อีขาวน้อย


เรื่องเล่าจากพี่อ้อค่ะ แบบว่าเอาแปะจาก iPad ไปก่อนนะคะ ติ๋วยังหาวิธีจัดหน้าผ่าน iPad ไม่เป็น กับคำสั้น ๆของชาวบ้านที่เราตกใจแทบเข่าทรุดว่ามีเรื่องแบบนี้ในชุมชนด้วยเหรอนี่ น่ากลัวจริง


อีขาวน้อย 22  มิถุนายน  2554

​น้องอ้อรู้ไหมว่าแม่ย่าพี่ตื่นนึ่งข้าวตั้งแต่ตีสาม  เพื่อที่จะไปสกลนคร  บอกเท่าไรก็ไม่ฟัง  ห้ามก็ไม่ได้  ไม่รู้จะทำยังงัย  (อ้อละสงสัยซิ  เกิดอะไรขึ้นระหว่างแม่ย่ากับลูกสะใภ้  แต่ก็ต้องฟังต่อเผื่อจะประติดประต่อเรื่องราวได้)  คนพาไปเขาก็ได้ประโยชน์อยู่แล้ว  พ่อเขาต้องไปเอายามากินอยู่แล้ว แต่มาชวนชาวบ้านไปด้วยแกก็ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันรถ แถมบอกว่าหมอนี้ดี๊ดี  รักษาได้ทุกโรคโดยเฉพาะปวดแข็งปวดขา  เดินไม่ได้ยังเดินได้เลย   ชาวบ้านก็แตกตื่นยกทัพกันไปเป็นขบวน  จนเต็มคันรถ  กลัวจะกลับมาก็ค่ำ  มีคนเหล่าให้ฟังว่ามีตาคนหนึ่งขาไปหาหมอถือไม้เท้าไปด้วย  เดินลำบากมาก  ปวดตรงหัวเข่าและมีอาการบวม   พอขากลับเท่านั้นแหล่ะ  พอช่วงรถขึ้นเขาภูพานตาแกซัดไม้เท้าทิ้งเลย  อาการหายเป็นปลิดทิ้ง  เหมือนเป็นคนละคนเลยว่างั้นเถอะ  อะไรจะเป็นยาวิเศษขนาดนั้น   พี่ถามว่าแม่เป็นยังงัยบ้างล่ะไปหาหมอ ๆ  อะไรนะ  “โอ้ย!  ดี๊ดี  ฉีดยาให้คนละเข็มสองเข็ม  คนเดินไม่ได้ก็เดินได้เลย  แล้วให้ยาอีขาวน้อยมากินและบอกว่าถ้าอยากให้หายขาดก็ต้องไปกันอีก  เพราะเป็นมานานต้องค่อย ๆ  รักษากันไป”     อ้อ.....พี่ว่าน๊ะมันต้องเป็นสเตียรอยด์แน่ ๆ  เลย  เพราะตอนนี้เริ่มมีอาการหน้าแดง  แก้มย้อย ๆ  แล้ว  ถ้าอย่างนั้นไปสัมภาษณ์แม่ย่าพี่กันไหม  ได้  อยู่เยื้อง  ๆ  กับอนามัยนี่แหล่ะ  จากนั้นก็เดินทางไปกัน  ไปแบบเล่น  ๆ  แต่อ้อกับติ๋วน๊ะเอาจริง ๆ  พอไปถึงรวมแก๊งสามช่า  ก็เลยถามว่าไปได้ไปหาหมอเสนารักษ์เป็นยังงัยบ้าง  คุณยายก็รีบพากันเล่ากันใหญ่  พอไปเขาก็ฉีดยาให้  หายเลย  ทั้ง  ๆ  ที่ปวดก็หาย  เดินไม่ถนัดขัด  ๆ  ตรงหัวเข่าก็หายสนิท  ไม่มีอาการอะไรหลงเหลือเลย  อ้อเลยถามว่า  “เขาเปลี่ยนเข็มไหมล่ะ”  “บ่ อันเดี๋ยวนั่นแหล่ะฉีดไปเรื่อย ๆ”  เอ๊า ....  เอาเข้าไป  จะได้โรคมาเพิ่มไหมนี่ แล้วเขาว่างัยบ้างละ  ก็ให้ไปฉีดยาเป็นระยะ  ๆ  แล้วเมื่อไรจะไปอีก  “คงไม่ได้ไปแหล่ว เ พราะว่าหมอโดนจับ  ไม่รู้จะไปหาได้ยังไง”  อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะงงว่าแล้วหมอโดนจับได้งัย  ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ  หมอที่ชาวบ้านเรียกก็เป็นจ่าธรรมดานี่แหล่ะ  แต่เคยไปเป็นผู้ช่วยหมอ  พอกลับมาอยู่บ้านก็เลยตั้งตนเป็นหมอ  สรุปง่าย  ๆ  ก็คือเป็นหมอเถื่อน ว่างั้นเถอะ   แล้วยาอีขาวน้อยไปหามาจากไหน  ก็ไปซื้อที่ในเมืองมากินกัน  ใครกินดีก็บอกต่อกันไปเรื่อย  ๆ  แล้วก็ซื้อมาฝากกัน  เดี๋ยวนี้ยังกินกันอยู่ไหม  “บ่  คนชวนกินยาอีขาวน้อยพากันไปอยู่ป่าช้ากันหมดแหล่ว”    

หมายเลขบันทึก: 447581เขียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2011 14:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะ

น่ากลัวมากตรงใช้เข็มอันเดียวกันนี่แหละค่ะ

พากันไปอยู่ป่าช้า

แสดงว่า เรียบร้อยแล้วนะครับนี่

อิอิหมอเสนารักษ์มีทุกภาคแบบเดียวกันเปี๋ยบ

อิอิหมอเสนารักษ์มีทุกภาคแบบเดียวกันเปี๋ยบ

สวัสดีครับอาจารย์

เป็นเรื่องที่มีมานานและคงน่ายังอยู่ตลอดไป

ทั้งที่อยากให้หมดไปนะครับ

สะท้อนให้เห็นว่า

1. ผลจากการทำงานสุขภาพชุมชน หรือการให้สุขศึกษาของเรา

เข้มแข็งหรือเปล่า

2. ระบบความคิด ความเชื่อ ในการระบบสุขภาพของชาวบ้าน

ที่ตามกระแส รวดเร็ว หายทันใจ โดยขาดการฉุกคิดอย่างมีเหตุผล

3. การทำงานต่อไปจะทำอย่างไงดี เพราะเด็กวัยรุ่นก็มีระบบสุขภาพ

ผ่านระบบคิดเช่นนี้ เช่น ฉีดยาให้ผิวขาว การสักที่ใช้เข็มเดียวกัน

มองดูว่าจะง่าย ๆ แต่ทำได้ยาก

แต่ก็ท้าทายนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท