ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมากช่วงหนึ่งของชีวิต ทั้งในด้านหน้าที่การงานและเรื่องส่วนตัว และรู้สึกว่าฉันไม่ได้ดูแลตัวเองให้ดีเท่าที่ควรจะเป็น ทุกๆวันฉันรับเอามลพิษทั้งทางร่างกายและจิตใจมาสะสมไว้ จากวันเป็นสัปดาห์ และหลายๆเดือน... จนกระทั่งเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน โปรเจคที่ทำก็สำเร็จลงด้วยดี (และเพื่อนร่วมงานยังอยู่กันครบทีม) เจ้านายขอร้องแกมบังคับให้ทุกคนในทีมงานหยุดพักผ่อน
ฉันพาร่างกายและจิตใจที่อิดโรยกลับบ้าน แทบทุกคนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพร่างกาย และถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
ฉันรู้สึกหงุดหงิดกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของตัวเองเป็นที่สุด...
กลับจากการพักผ่อน ฉันนอนป่วยอยู่หลายวัน...
นานๆครั้งการนอนป่วยอยู่กับบ้าน กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่มีค่าช่วงหนึ่ง ช่วงนี้เองฉันได้มีโอกาสมองดูตัวเองอย่างจริงจัง
ฉันหยิบหนังสือพ็อคเก็ตบุ้คเล่มเล็กติดมือไปนั่งอ่านตอนนั่งงรอคิวหาหมอที่คลีนิคใกล้บ้าน ประโยคหนึ่งในหนังสือ One minute for yourself (หนึ่งนาทีเพื่อตัวเอง) ของ Spenser Johnson (สเปนเซอร์ จอห์นสัน) ผ่านตา "วันนี้... คุณกอดตัวคุณแล้วยัง?”
จริงซีนะ...ทุกวันที่ผ่านไปฉันไม่เพียงไม่ได้หยุดกอดตัวเอง ฉันไม่เคยหยุดถามตัวเองด้วยซ้ำว่าเป็นอย่างไรบ้าง... ยังไหวไหม... ประโยคทีว่า "สวัสดีค่ะ สบายดีไหมคะ?” นั้นใช้ถามคนอื่นเสมอ
สองสามวันจากนั้นหนังสือเล่มนี้ช่วยสะท้อนให้ฉันเห็นตัวเองอย่างแจ่มชัด
หนึ่งนาทีสำหรับตัวเองมีไว้เพื่อหยุด.. พัก... และไตร่ตรองว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้น เป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็นหรือเปล่า เหมือนการขับรถทางไกล บ่อยครั้งที่เราต้องหยุดที่ที่พักริมทาง เพื่อพักเครื่องยนต์ เติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำ ทานอาหาร ซื้อกาแฟ เช็คดูแผนที่ ระยะทาง ฯลฯ แม้จะเร่งรีบแค่ไหน การหยุดตามรายทางนั้นสำคัญมากเพราะหากละเลยเราอาจไปไม่ถึงจุดหมายได้ เพราะอาจน้ำมันหมดกลางทาง หรือหลงทางไปเลยก็มี
ในเวลาหนึ่งนาทีนั้นเราอาจถามตัวเองว่ายังมีทางอื่น วิธีอื่นใดอีกไหม ที่เราจะทำเพื่อตัวเองได้ดีขึ้น
การดูแลเอาใจใส่ตัวเองให้ดีกับการเป็นคนเห็นแก่ตัวนั้นต่างกันมากมาย คนเห็นแก่ตัวนั้นไม่น่าคบและคนที่ไม่ดูแลตัวเองก็ไม่น่าคบเช่นกันเพราะคนประเภทหลังนั้นมักจะสร้างปัญหาให้กับทั้งตัวเอง คนรอบข้างและสังคมได้ เพราะเขาไม่ใส่ใจตัวเอง ไม่มีความสุข คนที่ไม่มีความสุข จะสร้างความสุขให้คนอื่นได้อย่างไร
การได้ทำสิ่งดีๆเพื่อตัวเองจะช่วยให้ตัวเราเองรู้สึกดี ทำให้รู้สึกว่าร่างกายและจิตใจได้รับการดูแลอย่างดี ตัวเราประกอบไปด้วยส่วนต่างๆหลายส่วนทั้งด้านกายและจิต แต่ละส่วนมีความต้องการที่ต่างกันไป เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นหนึ่งเดียว ทุกส่วนจะต้องได้รับในสิ่งที่ต้องการและได้รับการใส่ใจ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอาการเจ็บป่วย หรือการทำงานของร่างกายและจิตใจอาจไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร เมื่อตัวเรารับรู้ถึงความรัก เราได้ทำในสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง เราจะรู้สึกมีความสุข และพร้อมที่จะแบ่งปันความสุขให้คนรอบข้างได้
ในความสัมพันธ์ของคู่รักก็เช่นเดียวกัน หากทั้งสองฝ่ายต่างดูแลตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจให้ดีพร้อม มีพื้นฐานคือความสุขในใจอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็จะยิ่งแนบแน่นขึ้น เพราะสิ่งที่คู่รักจะมอบให้กันได้คือความรู้สึกของความรัก การทนุถนอม ความรู้สึกผูกพัน ส่วนความสุขขั้นพื้นฐานนั้นมีอยู่แล้วในแต่ละคน
คู่รักที่เริ่มรักกันใหม่ๆอาจรู้สึกว่าทั้งเธอและเขารักอีกฝ่ายมากกว่ารักตัวเอง ความสุขทั้งหมดทั้งมวลของชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับฝ่ายตรงข้าม วันนี้จะมีความสุขหรือไม่เป็นความรับผิดชอบของอีกคน อาจฟังดูแล้วรู้สึกดี แต่บ่อยครั้งที่มักมีปัญหาตามมา เพราะยามใดที่บางฝ่ายไม่ได้รู้สึกถึงความรัก ยามใดที่รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ดูแลเราดีพอความเจ็บปวดก็จะเกิดขึ้นในทันที และเมื่อนั้นคู่รักก็ไม่อาจแสดงออกถึงความรักและความสุขต่อกันได้
ในความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและมีความสุข เราต้องการตัวเองและคนรอบข้างเท่าๆกัน เราต้องรักและดูแลตัวเองให้ดีเท่าๆกับการถนอมรักอีกฝ่าย ยามที่จิตใจเป็นสุข สงบ เรามีเหตุผลมากขึ้น เราเข้าใจมากขึ้น เราให้อภัยได้ง่ายขึ้น เรายิ้มให้กันได้ง่ายขึ้น
...
ให้เวลาหนึ่งนาทีกับตัวเอง รักตัวเอง ดูแลตัวเองให้ดี ทำใจให้มีความสุขด้วยตัวเราเอง แล้วให้ความรักและความสุขแก่ผู้อื่น แล้วเราจะรู้สึกว่าการทำให้คนอื่นเป็นสุขเรากลับมีความสุขยิ่งกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องเริ่มกอดตัวเองก่อนค่ะ..
วันนี้ฉันกอดตัวเองและนั่งฟังเพลงโปรด...The heart asks pleasure first... ก็เลยขอนำมาแบ่งปันค่ะ
ผมชอบข้อคิดความเห็นของคุณมาก
ผมเอาใจกอดรัดตัวเองให้อบอุ่นและมีพลังอยู่เสมอ
การกอดตัวเอง ใช่ว่าเราสงสารตัวเอง..จริงๆนะ
สวัสดีค่ะ
สัญญาว่าจะกอดตัวเองทุกๆ วันค่ะ
ชีวิตจริงของเราไม่มีบทเพลงที่คอยกำกับการกระทำต่าง ๆ
ที่ยังเป็นอยู่ได้ทุกวันนี้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านไป เหลือไว้แค่..ความทรงจำ...ครับ
หากคิดเสียว่าโอกาสที่เราจะยุติชีวิต มีได้ทุกขณะจิต เราคงไม่ประมาทกับการใช้ชีวิต และมองผ่านได้กับเจ้าตัวทุกข์ทั้งปวง
สวัสดี ค่ะ ขออนุญาต นำ link ไปให้เพื่อนอ่านนะคะ
อ่านแล้ว อดหันมาถามตัวเองไม่ได้ ว่า วันนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง สบายดีไหม
สุข หรือทุกข์ใจ เรื่องอะไรบ้าง
ได้คำตอบมากมาย และเมื่อตอบตัวเองได้ เราก็รู้สึกตัวเบา สบายขึ้นมาก อย่างน้อยก็มี 1 คน ที่เป็นกำลังใจให้ เรา... คนในกระจก นั่นเอง เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ของเราในทุกโมงยาม.. ไม่ว่าสุข หรือทุกข์ .. ยิ้มไว้นะ.. หรือบางครั้งจะร้องไห้กับตัวเองบ้าง...ก็ไม่เป็นไร
พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว มันไม่มืดไปตลอดหรอกนะ บอกตัวเองอย่างนั้น
ขอบคุณค่ะ
พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว มันไม่มืดไปตลอดหรอกนะ บอกตัวเองอย่างนั้น
ขอแบ่งปันบทความที่งดงามเกี่ยวกับการจัดการชีวิต โดยพระไพศาล วิสาโล มาแบ่งปันคับ
อยู่กับทุกข์ให้เป็น ก็ไม่เป็นทุกข์ :พระไพศาล วิสาโล
http://www.visalo.org/article/secret255402.htm
My Belief : Good Death : พระไพศาล วิสาโล
ttp://www.visalo.org/article/D_krapaoKwamchea.htm
ความตายและความหมายของชีวิต :พระไพศาล วิสาโล
http://www.visalo.org/columnInterview/bridgeOpenbook.htm
เตรียมตัวตายอย่างมีสติ : สัมภาษณ์พระไพศาล วิสาโล
http://www.visalo.org/columnInterview/sarakadee.htm
ทำไมสัตว์โลกถึงเป็นไปตามกรรม ? :พระไพศาล วิสาโล
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ชยันต์
ขอบพระคุณมากค่ะที่อาจารย์กรุณาแวะมาอ่านค่ะ
อาจารย์คงมีพลังที่จะกอดลูกศิษย์อีกนับร้อยนับพันด้วยความรักและเมตตา
หลังจากกอดตัวเองแล้วนะคะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะอาจารย์ สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะคุณกอหญ้า
หวังว่าคุณคงรู้สึกดีเหมือนที่ฉันรู้สึกนะคะ
เป็นรงใจให้นะคะ
ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
สวัสดีค่ะคุณคนิน ไม่ได้ทักทายมานาน สบายดีนะคะ
ขอให้ทุกๆวันเป็นวันที่เราได้สร้างความทรงจำที่ดีที่นึกถึงยามใดเราสามารถยิ้มให้กับตัวเองได้นะคะ....
สวัสดีค่ะคุณลำดวน
ขอบคุณค่ะ ทำอย่างที่คุณลำดวนแนะนำ รู้สึกดีขึ้น จริงๆค่ะ...
สวัสดีค่ะคุณ Subah ขอบคุณที่มาทักทาย ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ด้วยความยินดีค่ะหากคุณจะนำความรู้สึกที่ดีไปแบ่งปันต่อ ขอบคุณค่ะ เห็นด้วยกับประโยคที่ว่า "พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว มันไม่มืดไปตลอดหรอกนะ" เหมือนชีวิตของตตัวดักแด้ค่ะ...เคยเขียนไว้ในเรื่องผีเสื้อว่า
"เมื่อเราผ่านความมืดมนที่สุดนั้นไป แสงสว่างก็จะเริ่มสาดส่อง ดั่งที่มีคนบอกว่าช่วงของกลางคืนที่มืดที่สุดคือช่วงก่อนสว่าง ในชีวิตของผีเสื้อช่วงที่มืดมนที่สุดคือช่วงที่เป็นตัวดักแด้ ก่อนที่จะเป็นผีเสื้ออันสวยงาม คนเราในยามที่เจอปัญหาหนักในระหว่างการเปลี่ยนแปลง หากเราอดทนได้ ความสุขสดใสก็จะตามมา ตราบใดที่ตัวหนอนไม่อาจอยู่ในดักแด้ได้นานๆ ความทุกข์ที่เกิดขึ้นก็ต้องผ่านพ้นไป เมื่อถึงเวลาผีเสื้อก็จะออกมาจากตัวดักแด้ ความเจ็บปวดที่มีก็จะพ้นผ่าน"
ขอเป็นแรงใจให้อีกคนค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ สายน้ำแห่งความฉ่ำเย็น สายลมแห่งความหวังดี...
ขอบคุณมากค่ะ สัญญาจะไปรับเอาคำสอนดีๆมาคิดตามค่ะ ขอบคุณจริงๆ...
สวัสดีค่ะ
ทุกอย่างคงดีขึ้น และลงตัวได้แล้วนะคะทั้งงาน และส่วนตัว
หลายคนเปรียบชีวิตเหมือนเส้นกราฟที่มีขึ้นลง ตามเหตุและปัจจัยที่เข้ามา ซึ่งจริงๆแล้วหากเราไม่ประคองใจให้ดีเราก็คงจะแกว่งขึ้นแกว่งลง เช่นนั้นบ่อยๆ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตเราด้วย การศึกษาธรรมะ ไม่ว่าจะโดยการอ่านหรือปฏิบัติ ให้เข้าใจ จนเป็นส่วนหนึ่งในจิตสำนึกลึกๆของเรา เมื่อมีเหตุอะไรมากระทบเราสามารถนำธรรมะเหล่านั้นมาเป็นเกราะช่วยให้คิดเป็น อยู่เย็นได้ กับทุกๆปัญหาที่เข้ามาโดยไม่ทุกข์ ไม่เครียด
การคิดดีๆ คิดบวกเป็นจิตวิทยาที่ดี ใช้ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเผชิญปัญหาในหลายๆรูปแบบ บางครั้งก็หลุด แต่การใช้ธรรมะประคองจิต และเข้าใจในพระธรรมคำสอน สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ และหากรู้จักนำมาใช้แล้ว ชีวิตไม่ว่าเผชิญกับอะไร ก็สามารถเผชิญ และผ่านได้อย่างเย็นและสงบจริงๆค่ะ
สวัสดีค่ะคุณปริม
เห็นหายเงียบไปหลายเพลา สบายดีไหมคะ
เห็นชื่อบันทึก นึกถึงเพลง นอนกอดตัวเองสิโดน ๆ
ส่งกำลังใจ กับทุกโมงยามของชีวิต ฝันดีคะ
สวัสดีค่ะคุณ meepole ลอง imagine ตัวเองเป็นคนเข้าถึงธรรมะ อย่างที่คุณ meepole แนะนำ รวมกับการฝึกตัวเองให้คคิดบวก น่าจะเป็นปริมที่น่าคบและอยากอยู่ใกล้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ...จะพยายามค่ะ
สวัสดีค่ะคุณปู ขอบคุณค่ะที่เข้ามาทักทายค่ะ
สองสามสัปดาห์ก่อน งานยุ่งมากเพราะเจ้านายไม่อยู่
ตอนนี้หายใจได้ทั่วท้องขึ้นเพราะมีคนมารับผิดชอบแทนเราทุกอย่าง... อิอิอิ
มีเวลามานนั่งเขียน อ่าน คอมเมนท์ มากขึ้นค่ะ
แล้วจะแวะเวียนไปเยี่ยมค่ะ...