ต่าง Generation ต่างค่านิยม ( Common Values)
ภาพของสาวแรกรุ่นวัยละอ่อน ร่างบางเฉียบเดินนวยนาดด้านหน้าดึงดูดสายตาให้เพ่งมองอย่างพินิจ….สะดุดตากับลวดลายสีน้ำตาลอ่อนเจือจาง ที่ปกคลุมทั่วผิวกายโผล่พ้นอาภรณ์ชิ้นน้อยที่มีอยู่น้อยชิ้นนั้นอย่างพิศวง
- ลายที่เห็นเกิดจากการแพ้แมลงหรืออย่างไร
- หรือว่าเป็น โรคสะเก็ดงู
- มิเช่นนั้นก็อาจเป็นรอยด่างจากโรคอีสุก-อีใส ฯลฯ
ครุ่นคิดด้วยความสงสัยแต่จะเอ่ยปากถามก็คงไม่เหมาะ เพราะไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ ที่จะไปถามเรื่องส่วนตัวเช่นนั้นได้
แถวขบวนหยุดชะงักเป็นช่วงๆ เพราะทางเดินแคบลงไปตามขนาดของทางเชื่อมต่อ(งวง) จึงมีโอกาสได้สังเกตเห็นแบบชิดใกล้…..อ๋อ….ลอยเพ้นท์(หรือรอยสัก) นั่นเอง …. ช่างกล้าแต่งตัวท้าทายสายตาและเสริมแต่งจนผิดไปจากธรรมชาติได้ดีแท้ ..... แอบถอนหายใจลึกๆ อย่างเป็นห่วง.... ครั้งแรกคิดว่าเป็นชาวต่างชาติแต่ได้ยินเธอพูดโทรศัพท์ไปตลอดทางระหว่างเดินไปเข้าประตูเครื่องด้วยภาษาไทยชัดทุกถ้อยคำ ยกเว้นตัว ร และ ล ….." เด็กยุค Generation Y ช่างกล้าและแรงจนเกินความพอดีของค่านิยมไทย "
*** ขอนำเรื่องการแบ่งรุ่นของมนุษย์ในสังคมมาเสริม ***
The Silent Generation เกิดระหว่าง พศ ๒๔๖๘-๒๕๘๘ เป็นรุ่นสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นรุ่นที่เคร่งครัดระเบียบแบบแผน ชีวิตยากลำบาก ทำงานหนักในโรงงาน (ศึกษาเพิ่มเติม)
The Baby Boomers (BB) เกิดระหว่าง พ.ศ. ๒๔๘๙-๒๕๐๗ เป็นรุ่นหลังสงครามโลก ที่ต้องต่อสู้ชีวิตชีวิตด้วยความขยัน อดทน เพราะอยู่ในช่วงลำบาก จากผลกระทบของสงครามที่ทำลายล้าง และต้องการเพิ่มจำนวนประชากรโลก( ศึกษาเพิ่มเติม)
The Generation X เกิดระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๘-๒๕๒๕ รุ่นนี้ได้รับการอบรมสั่งสอนโดยรุ่น BB จึงถูกปลูกฝังให้มีความขยันอดทน เรียนหนังสือมากมายและทำงานหนัก แต่ไม่ก้าวหน้าไปไกลมากนักเพราะรุ่น BB คอยกำกับอยู่ (ศึกษาเพิ่มเติม)
Generation Y เกิดระหว่าง พ.ศ. ๒๕๒๖-๒๕๔๐ คนรุ่นปัจจุบัน ตามแบบฉบับของสังคม IT มีความเป็นตัวตนสูง ไม่แคร์สื่อ ไม่มีความอดทน เบื่อก็แสดงออก ชอบทำสิ่งที่ท้าทาย แต่ก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้ดี เช่นพวกอาชีพ Programmer จัดว่าเป็นแบบ Applicative และเป็นพวก Multi-tasking สามารถดูหนัง/อ่านหนังสือ/ฟังเพลง/ ทำการบ้าน ในเวลาเดียวกันได้ ชอบเล่นเกมและชอบว่ารุ่นอื่นๆว่า ขี้บ่น เซ้าซี้ โบราณ ( ศึกษาเพิ่มเติม)
ที่มาและที่ไปของ “Y” Generation
The " Y " Generation (Sooooooo true!)
People born between 1925 and 1945....Are called...The Silent Generation
|
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Websites ต่างๆ และผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ
ความเห็น (6)
- สวัสดีครับ
- มีคำกล่าวที่เราเคยได้ยินคือ "ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน" เปรียบเหมือนคนเจนเนอเรชั่นต่างๆ นั่นเองครับ ช่วงที่ประสบความยากลำบากก็จะเป็นคนที่อดทน ขยัน สู้งานหนัก ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง พอมาถึงช่วงที่สบายก็มักลืมตัว มัวเมา หลงระเริง ประมาท ขาดสติ ไม่ค่อยอดทน เหมือนคนรุ่นนี้นั่นเอง ที่เก่งแต่ไม่ค่อยมีความอดทน และคิดถึงคนอื่นๆ
น้องชำนาญจ๊ะ
*** วิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้วครับ.....คงต้องทำใจยอมรับกัน...ช่วงนี้พี่ Pually ต้องสะสางงานที่สุมกอง...ไว้มากมาย....จึงไม่ได้สังเกตภาพประจำตัวใหม่ของน้องชำนาญ..ที่ดูดีมากๆ ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจเสมอๆ นะจ๊ะ ***
ชอบเพลงค่ะ เสียดายที่ปีนี้ คนกำแพงไม่มาเยือนสวนทุเรียนของพี่คนเดิม แต่ไม่เป็นไร We still keep in touch on Face book ได้ค่ะ
คุณพี่คะ
*** ทุกนาทีมีแต่พี่อยู่ในใจ.... ระลึกถึงเสมอๆ นะคะ....แต่โอกาสไม่เอื้ออำนวย........สักวันหนึ่ง...คงได้ไปเยือน...ขอบคุณสำหรับสัมพันธภาพดีๆ ที่มีให้เสมอมา ...อ้อ...กำลังฝึกร้องเพลงนี้อยู่ค่ะ..อิอิอิ! ***
TATA's Mum
^ o ^ ชอบมาก... ที่มาของ genereation Y อิอิ.. เราก็นึกว่ามาจากอักษรย่ออะไร ที่แท้มาจาก กางเกงหลุดตู..นี่เอง ฮ๋า ๆ
คุณ TATA's Mum จ๊ะ
*** คนที่ตั้งชื่อ Genereation Y อาจนึกความหมายไม่ออก....คงคิดว่าพอตามหลัง Genereation X ก็น่าจะเป็น Y แต่พฤติกรรมของคนรุ่น Genereation Y ช่วยเสริมความหมาย ....เลยกลายเป็นฮา ... ขอบคุณนะจ๊ะที่เข้ามาเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนความเห็น ***