ที่ รพ.สต.วังน้ำเขียว กำแพงแสน ก็มีการทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ ใน โครงการสร้างสรรค์วันสดใสผู้สูงวัยฟันดี โดยทำร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รพ.กำแพงแสน เพราะว่า ที่นี่ไม่มีทันตาภิบาลประจำค่ะ
สอ.วังน้ำเขียว รับผิดชอบ 8 หมู่บ้าน 940 หลังคาเรือน มีประชากร 4,582 คน มีผู้สูงอายุ 522 คน เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ติดสังคม 443 คน ติดบ้าน 59 คน และติดเตียง 20 คน
ที่ทำโครงการนี้ เนื่องจากว่า จากการสำรวจสภาวะสุขภาพของผู้สูงอายุ พบกลุ่มติดบ้านร้อยละ 11 ติดเตียงร้อยละ 4 ซึ่งมีจำนวนมาก และเราคิดว่า กลุ่มติดเตียงต้องการความช่วยเหลืออย่างมากด้วย
การสำรวจสุขภาพปากและฟัน พบว่า ผู้สูงอายุเหลือฟันที่มากกว่า 20 ซี่ 158 คน ร้อยละ 30.27 เหลือฟันไม่ถึง 20 ซี่ 364 คน ร้อยละ 69.73 ใส่ฟันเทียม 83 คน ร้อยละ 15.9 ถือว่ายังน้อย เพราะว่า การไม่มีฟันจะทำให้เรื่องของการบดเคี้ยวไม่ดี ทำให้ขาดอาหารตามมาได้
วัตถุประสงค์ของโครงการ
กิจกรรมหลัก
ระยะเวลาดำเนินงาน เริ่มเมื่อ เมย.54 – ปัจจุบัน
งบประมาณที่มาดำเนินการ ได้รับจาก ฝ่ายทันตฯ สสจ. รพ.กำแพงแสน อบต.วังน้ำเขียว รพ.สต.วังน้ำเขียว องค์กร/ชุมชน ซึ่งจะมีกลุ่มผู้นำชุมชน สมาชิก อบต. อสม. ร้านค้าต่างๆ
ภาพกิจกรรมการดำเนินงาน
การประชุมสมาชิก / คณะกรรมการ ชมรมฯ
มีการประชุมทุกเดือน ปกติ วันที่ 25 แต่ถ้าตรงกันวันหยุด ก็จะเลื่อนไป ครั้งหนึ่งๆ มีผู้เข้าประชุม 100-150 มีการเลี้ยงอาหารผู้สูงอายุ
การสำรวจสภาวะช่องปากและฟัน
ได้รับความร่วมมือจาก รพ.กำแพงแสน และมี นศ.เวชปฏิบัติ และ นศ.พยาบาล มาฝึกงาน ร่วมทำกิจกรรม
จิตอาสา
เป็นกลุ่มของคนที่อายุยังไม่ถึง 60 หรือ 60 ต้นๆ เพราะว่าตาค่อนข้างจะดี การดำเนินการจะเริ่มที่กลุ่มนี้ก่อน และจะต่อไปที่ผู้สูงอายุต่อไป จิตอาสาช่วยทำกิจกรรมในเรื่อง การดูแลสุขภาพ และตรวจสุขภาพต่างๆ
การให้ความรู้
เน้นให้ความรู้เชิงบูรณาการ คือ ทุกงานที่มี เราเอาเรื่องนี้เข้าไปด้วย เช่น ช่วงการแห่เทียนพรรษา และจะมีเจ้าหน้าที่จาก รพ.กำแพงแสนมาร่วมให้ความรู้การดูแลฟันด้วย
การศึกษาดูงาน ทำไปแล้ว 2 ครั้ง
การอบรมจิตอาสา
ในโครงการ จิตอาสาเพื่อพัฒนาสุขภาพผู้สูงวัยในชุมชน ปี 2554 ให้ฝึกปฏิบัติงาน รวมทั้งเรื่องตรวจฟัน
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในชมรมฯ
ให้แต่ละหมู่คัดคนที่มีฟันมากที่สุด อันดับแรก อันดับที่สอง อายุมากที่สุดและฟันเหลือเยอะ มาชิงชัยกัน และให้นำเสนอ บอกเล่าในชมรมฯ ว่า ทำอย่างไร ฟันจึงดี บางคนบอกว่า ใช้ใบข่อยดูแลฟัน คนที่ไมมีฟัน ก็ใช้วิกฤตเป็นโอกาสเหมือนกัน ที่บอกว่าเป็นตัวอย่างของคนมีฟันเหลือน้อย ทุกคนต้องไม่เอาแบบอย่าง ต้องดูแลฟันให้ดี
การแปรงฟันหลังอาหาร
เดิมเราไม่มีที่แปรงฟันเป็นสัดส่วน แต่ใช้สถานที่ที่มี แปรงฟันกันไป โดยใช้แปรงของทุกคนที่มีอยู่ และใช้ยาสีฟันของอนามัย คนที่ใส่ฟันเทียมก็แปรงฟันเทียม
เมื่อได้รับการอุดหนุน จาก สสจ. จึงนำมาทำที่แปรงฟันในชมรมฯ ในโรงรถ ที่ใช้เป็นสถานที่ประชุม ชมรมฯ
วันนี้ ... ชมรมผู้สูงอายุที่โรงรถของสถานีอนามัย ก็เลยมีที่แปรงฟัน
และ ได้ทำกระเป๋าใส่อุปกรณ์แปรงฟัน เพื่อให้ผู้สูงอายุเกิดการปฏิบัติ และนำไปสอนคนอื่นๆ ต่อได้ เราเน้นที่หลังรับประทานอาหารควรแปรงฟันทุกครั้ง เพื่อล้างเศษอาหารออก
ผู้สูงอายุสัญญาว่า จะแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ
การมีส่วนร่วม
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
เป็นเรื่องของการใช้ใบข่อย และการใช้ถ่าน ทำความสะอาดฟัน
คุณป้าเบียบ อายุ 64 ปี มีฟัน 31 ซี่ ซี่ที่หายไป เพราะว่า ถอนฟันคุด คุณป้ามาเล่าว่าใช้ถ่านประจำ เป็นถ่านที่หุงข้าว ใช้ตอนที่เมื่อกินอะไร 2 วัน ฟันจะสาก ก็จะเอาถ่านคลุกๆ เอามือถู ฟันจะใส ทำ 2 ครั้ง ฟันจะทน
สิ่งที่ได้รับ เมื่อทำกิจกรรมนี้
ปัญหา/อุปสรรค
ไม่มีความเห็น