วอล์กแรลลี่ เพื่อวัฒนธรรมองค์กร
การพัฒนาทีมงานแบบ WalkRally เป็นกิจกรรมและวิธีการที่ได้รับความนิยมสูงมากองค์กรต่างๆ ที่ได้นำกิจกรรมนี้มาใช้ในการพัฒนาทีมงาน ผู้ที่ผ่านกิจกรรม WalkRally แล้ว กลับมาทำงานใหม่ๆรู้สึกรักกันมาก มีความผูกพัน ช่วยเหลือกันดีเหมือนกับตอนที่ลุยฐานกิจกรรมต่างๆมาด้วยกัน แต่พออยู่ไปนานๆ สิ่งดีๆ เหล่านั้นค่อยๆ จางหายไป และหมดไปในที่สุดเป็นอย่างนี้เกือบทุกองค์กร เมื่อเวลาผ่านไปสองสามปี อาจจะนึกไม่ออกเลยว่า กิจกรรมที่ได้ร่วมกันทำเป็นอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้เป็นพราะว่าการพัฒนา "คน" ในรูปแบบใดๆ ก็ตามส่วนสำคัญที่สุดไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการอบรมหรือสัมมนาแต่ขึ้นอยู่กับว่าองค์กรได้พัฒนาคนได้ถูกทาง เหมาะสมและต่อเนื่องหรือไม่
การทำกิจกรรม WalkRally หากมีการวางแผนแม่บท ที่ชัดเจนในการพัฒนาคนขององค์กร หมายถึง สามารถเชื่อมโยงกิจกรรม Walk Rally ไปสู่เป้าหมายพฤติกรรมหลักขององค์กรได้ มีการกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำกิจกรรม Walk Rally
รูปแบบของกิจกรรม Walk Rally มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมที่ต้องการให้เกิดขึ้นในองค์กรและมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องในระยะยาว รวมถึงการได้การสนับสนุนอย่างจริงจังจากผู้บริหารระดับสูง จะทำให้กระบวนการในการพัฒนาพฤติกรรมคนในองค์กรมีโอกาสในการที่จะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้อย่างมีสประสิทธิภาพ
การทำกิจกรรม Walk Rally จึงควรมีการกำหนดแผนแม่บทด้านพฤติกรรมของคนในองค์กรขึ้นมาก่อนบางองค์กรอาจจะเรียกว่า "วัฒนธรรมองค์กร"
บางองค์กรเรียกว่า "คุณค่าองค์กร" หรืออาจจะเรียกเป็นอย่างอื่นที่หมายถึงรูปแบบพฤติกรรมของคนในองค์กรนั้นๆ กำหนดพฤติกรรมที่ต้องการในแต่ละด้าน เช่น พฤติกรรมการเป็นผู้นำพฤติกรรมการคิดสร้างสรรค์ พฤติกรรมในการวางแผนงาน พฤติกรรมในการบริการลูกค้า ฯลฯ
แล้วจึงมากำหนดทางเลือกในการพัฒนาพฤติกรรมที่ต้องการในแต่ละด้านว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง เช่น การฝึกอบรมภายนอก การศึกษาต่อ การทำกิจกรรม Walk Rally การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ(Workshop) หากมีระบบการจัดระบบกระบวนการฝึกอบรมเช่นนี้แล้ว กิจกรรม Walk Rallyจะสามารถทำให้ การพัฒนาคนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และยังสามารถรักษาการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้นๆ ให้คงอยู่กับองค์กรตลอดไป
ในกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคน กิจกรรม Walk Rally คือขั้นตอนของการเผาเหล็กให้ร้อนเท่านั้นเมื่อเหล็กนั้นอ่อนตัวก็สามารถนำไปตีเป็นดาบตามที่ต้องการได้ถ้าความร้อนน้อยเกินไป จะไม่สามารถหล่อหลอมเหล็กให้อ่อนตัวลงได้
ในทางตรงกันข้ามถ้าความร้อนมากเกินไปอาจะทำให้เหล็กละลายไปได้ ดังนั้น
พลังความร้อนที่เกิดจากกิจกรรม WalkRally จะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ต้องการได้
สรุป การพัฒนาพฤติกรรมของทีมงานด้วยกิจกรรม Walk Rally นั้น
จะมีประสิทธิภาพหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ประการคือ
ประการแรก
องค์กรมีการวางแผนแม่บทและแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาพฤติกรรมคนหรือไม่ ประการที่สอง
รูปแบบของกิจกรรม Walk Rally ที่จัดขึ้นนั้น สามารถสร้างพลังความร้อนได้พอเหมาะกับพฤติกรรมที่ต้องการหล่อหลอมได้ดีเพียงใด
ประการสุดท้าย องค์กรมีกิจกรรมรองรับหลังจากการทำกิจกรรม Walk Rally หรือไม่ ถ้าองค์กรใดมีครบทั้งสามอย่างแล้วจะทำให้กิจกรรมWalk Rally ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลอย่างเห็นได้ชัดเจน
จากที่กล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่าหลักการพัฒนาบุคลากรสามารถจะกระทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ หลากหลายวิธี เช่น การจัดประชุมสัมมนา การฝึกอบรมในห้องเรียนการฝึกอบรมในงานและวิธีการอื่น ๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคลากรไปในทิศทางที่ต้องการหรือเป้าหมายที่วางเอาไว้ การทำกิจกรรม WALK
RALLY เป็นกิจกรรมอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จัดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาบุคลากร ของสมาชิก ในองค์กรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทั้งในด้าน ความรู้ ความคิดและเจตคติ ตลอดจนทักษะในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นทีม
ความเป็นทีมงานที่มีประสิทธิภาพ โดยอาศัยกระบวนการกลุ่มเข้ามาสอดแทรกในการทำกิจกรรม WALK RALLY นอกจากนี้ในแต่ละสถานียังประกอบไปด้วยกิจกรรมเชิงบริหารที่ให้แง่คิดในด้านวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม และแนวคิดดังต่อไปนี้
สถานีที่ 1 กู้ระเบิด
เป็นกิจกรรมที่ฝึกผู้ทำกิจกรรมให้รู้จักการแก้ปัญหาโดยการวางระบบการทำงานเพื่อให้แนวทางการทำงานมีความกระชับและชัดเจนสำหรับผู้ปฏิบัติงาน เช่นการสามารถฟังคำสั่งได้ง่าย และชัดเจนยิ่งขึ้นการทำงานใด ๆ หากเป็นระบบดีแล้วจะทำให้การทำงานมีความสะดวก และผลของงานมีประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลมากขึ้น
สถานีที่ 2 ฝ่าใยไหมฟ้า
เป็นกิจกรรมที่ฝึกให้ผู้ทำกิจกรรมมีความเข้าใจในระบบของการทำงานซึ่งจะต้อง ยึดหลักการและนโยบายขององค์กรที่ถูกถ่ายทอดผ่านผู้บังคับบัญชา หรือหัวหน้างานมา โดยผู้ปฏิบัติงานควรจะต้องยึดหลักการหรือระเบียบวิธีการขององค์กรอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะ การเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา หรือหัวหน้างาน ซึ่งเป็นผู้นำทั้งนี้เนื่องจากผู้ที่มีหน้าที่เป็นผู้นำ เสมือนผู้ที่ทำหน้าที่บอกทางให้เพื่อนซึ่งปิดตาทำหน้าที่ลอดเส้นใยฟันฝ่ายอุปสรรค์ไปได้ ซึ่งเรา ควรจะยอมรับ และมีความมั่นใจในคำสั่งที่ชี้แนะของผู้นำองค์กร
ทั้งนี้เนื่องจากเป้าหมาย และ วิธีการ หรือกำหนดผ่านมายังผู้บังคับบัญชาตามลำดับนั้นผู้นำจึงเปรียบเสมือนผู้ที่เปิดตา
และเห็นแจ้งถึงสภาพโดยรวมของสถานการณ์ต่าง ๆ
ดังนั้นการ ที่ทีมงานใดปฏิบัติงานโดยยึดมั่นในตัวผู้นำแล้วทีมงานนั้น ๆ จะไปสู่เป้าหมายของตนเองได้อย่างง่ายดาย
สถานีที่ 3 สกีบก
เป็นกิจกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมเพรียงของความเป็นทีมงานเดียวกันใน กิจกรรมนั้นหากมีสมาชิกในทีมคนใดคนหนึ่งไม่ยึดแนวทางเดียวกันกับกลุ่มหรือยกไม่พร้อมกับกลุ่มก็จะส่งผลทำให้ทีมงานนั้นจะนำไปสู่จุดมุ่งหมายด้วยความยากลำบากหรือไม่สามารถไปถึงจุดหมายได้เลย อีกทั้งยังทำให้ทีมล้มลุกคลุกคลานได้รับความเสียหาย ดังนั้นความพร้อมเพรียงสามัคคีหรือการปฏิบัติงานที่ทีมงานยึดแนวทางเดียวกันย่อมส่งผลให้การเดินทางไปสู่จุดหมายที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกันกับการเดินบนสกีบกนั่นเอง
สถานีที่ 4 สุดเอื้อม
ในสถานที่นี้เป็นสถานที่กำหนดให้เห็นถึงปัญหา
ถึงความยากลำบากในการที่จะบรรลุ เป้าหมายแต่หากทีมงานมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาร่วมกันและคิดว่าจะต้องฝ่ายอุปสรรค์ต่าง ๆ ไปได้ความมุ่งมั่น และจริงจังในการแก้ปัญหา จะเป็นแรงที่ส่งให้ทีมสามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้โดยไม่เกินความสามารถโดยแนวคิดในกิจกรรมของสถานีนี้พยายามที่จะให้ทุกคนมีความคิดและความฝันที่จะก้าวไปสู่จุดหมายที่สูงขึ้น
ดังคำที่ว่า “มือไม่คว้า ฤาจะได้ดาว” เช่นเดียวกับคำว่า ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึงเพียงหากทีมงานคิดเช่นนี้ก็จะทำให้องค์กรมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
สถานีที่ 5 ถังพันทวาร
เป็นกิจกรรมที่ผู้ทำกิจกรรมจะต้องไม่ย่อท้อ หรือจำกัดความคิดของตัวเองในการ แก้ปัญหาเมื่อรู้สึกว่าตนเองได้ใช้ความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหาแล้ว แต่หากไม่สามารถ ที่จะเอาชนะปัญหา หรืออุปสรรค์นั้นได้การที่ทีมงานรู้จักทบทวน และอดทนต่อการค้นหาทางออก ของปัญหาโดยเฉพาะการที่จะคิดออกนอกกรอบหรือนอกขอบเขตในเชิงสร้างสรรค์ Creative thinking) จะทำให้เราพบช่องทางในการแก้ปัญหาที่ดีได้
โดยกลุ่มจะต้องระลึกอยู่เสมอว่า ทุกปัญหามีช่องทาง มิใช่ทุกช่องทางมีปัญหา หากมีความคิดเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าจะต้องพบกับปัญหา ใหญ่น้อยก็สามารถที่จะผ่านพ้นไปด้วยดี
สถานีที่ 6 ต่อความยาว สาวความยืด
เป็นกิจกรรมที่สมาชิกของทีมจะต้องให้การเสียสละในผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่ม หรือทีมงาน
ซึ่งในกิจกรรมนี้ทีมจะชนะได้ไม่ขึ้นอยู่กับคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนจะต้องให้ความทุมเทและเป็นผู้ให้เช่นเดียวกันในการทำงานในองค์กรหากสมาชิกในองค์กรเฝ้ารอคอย หรือคาดหวังว่าจะได้รับอะไรจากองค์กรบ้างโดยที่ตนเองยังไม่เป็น ผู้ให้แก่องค์กร องค์กรนั้น ๆ ก็ไม่สามารถที่จะให้ในสิ่งที่สมาชิกต้องการอย่างเพียงพอ ในทางตรงกันข้ามหากสมาชิกในองค์กรปรับตนเองให้กลับมาเป็นผู้ให้บ้างเช่นการให้ความทุ่มเทในการทำงาน มีความเสียสละทั้งความรู้ความสามารถ และอื่น ๆ ในการทำงาน องค์กรนั้น ๆ ก็จะเพิ่มพูนงอกงามและในที่สุดผลประโยชน์ที่พอกพูนนั้นจะย้อนกลับมายังสมาชิกทั้งในทางตรง และ ทางอ้อม
ดังนั้นในการทำงานเราควรที่จะตั้งตนให้เป็นผู้ให้ (GIVE) อย่างแท้จริงก่อนที่จะรอคอยที่จะเป็นฝ่ายรับ (TAKE) โดยที่ยังไม่ได้ให้อะไรแก่องค์กรเลย
สถานีที่ 7 ข้ามธารจระเข้
กิจกรรมในสถานีนี้มุ่งที่จะให้ทีมงานให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทีมงาน จะต้องรู้จักวิธีการที่จะนำพาสมาชิกในทีมให้ฟันฝ่าอุปสรรคที่ขวางหน้าด้วยการช่วยเหลือกัน
ทั้งนี้ เนื่องจากสมาชิกแต่ละคนมีความรู้ความสามารถความถนัดในด้านต่าง ๆ ไม่เท่ากัน ดังนั้น ทุกคนจะต้องรู้จัดการแบ่งปันกันในด้านการช่วยเหลือทางด้านความคิด กล่าวคือ ช่วยกันคิดแก้ ปัญหาดังคำกล่าวที่ว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว
สถานีที่ 8 ฝ่าใยแมงมุมยักษ์
กิจกรรมในสถานีนี้เป็นเรื่องของการรู้จักการวางแผนในการทำงานเพื่อที่จะใช้แผนงานเป็นทิศทาง หรือวิธีการทำงานที่จะบรรลุเป้าหมายหากการวางแผนงานมีประสิทธิภาพมีระบบ และแบบแผนที่ดีก็จะทำให้ขั้นตอนในการทำงานเป็นสิ่งที่ง่ายต่อการปฏิบัติมีลำดับ ขั้นตอนที่ชัดเจนเช่นเดียวกันกับการวางแผนที่จะนำสมาชิกให้ลอดใยแมงมุมไปให้ได้ทุกคน โดยจะต้องมีแผนการที่จะส่งคนใดไปก่อน หลัง ทุกคนก็จะสามารถผ่านช่องที่เหมาะสมกับตนเองไปได้ นอกจากการวางแผนแล้วยังแฝงในเรื่องของการจัดสรรค์คนให้ถูกต้องกับช่องที่จะลอดหากจะเปรียบกับการทำงานแล้วการที่กำหนดคนให้เหมาะสมกับงาน หรือกำหนดงานให้เหมาะสมกับความสามารถของคน (Put the right man on the right Job)
สถานีที่ 9 จิตรกรเวหา
กิจกรรมในสถานีนี้เป็นเรื่องของการรู้จักการวางแผนในการทำงานเพื่อที่จะใช้แผนงานเป็นทิศทาง หรือวิธีการทำงานที่จะบรรลุเป้าหมายหากการวางแผนงานมีประสิทธิภาพมีระบบ
และแบบแผนที่ดีก็จะทำให้ขั้นตอนในการทำงานเป็นสิ่งที่ง่ายต่อการปฏิบัติมีลำดับ ขั้นตอนที่ชัดเจนเช่นเดียวกันกับการวางแผน ที่จะนำสมาชิกให้ลอดใยแมงมุมไปให้ได้ทุกคนโดยจะต้องมีแผนการที่จะส่งคนใดไปก่อน หลัง ทุกคนก็จะสามารถผ่านช่องที่เหมาะสมกับตนเองไปได้ นอกจากการวางแผนแล้วยังแฝงในเรื่องของการจัดสรรค์คนให้ถูกต้องกับช่องที่จะลอดหากจะเปรียบกับการทำงานแล้วการที่กำหนดคนให้เหมาะสมกับงาน หรือกำหนดงานให้เหมาะสมกับความสามารถของคน (Put the right man on the right Job)