ผู้นำโรงเรียนกับการกำหนดทิศทาง
รองศาสตราจารย์สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์
สถาบันราชภัฏเชียงราย
การกำหนดทิศทางของโรงเรียนเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เป็นครูใหญ่จะต้องทำให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาของตน การกำหนดทิศทาง (Direction setting) ที่ดี ควรครอบคลุมภารกิจ 3 ด้านอย่างชัดเจน ได้แก่
1. การสร้างวิสัยทัศน์ร่วม (Building shared vision) ของโรงเรียน
- การสร้างฉันทามติร่วมกันต่อเป้าหมาย(Developing consensus about goals)
- การกำหนดความคาดหวังต่อผลงานไว้สูง (Creating high performance expectations)
บทบาทของครูใหญ่ในการกำหนดวิสัยทัศน์ของโรงเรียน (School vision)
ในฐานะผู้นำโรงเรียน ครูใหญ่ควรใช้พฤติกรรมการเป็นผู้นำแบบการเปลี่ยนสภาพ
(Transformational leadership) เพื่อสร้างวิสัยทัศน์ของโรงเรียน (School vision) ดังนี้
- ช่วยให้เพื่อนร่วมงานเข้าใจและตระหนักถึงวัตถุประสงค์รวมของโรงเรียน
- ริเริ่มให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหมู่คณาจารย์ให้ร่วมกันสร้างวิสัยทัศน์ของโรงเรียน
- สนับสนุนให้การยอมรับต่อวิสัยทัศน์ดังกล่าวอย่างจริงใจและไม่ใช้วิธีบังคับคนอื่นมิให้แสดงทัศนะของตน
- ทำให้วิสัยทัศน์เกิดความน่าสนใจ น่าท้าทายแก่คณะครู อาจารย์ พร้อมทั้งเสนอให้เห็นว่า วิสัยทัศน์ดังกล่าวมีโอกาสสำเร็จสูง ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันและยอมเปลี่ยนแปลงวิธีทำงานใหม่
- ช่วยขยายความและตีความหมายของวิสัยทัศน์ให้เป็นรูปธรรมในลักษณะกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติทั้งด้านการเรียนการสอน และงานสนับสนุนต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
- ช่วยสร้างความเข้าใจแก่คณะครู อาจารย์ให้สามารถมองเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างบริบทภายนอกที่กำลังเปลี่ยนแปลงกับวิสัยทัศน์ของโรงเรียน
- ช่วยสร้างมุมมองของคณะครู อาจารย์ถึงพันธกิจที่สำคัญของสังคม (Social mission) เช่น ค่านิยมทางสังคมเรื่อง ความเสมอภาค (Equality) ความยุติธรรม(Justice)และความสัตย์ซื่อถือคุณธรรมยึดมั่นหลักการ (Integrity) เป็นต้น ดังนั้นในฐานะที่โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคม พันธกิจของโรงเรียน (School mission) จะต้องสอดคล้องกับค่านิยมที่เป็นพันธกิจของสังคม
- ผู้บริหารโรงเรียนต้องใช้ประโยชน์ในทุกโอกาสที่มี เพื่อการสื่อความหมายเรื่องวิสัยทัศน์ของโรงเรียนให้คณะครู นักเรียน ผู้ปกครองและสมาชิกของชุมชนได้ทราบอย่างสม่ำเสมอ
บทบาทของครูใหญ่ในการกำหนดเป้าหมายของโรงเรียน (School goal setting)
- ให้แนวทางและกระบวนการในการจัดทำเป้าหมายของโรงเรียนแก่คณะครู รวมทั้งการวิเคราะห์ทบทวนเป้าหมายโรงเรียน ด้วยวิธีเน้นกระบวนการแก้ปัญหา(Problem solving process) การวิเคราะห์สภาพบริบทของโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอตลอดเวลา
- เน้นการใช้การทำงานของครูเป็นทีมงานและรายบุคคลในการจัดทำหรือวิเคราะห์ทบทวนความคืบหน้าของเป้าหมายดังกล่าว
- ช่วยปรับให้เป้าหมายของกลุ่มหรือครู อาจารย์ รายบุคคล มีความสอดคล้องและไม่ขัดแย้งกับเป้าหมายรวมของโรงเรียน
- สร้างมติร่วมกันเกี่ยวกับเป้าหมายของโรงเรียนและเป้าหมายกลุ่ม โดยจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมที่จะบรรลุเป้าหมายไว้ชัดเจน
- เมื่อต้องมีการตัดสินใจที่สำคัญและกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น จะต้องยึดเอาเป้าหมายเป็นเกณฑ์เพื่อการตัดสินใจนั้น
- กระตุ้นคณะครูในฐานะผู้มีส่วนกำหนดเป้าหมายโรงเรียน ให้ตรวจสอบทบทวนตนเองว่า มีความงอกงามด้านวิชาชีพขึ้นเพียงไร เมื่อต้องปฏิบัติไปสู่เป้าหมายนั้น
- ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูถึงแนวทางพัฒนาให้เกิดความงอกงามด้านวิชาชีพแก่ครู
- ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาด้านวิชาชีพของครูอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับเป้าหมายของโรงเรียน
บทบาทของครูใหญ่ในการกำหนดความคาดหวังต่อผลงานไว้สูง (Creating hign performance expections)
- คาดหวังให้ครูเป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ ทำงานหนักขึ้นและมีความเป็นมืออาชีพ คุณลักษณะเหล่านี้ยังใช้เพื่อการคัดเลือกครูใหม่อีกด้วย
- ทุกคนต้องเอาใจใส่และทุ่มเทต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียน
- สร้างวัฒนะธรรมคุณภาพที่มุ่งความเป็นเลิศของผลผลิต และบริการที่มีคุณภาพของโรงเรียน
- ปฏิเสธที่จะยอมผลงานใด ๆ ที่เป็นระดับชั้นสอง
- มุ่งมั่นและผูกพันต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนสูง
- แสดงทัศนะของตนต่อสาธารณชนได้ชัดเจนว่า อะไรคือ สิ่งที่ดีและถูกต้อง
- แสดงถึงการให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของเรื่อง ความยุติธรรม ประชาธิปไตย ชุมชน ความเป็นเลิศและความเสมอภาค เป็นต้น
- - - - - - - - - - - -- - - ---
ที่มา : ปรับปรุงจาก Leithwood et.al. 1996 b