การให้ญาติผู้ป่วยระยะสุดท้ายเลือกการใส่ท่อช่วยหายใจหรือไม่
เราในบทบาทของผู้ให้บริการมักว่าเป็นการให้โอกาสผู้ป่วยและญาติได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจรักษา
การเลือกวิธีการรักษาก็คงต้องขึ้นอยู่กับเวลาและลักษณะการพูดด้วย เพราะ คำพูดนี้อาจทำร้ายจิตใจของญาติผู้ป่วยได้
จากคำบอกเล่าของผู้ป่วยที่ผ่านประสบการณ์รอดชีวิตหลังจากที่ได้รับการตัดสินว่าต้องเสียชีวิต
ในคืนนี้เนื่องจากความดันโลหิตลดลงต่ำเหลือ 50/20 mmHG
แพทย์จึงขอพบแม่ผู้ป่วยอายุ 70 ปี ตัดสินใจเลือกวิธีการรักษา
“ว่าจะให้ใส่ท่อช่วยหายใจหรือไม่เพราะผู้ป่วยคงเข้าสู่ระยะสุดท้ายของชีวิตให้เวลา ตัดสินใจ 10 นาที”
“เนื่องจากผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง มีภาวะมะเร็งที่สมองร่วมด้วยขณะนี้เกิด
ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและไตวายเฉียบพลัน”
จากคำบอกเล่าของผู้ป่วยที่รอดมาเล่าให้ฟังว่าเป็นคำพูดที่ทำให้มารดาตนเองเกิดภาวะช็อกและตัดสิน
ใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดีกว่ากัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่คับขันและต้องให้รีบตัดสินใจทำให้ตัดสินใจได้
ยากและลักษณะท่าทางในการสื่อสารก็มีผลต่อการตัดสินใจ
ซึ้งก็สอดคล้องกับ Advance care plan ที่ควรมีการให้ผู้ป่วยเลือกเองว่าในวาระสุดท้ายของ
ชีวิตควรจะให้การรักษาอย่างไรบ้างและควรมีการพูดคุยวางแผนกันไว้ก่อน
สำหรับในกรณีผู้ป่วยรายนี้เมื่อสอบถามผู้ป่วย ผู้ป่วยก็ปฏิเสธการใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้ป่วยก็
สามารถรอดชีวิตมาได้
ไม่มีความเห็น