หลวงพ่ออ๋อย(๒๔๔๒-๒๕๒๙)
บุคคลสำคัญ : ชุมชนเมืองหนองบัว : พระสงฆ์(๒)
พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก
พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ
๖. พระครูนิกรปทุมรักษ์(หลวงปู่อ๋อย) มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๙ คน คือ
๑. พระครูนิกรปทุมรักษ์ (หลวงปู่อ๋อย) นามสกุล พรมบุญ ๒. นายดำ พรมบุญ ถึงแก่กรรมแล้ว ๓. นายไพร พรมบุญ ถึงแก่กรรมแล้ว ๔. นางป่วน พรมบุญ ถึงแก่กรรมแล้ว ๕. นางนวล พรมบุญ ถึงแก่กรรมแล้ว ๖. นางปุ่น พรมบุญ ถึงแก่กรรมแล้ว ๗.นางปุ้น พรมบุญ (พุกน้อย) สมรสกับ นายปุย พุกน้อย ๘.นางพู พรมบุญ(ใยชม)สมรสกับทายกกรี ใยชม ถึงแก่กรรมแล้ว ๙.นางพัน พรมบุญ (ฉ่ำน้อย) สมรสกับนายลื่น ฉ่ำน้อย เป็นชาย ๓ คน หญิง ๖ คน รวม ๙ คน
แต่บั้นปลายชีวิตของท่าน คือพรรษาสุดท้าย หลวงปู่อ๋อยไม่ค่อยพูดเหมือนเช่นเคย พูดน้อย เหตุเพราะโรคประจำตัวรบกวนคือโรคไตไม่ทำงาน.
แม้ข้าราชการก็เหมือนกัน หลายคนเวลามาอยู่หนองบัวร้องไห้ไม่อยากมาอยู่ แต่เวลาจะกลับร้องไห้คิดถึงคนหนองบัวด้วยความอาลัยรักทุกรายไป ไม่รู้ว่าหลวงปู่อ๋อยทำอะไรไว้แต่เป็นเช่นนี้ส่วนมากจนเป็นที่กล่าวขานดังที่กล่าวแล้ว.
ในปัจฉิมวัยของท่าน
หลวงปู่ไม่สะสมเงินทอง
หลวงปู่อ๋อย : นักเสียสละ ถือเมตตาเป็นหลัก ใครต้องการสิ่งใดจะบริจาคให้ เช่น มีงานบุญต่าง ๆ มักจะรับเป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะงานศพ ท่านชอบรับเป็นเจ้าภาพอยู่เสมอ โดยมีญาติโยมเตือนหลวงปู่ว่าให้เก็บเงินไว้ทำศพตังเองบ้าง เพราะว่าเป็นพระผู้ใหญ่ เวลาสิ้นบุญจะได้มีเงินทำศพ หลวงปู่ท่านตอบว่าเงินงานศพหลวงปู่มีแล้ว ฝากไว้กับลูกหลานและศิษย์ทุกคน ท่านหมายถึงเงินที่หลวงปู่ให้เป็นขวัญถุงวันแต่งงาน ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมคนหนองบัว-หนองกลับ เวลาแต่งงานสมรสคู่บ่าว สาว ทั้งคู่จะมาไหว้หลวงปู่ขอศีล ขอพร ท่านจะให้เงินขวัญถุงเป็นการผูกข้อมือทุกคนไป สร้างความสนิทสนมและผูกพัน อย่างแน่นแฟ้นไม่มีวันลืม เช่น บางคนแต่งงานปี พ.ศ. ๒๔๘๕ มาไหว้หลวงปู่ให้เงินเป็นขวัญถุงถึง ๔ บาท เท่ากับข้าว ๑ เล่ม(๑ เกวียน : ๑ ตัน) ในสมัยนั้น จนถึงขณะนี้ได้ ๔๖ ปี (พ.ศ.๒๕๓๑) หลวงปู่จะกล่าวเตือนลูกหลานที่มาไหว้ท่านวันแต่งงานว่า “เวลาหลวงปู่ตาย เอาเงินกลับมาทำบุญกันนะ” ซึ่งคำกล่าวนี้ได้เป็นจริงตามท่านพูดทุกประการ เมื่อกลางพรรษาปี ๒๕๓๑ คณะกรรมการประกาศจะจัดงานศพหลวงปู่ ในวันที่ ๑๕-๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๒ จึงบอกบุญไปยังพี่น้องชาวหนองบัว ได้มีประชาชน พ่อค้า ข้าราชการ พระสงฆ์ได้นำเงินมาบริจาค เพื่อจัดงานศพหลวงปู่อ๋อย เป็นจำนวนเงินถึง ๖๒๔,๑๕๐ บาท เพราะว่าทุกคนรู้ว่าหลวงปู่ไม่มีเงินเหลือ จึงเตรียมใจกันบริจาคด้วยจิตศรัทธาโดยทั่วกัน.
การบูรณะนอกวัดของหลวงปู่อ๋อย
มีทั้งสิ้นมี ๘ แห่งดังนี้
๑. วัดเทพสุทธาวาส ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ สร้างศาลาการเปรียญ
๒. วัดใหม่นิกรปทุมรักษ์(บ้านตาลิน) ต.หนองบัว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ สร้างศาลาการเปรียญ ๓.วัดหนองประดู่ ต. หนองกลับ อ. หนองบัว จ. นครสวรรค์ สร้างกุฏิ และศาลาการเปรียญ ๔. วัดเขาพระ ต. หนองกลับ อ. หนองบัว จ. นครสวรรค์ สร้างกุฏิและศาลาดิน ๕. วัดจิกยาวใต้ ต.ห้วยถั่วเหนือ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ บูรณะอุโบสถที่หลวงพ่อเดิมสร้างไว้ ๖.วัดห้วยถั่วใต้ ต.ห้วยถั่วใต้ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ บูรณะศาลาการเปรียญ ๗.วัดสหชาติประชาธรรม(วัดเหมืองแร่) ต. หนองกลับ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ สร้างศาลาการเปรียญ ๘. วัดหนองไผ่ ต. หนองบัว อ.หนองบัว จ. นครสวรรค์ สร้างศาลาการเปรียญ.
สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลเรื่องหลวงพ่ออ๋อยเพิ่มเติม ตามอ่านได้อีกที่หนึ่งในหัวข้อนี้
"หลวงพ่ออ๋อย ศิษย์หลวงพ่อเดิม : ผู้ร่วมสร้างพื้นฐานความเป็นปึกแผ่นชุมชนหนองบัว"
http://www.gotoknow.org/blog/nongbua-community/379070
กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระมหาแล อาสโย ขำสุข
เจริญพรอาจารย์ณัฐพัชร์
ขอบคุณอาจารย์ที่แวะมาทักทาย
คราวไปหนองบัวครั้งนั้น นิสิตป.โทมหาวิทยาลัยนเรศวรที่ไปกับอาตมาในวันไปชมนิทรรศการเวทีฯงานงิ้วหนองบัว(๒๖ มีนาคม๒๕๕๔)ที่ผ่านมานั้น เขาเห็นอาจารย์ณัฐพัชร์ช่วยงานตลอดไปไม่ไหนเลย ทำตัวกลมกลืนเข้ากับคนหนองบัว ก็เข้าใจว่าอาจารย์เป็นคนหนองบัวไปด้วย
พอทราบว่าเป็นอาจารย์ที่มหิดลเขาทำท่าแปลกใจไม่อยากจะเชื่อ ด้วยว่าเห็นอาจารย์ทำตัวสบายๆติดดินมาก ทุกท่านที่ไปจากพิษณุโลกด้วยกันทั้งหมดมีความประทับใจทีมงานอาจารย์วัรัตน์มากเลย
เมื่อปลายเดือนพ.ค.๒๕๕๔ อาตมาไปหนองบัวมา เห็นทางวัดหนองกลับกำลังก่อสร้างทราบว่าสร้างวิหารหลวงพ่ออ๋อยขึ้นอีกหนึ่งหลัง บริเวณตะวันออกศาลาเยื้องๆด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือวิหารหลวงพ่อเดิม โดยมีเจ้าภาพบริจาคสร้างให้ทั้งหลัง
หลังจากงานงิ้วแล้วได้พบคุณครูผู้นำชุมชนและพระสงฆ์หลายรูปบ่นเสียดาย ที่พลาดโอกาสไปชมนิทรรศการเวทีคนหนองบัว เลยมีคำถามฝากมาว่าจะจัดอีกไหม
เจริญพรคุณครูคิม
ขอบคุณสำหรับกำลัใจ
บทคัดย่อ
การวิจัยกรณีศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทเรียนจากกระบวนการเรียนรู้ของเครือข่ายครู ศึกษากรณีกระบวนการเรียนรู้เวทีคนหนองบัวในเว็บบล็อก GotoKnow.org เพื่อทราบบทเรียนจากกระบวนการเรียนรู้ของเครือข่ายครู และเสนอแนะเชิงนโยบายจากกระบวนการเรียนรู้ของเครือข่ายครูจากกรณีศึกษากระบวนการเรียนรู้เวทีคนหนองบัว ในการศึกษาครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ใช้วิธีสัมภาษณ์แบบลูกโซ่ (Snowball Sampling) และการสนทนากลุ่ม (Focus Groups) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาและให้ข้อเสนอแนะจากข้อมูลปฏิบัติ
ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการเรียนรู้เครือข่ายครูมีบทบาทต่อการระดมสรรพกำลังปวงชนเพื่อการศึกษาและเคลื่อนไหวการศึกษาเพื่อชุมชน งานเทคโนโลยีการศึกษาชุมชนจะเป็นระบบการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยขยายผลให้บรรลุจุดหมายที่ต้องการดียิ่งขึ้นขณะเดียวกัน ระบบภูมิปัญญาและเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน ก็จะมีวิธีการได้อย่างเหมาะสมเครือข่ายครูสามารถพัฒนาตนเองสอดคล้องกับความจำเป็นได้มากยิ่งๆ ขึ้น
ผลการวิเคราะห์และถอดบทเรียนสรุปได้ว่า กระบวนการเรียนรู้ชุมชนของเครือข่ายครู ได้แก่ ขั้นตอนและวิธีการที่มีบทบาท ที่ริเริ่มสร้างความรู้ การเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการปฏิบัติงานของครูที่ทำให้การดำเนินงานของเครือข่ายครูประสบผลสำเร็จหรือมีผลงานที่โดดเด่นได้ ขั้นตอนและวิธีการดังกล่าวได้แก่ 1) กระบวนการเรียนรู้สื่อออนไลน์ มีวิธีการ ได้แก่ เรียนรู้การใช้สื่อเทคโนโลยีการศึกษาชุมชน 2) การวางแผนกระบวนการเรียนรู้ วางแผนร่วมกัน มีวิธีการ ได้แก่ การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อการเรียนรู้อิงถิ่นฐาน 3) กระบวนการเรียนรู้ได้ผลลัพธ์ มีวิธีการ ได้แก่ การสอนและลงมือปฏิบัติไปพร้อมกันขยายผลสืบเนื่องไปสู่การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น 4) กระบวนการเรียนรู้แล้วนำไปประยุกต์ใช้ มีวิธีการ ได้แก่ เป็นศูนย์การเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้อิงถิ่นฐาน ให้ความสำคัญกับบทบาทผู้นำเครือข่ายครูและเครือข่ายโรงเรียน