สถานีความคิด : กบ....ผู้ค้นพบความสุขแห่งปัจจุบันขณะ


ความสุขอันแสนมหัศจรรย์ที่สุด ก็คือ การได้ใช้ชีวิตอยู่กับช่วงเวลาแห่งปัจจุบันอย่างมีความเข้าใจนั่นเอง

 

 

 

 

                กบหนุ่มตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในสระน้ำข้างๆ กุฏิของหลวงตาในวัดบ้านแม่ตาด  วันๆ มันชอบคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย  บ่อยครั้งที่มันคิดสงสัยว่า  ชีวิตนี้มาจากไหน? เกิดมาทำไม? อยู่เพื่ออะไร? และจะดำเนินไปทางไหน?   จนทำให้เกิดความเบื่อหน่ายในสภาพที่ตนเองเป็นอยู่  และไม่มีความสุขความพอใจในชีวิตของตนเองเลย

                เช้าวันหนึ่ง ขณะที่มันกำลังนั่งอยู่บนใบบัวกลางสระน้ำและคิดฟุ้งซ่านอยู่  มันเหลือบไปเห็นหลวงตากำลังกวาดลานวัดอยู่  มันคิดในใจว่า

                “เออ....เราอยากเกิดเป็นหลวงตาจังเลยแฮ่ะ  เพราะสบายและมีความสุข  วันๆ ไม่ต้องทำอะไร  อยู่เฉยๆ ก็มีคนเอาอาหารมาให้กินถึงที่เลย” 

                แล้วมันก็คิดอะไรไปเรื่อยๆ ตามประสากบที่จิตไม่ว่าง ในขณะที่หลวงตาได้กลับขึ้นไปบนกุฏิและห่มผ้าเตรียมตัวออกบิณฑบาต

                เมื่อกลับจากบิณฑบาตแล้ว หลังจากฉันอาหารเสร็จ หลวงตาก็นำเสร็จอาหารที่เหลือไปโปรยให้ไก่กิน  เจ้ากบเห็นดังนั้น  ก็คิดว่า    “เอไปๆ มาๆ เกิดเป็นหลวงตาก็ใช่ว่าจะสบายน่ะ ดูซิต้องออกไปหาอาหารมาให้ไก่กินทุกวัน  ไก่ต่างหากที่สบายและมีความสุขกว่าเพื่อน  เพราะฉะนั้น  เราจะอธิษฐานขอไปเกิดเป็นไก่แทนดีกว่า”    แล้วมันก็นั่งยิ้มมองดูไก่จิกข้าวกินอย่างอารมณ์ดี

                ขณะที่ฝูงไก่วัดกำลังจิกข้าวกินอยู่อย่างเพลิดเพลินนั้น  สุนัขขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่งก็วิ่งเข้ามาที่ฝูงไก่ด้วยความเร็วประมาณ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำให้ฝูงไก่วัดแตกฮือกระจัดกระจายบินหนีไปกันคนละทิศละทาง ปล่อยให้สุนัขขี้เรื้อนตัวนั้น  กินข้าวอยู่เพียงตัวเดียวอย่างสบายอุรา

                เมื่อกบเจ้าปัญหาเห็นดังนั้น ก็คิดว่า  “เกิดเป็นไก่ลำบากเหมือนกันนิหน่า  ต้องถูกสัตว์อื่นเบียดเบียนและรังแกตลอดเวลา  เราขอเกิดเป็นสุนัขดีกว่า เพราะใครๆ ต่างก็กลัว  และไม่ต้องมีใครมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตเรา  อยากกินเมื่อไหร่  ก็ได้กินตามที่ใจต้องการ”

                ในขณะที่สุนัขขี้เรื้อนตัวนั้น กำลังกินข้าวก้นบาตรอยู่  แมลงวันหัวเขียวฝูงหนึ่ง  ก็บินมาตอมแผลขี้เรื้อนของสุนัขตัวนั้น  และลงมือดูดเลือดดูดหนองอย่างเมามัน  จนทำให้มันเกิดความรำคาญ  เลิกสนใจการกินข้าว และวิ่งไล่งับแมลงวันอย่างโกรธแค้นบ้าคลั่ง  จนแมลงวันต้องพากันบินหนีว่อนไปทั่ว

                กบหนุ่มเห็นดังนั้น  ก็เกิดความคิดว่า   “ เออแน่ะเราอยากเกิดเป็นแมลงวันจัง  เพราะแมลงวันช่างมีอำนาจเหลือเกิน  ขนาดสุนัขตัวโตๆ ยังยอมแพ้เลย  ขอให้เราได้เกิดเป็นแมลงวันด้วยเถอะ.....สาธุ!     แล้วมันก็นั่งเหม่อลอยฟุ้งซ่านต่อไป

                แมลงวันหัวเขียวตัวหนึ่งบินพลัดหลงจากฝูงมาเกาะที่จมูกของกบหนุ่มพอดี   ทันใดนั้น  ด้วยสัญชาตญาณของกบโดยทั่วไป  มันเลยแลบลิ้นตวัดเอาแมลงวันหัวเขียวตัวนั้นเข้าปากกินอย่างสบายใจ     แล้วมันก็รำพึงออกมาเบาๆ  อย่างผู้เข้าใจแจ่มแจ้งในสัจธรรมว่า

                เป็นตัวของเราเองดีกว่า  สบายใจดี และมีความสุขที่มากที่สุด”

                แล้วมันก็ยิ้ม และกระโดดจ๋อมหายลงไปในสระน้ำอย่างมีความสุขและเบิกบานใจ

 

......................................................................................................................

                ชีวิตของคนเรา.....บางทีก็อาจจะเหมือนกับกบหนุ่มเจ้าปัญหาตัวนั้น  ที่บ่อยครั้งมักจะมีความสับสน  วุ่นวาย  เบื่อหน่าย  ท้อแท้  สิ้นหวัง  และคิดฟุ้งซ่าน  ตลอดจนรู้สึกไม่มีความสุขหรือไม่พอใจกับสภาพที่ตนเองเป็นอยู่  และพยายามคิดที่จะเป็นในสิ่งที่คนอื่นเขาเป็นกันอยู่ตลอดเวลา

                เห็นคนอื่นรวย  ก็อยากรวยบ้าง  เห็นคนอื่นเก่ง  ก็อยากเก่งเหมือนเขา เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ ก็อยากจะประสบความสำเร็จและสมหวังกับเขาด้วย  โดยลืมเลือนไปว่าวิถีชีวิตของคนเรานั้นมีความเป็นมาและเป็นไปที่แตกต่างกันอย่างลิบลับ   เรามาจากดวงดาวที่แตกต่างกัน  เราต่างก็มีชีวิต มีจิตวิญญาณ และมีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง  รวมทั้งมีความสามารถและมีโชควาสนาที่แตกต่างกันด้วย

                (บางครั้ง.....นอกจากกบตัวนั้นแล้ว  เราก็ยังปล่อยให้กบตัวอื่นๆ อีกหลายตัว  เข้ามาสิงอยู่ในร่าง  จนทำให้เราต้องสูญเสียตัวเองไป ทำให้เราค้นหาตัวตนไม่พบ และไม่มีความสุขกับชีวิตของตนเอง)

               การยอมรับในความแตกต่างของชีวิต  การรู้จักความพอเพียง  พอดี และพอใจในสิ่งที่ตนเองมีหรือเป็นอยู่  โดยไม่วิ่งตามเงาของตนเองอยู่ตลอดเวลา....ต่างหาก  ที่จะทำให้ชีวิตของเรามีความสุข  สงบ  เบิกบาน  และร่มเย็นมากยิ่งขึ้น

                จงมีความอดทน  เข็มแข็ง  รู้จักความพอดี  พอเพียง  พอใจ และเป็นตัวของตัวเองอยู่ตลอดเวลา

                แล้วคุณจะค้นพบความสุขอันยิ่งใหญ่  โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางไปเสาะแสวงหาจากที่ใดๆ อีกต่อไป

                และคุณจะได้เรียนรู้ว่า.....ความสุขอันแสนมหัศจรรย์ที่สุด  ก็คือ การได้ใช้ชีวิตอยู่กับช่วงเวลาแห่งปัจจุบันอย่างมีความเข้าใจนั่นเอง

 

 

หมายเลขบันทึก: 446656เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2011 09:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท