม “

กาก้าพยักหน้า  และกล่าวขอบคุณเราอีกครั้งสำหรับข้าวมื้อนี้   แล้วเราก็พากันขึ้นรถเพื่อไปเยี่ยมคนไข้รายอื่นๆต่อไป  แต่บทสนทนาของเราบนรถวันนี้ช่างแตกต่างจากเมื่อวาน  ทีมงานเยี่ยมบ้านทุกคนดูมีความสุข และทุกคนได้คุยกันถึงเรื่องพรุ่งนี้ว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป

“กาก้า  หมอเอาข้าวมาฝาก  ”

วันนี้กาก้ามายืนรอเราที่ใต้ต้นมะยมหน้าบ้าน  และใบหน้าที่ดูมีพลังชีวิตมากกว่าเมื่อวาน   ฉันจึงเริ่มต้นถามเรื่องครอบครัวของกาก้า เพราะตั้งแต่ที่เรามาเยี่ยมเรายังไม่เห็นคนอื่นๆในบ้านหลังนี้เลย   และแล้วเรื่องราวต่างๆตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันก็พรั่งพรูออกมา  กาก้ามีพี่น้อง 3 คนพี่ชาย และน้องชาย  พ่อแม่แยกทางกัน ตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อเรียนจบประถมหก  ก็ไปทำงานรับจ้างกับญาติที่กรุงเทพฯ และด้วยชีวิตวัยรุ่นที่ขาดครอบครัวยึดเหนี่ยวทำให้ใช้ชีวิตที่ไร้ทิศทางเงินที่ได้มาจากการทำงานอันน้อยนิดก็เที่ยวเตร่  ไม่มีใครให้ผูกพัน  แล้ววันหนึ่งร่างกายก็ทรุดโทรม ไม่รู้จะเหลียวหน้าไปหาใครที่อยู่ในเมืองหลวง  จึงได้กลับมาที่บ้านเกิด โชคยังดีที่ยังมีบ้านหลังเก่าๆที่ยายได้สั่งเสียไว้ก่อนตายว่าเก็บไว้ให้ลูกหลานที่ไม่มีที่อาศัย ไม่ให้มีใครเป็นเจ้าเข้าเจ้าของโดยเด็ดขาด  กาก้าจึงได้มีที่พอคุ้มแดดคุ้มฝนบ้าง  ส่วนพี่น้องคนอื่นๆก็หาเลี้ยงใส่ปากใส่ท้องตนเองก็แทบไม่พอยาไส้  ส่วนแม่ก็ไปมีสามีใหม่และฐานะก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก  เขาไม่รู้ว่าแต่ละวัน จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร วันๆจึงมีแต่นอนโดยไม่รู้วันเวลา อยากนอนหลับโดยไม่ต้องตื่นขึ้นมา  

หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวกาก้าแล้วทุกคนรู้สึกเห็นใจเขาอย่างมาก  เมื่อกลับมาที่ทำงานเราประชุมทีมใหญ่กันถึงแนวทางการช่วยเหลือกาก้า โดยเป้าหมายหลัก คือ กาก้าต้องมีข้าวกิน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราไม่อาจพูดเรื่องการกินยาวัณโรคกับเขาได้เลย  ซึ่งข้าวที่เราเล็งเห็นนั่นก็คือข้าวโรงครัวนั่นเอง   เพราะโดยปกติคนไข้วัณโรคที่มีปัญหาเรื่องการกินยาแพทย์จะต้องให้นอนโรงพยาบาลเพื่อให้อยู่รับยาที่ห้องแยกโรคอยู่แล้ว กาก้าก็ถือว่าเข้าเกณฑ์เพียงแต่เปลี่ยนจากห้องแยกโรคโรงพยาบาลเป็นที่บ้านคนไข้  และให้วันละมื้อ หยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไข้ได้ช่วยตนเองบ้าง  คำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วถูกกว่ามาก   หลังจากเป็นมติที่ประชุมของเราแล้ว พี่ปิ๋มได้อาสาที่จะเป็นผู้เจรจาทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับข้าวที่โรงครัว

“กาก้า  วันนี้เป็นข้าวมันไก่นะ ได้มาถุงเบ้อเร่อเลย พี่ที่โรงครัวใจดีมากกลัวกาก้าไม่อิ่ม”

“วันนี้ดูหน้าตาสดใสขึ้นมากเลยนะ  ดูหล่อกว่าเมื่อวานตั้งเยอะเลย”

“พี่ขอดูสมุดบันทึกการกินยาและยาที่เหลือหน่อยสิ     “

“โอ้โฮ  เก่งจังเลย  บันทึกได้ถูกต้อง  ตัวหนังสือก็สวยด้วย “

สำหรับเรื่องการบันทึกการกินยานั้น ตอนแรกเราได้นำปฏิทินไปให้เขาทำเครื่องหมายกากบาทในวันที่กินยาและเราเป็นคนลอกลงสมุดให้  เนื่องจากบอกให้เขาทำแล้วเขาไม่ยอมทำ  จึงต่อรองให้ทำเครื่องหมาย  ส่วนเรื่องยา เป็นระบบการเติมยา โดยเริ่มจาก 5 วัน ดูว่ากินได้ถูกต้องก็เพิ่มเป็นอาทิตย์ ขยับเป็น 2 อาทิตย์ แล้วในที่สุดก็เป็นเดือนและบันทึกลงสมุดเองโดยที่เราไม่ต้องบอก

“กินยาครบ 2 เดือนแล้ว ต้องไปตรวจเอกซเรย์ปอดที่โรงพยาบาลนะ ไปได้มั้ย เอาเสมหะไปตรวจด้วย พี่จะเอาตลับไว้ให้นะ  และจะทำบัตรรอไว้ “

วันแห่งปาฏิหาริย์ ของเช้าวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันคลินิกวัณโรค   เราได้เห็นกาก้ามายืนอยู่ที่หน้า PCU  ทุกคนพากันตื่นเต้น และดีใจมากเหมือนสิ่งที่เราแอบหวังและลุ้นอยู่ลึกๆแล้วมันเป็นจริงขึ้นมา  หลังจากที่ทักทายกันแล้ว  ฉันรีบไปทำบัตรและได้ไปส่งเขาที่ห้องเอกเรย์  

ตอนนี้กาก้ารับยาเดือนสุดท้าย  อีกไม่กี่วันก็จะครบ แ ต่เราไม่ได้เอาข้าวไปให้เขาแล้ว เพราะเขาสามารถที่จะทำงานรับจ้างที่ร้านขายของส่งและมีรายได้เพื่อดูแลตนเอง  และบางครั้งมีญาติๆ  เพื่อนๆแวะเวียนมาที่บ้านเพื่อเยี่ยมยามถามข่าว 

 “  CAT 5   ใช้สำหรับผู้ป่วย TB ที่ไม่มีข้าวกิน   TB ที่นอนทั้งวัน  เพราะไม่รู้จะตื่น     มาทำไม ตื่นมาก็ไม่มีข้าวกิน ”

 

โดย วัณณา  แสงฤทธิ์ พยาบาลศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลบัวขาว

หมายเลขบันทึก: 449009เขียนเมื่อ 14 กรกฎาคม 2011 13:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 00:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท