ลูกคิด


ลูกคิดไม่ใช่เครื่องมือที่คิดเลขแทนมนุษย์ แต่เป็นเครื่องบัยทึกผลลัพธ์ของการคิดในใจสะสมไว้ให้แบบก้าวหน้าทุกขั้นตอนอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนได้คำตอบสุดท้าย

ในยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการหาเลี้ยงชีพและการใช้ชีวิตเช่นทุกวันนี้  เครื่องคิดเลขเป็นผลผลิตอย่างหนึ่งที่กลายเป็นของใช้สามัญประจำสำนักงาน  ประจำบ้านและประจำตัวของคนไทยจำนวนมากไปแล้ว  บางทีมีสถานะคล้ายของแถมฟรีด้วยซ้ำไป เพราะเราไม่ต้องขอ ไม่ต้องถามเขาก็ให้มาอยู่แล้ว เช่นที่พบในโทรศัพท์พกพา และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

           เครื่องคิดเลขทำให้มนุษย์ไม่ต้องคิดเลขเอง แค่ใช้ตาดูกับใช้ปลายนิ้วจิ้มเลขกับเครื่องหมายก็ได้คำตอบถูกต้องอย่างรวดเร็ว  เครื่องคิดเลขกลายเป็นของโปรดของนักท่องเที่ยวที่เป็นนักช็อปจำนวนมาก  เพราะนอกจากใช้คำนวณราคาสินค้าแล้ว ยังใช้เทียบค่าเงินตราต่างสกุลได้ทันทีด้วย ผมเชื่อว่า จำนวนชาวไทยที่นิยมใช้เครื่องคิดเลขจะมีมากไม่แพ้ชาติอื่นแน่นอน  และขอคาดเดาด้วยว่าเราไม่สามารถทำให้คนกลุ่มนี้ยอมใช้ ลูกคิด ได้สำเร็จ

           ลูกคิด คือหลักฐานของอัจฉริยภาพของชาวจีนโบราณนับพันปีที่ชาวโลกต้อง ขอแสดงความนับถือ ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจ้าวแห่งเทคโนโลยีชาติหนึ่งของโลก ได้นำเอาลูกคิดจีนไปใช้ แล้ว จับบวชเป็นญี่ปุ่น อีกทีหนึ่ง เป็นลูกคิดที่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้ต้นแบบ

           ทั้งลูกคิดจีนและลูกคิดญี่ปุ่นมีข้อกำหนดความสามารถเบื้องต้น (Requirements) ที่ผู้ใช้ต้องมีไว้ตรงกันว่า ต้องบวกและลบเลขในใจได้ และต้องแม่นยำในสูตรคูณตั้งแต่แม่สองถึงแม่เก้า(เพื่อใช้คูณและหาร)  โดยนัยนี้  ลูกคิดจึงไม่ใช่เครื่องมือที่คิดเลขแทนมนุษย์อย่างเครื่องคิดเลขทั้งหลาย  แต่เป็นเครื่องบันทึกผลลัพธ์ของการคิดในใจสะสมไว้ให้แบบก้าวหน้าทุกขั้นตอนอย่างต่อเนื่องไปจนได้คำตอบสุดท้าย  ข้อดีของลูกคิดที่สำคัญ คือ ยิ่งใช้ยิ่งชำนาญและทำได้เร็วขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่น่าเชื่อ (ซึ่งเกิดจาก หัวไว มากขึ้นนั่นเอง) ผมเคยอ่านพบว่าชาวญี่ปุ่นใช้ลูกคิด คำนวณโจทย์เดียวกันแข่งกับคนที่ใช้เครื่องคิดเลข และผลปรากฏว่า คนที่ใช้ลูกคิดเป็นผู้ชนะ   

          เมื่อลูกคิดไม่ได้คิดเลขแทนมนุษย์ ผมจึงกล้าพูดว่า คนที่ใช้เครื่องคิดเลขจนชินแล้วจะไม่ยอมใช้ลูกคิด  คงมีแต่    เถ้าแก่และเจ้าสัวทั้งหลายเท่านั้นที่ยังคงใช้อยู่ตามปกติ อย่างน้อยก็เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมให้   อาเสี่ยทั้งหลายรับช่วงมาในปัจจุบัน  ผมเชื่อว่าลูกคิดมีส่วนในการพัฒนาคุณภาพของคนสองชาตินี้ด้วย

          ปัจจุบันนี้  ลูกคิดมีบทบาทและที่อยู่ที่น่ากล่าวถึงอีกที่หนึ่ง นั่นคือ เป็นอุปกรณ์การเรียน จินตคณิต ในโรงเรียน  ซึ่งเป็นที่ที่เหมาะสม เพราะใช้ฝึกเด็กให้ใช้สมองคิดอย่างมีระบบตั้งแต่ยังเยาว์ซึ่งเป็นเรื่องที่หวังผลได้   การใช้ลูกคิดเป็นอุปกรณ์ช่วยฝึกการคิดเลขในใจไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อสร้างนักคณิตศาสตร์ ระดับไอน์สไตน์ หรือกาลิเลโอ หรือนักเศรษฐศาสตร์สมองเพชร เสมอไป  การใช้สมองคิดอย่างมีระบบและมีหลักการทำให้สมองพัฒนาเกินการจำไปมากมาย จนถึงขั้นวิเคราะห์เป็น แล้วอาจสามารถสังเคราะห์องค์ความรู้ขึ้นเองอีกก็ได้ ที่สำคัญคือช่วยให้หัวไวกับเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่องด้วย    

        คะแนนเฉลี่ยจากการสอบ โอเน็ต เมื่อเร็วๆ นี้ (ซึ่งมีคณิตศาสตร์ครองตำแหน่งบ๊วยและภาษาอังกฤษรองบ๊วย) กับการไม่ชอบคิดเลขของคนไทยจำนวนมาก ทำให้น่าจะแปลหลายๆทอดได้ว่า คนไทยไม่ค่อยถนัดที่จะ คิดเองทำเอง  สู้ใช้คำตอบสำเร็จรูปที่คนอื่น คิดให้และทำให้ ไม่ได้  ผมอยากใช้นโยบายของพรรคการเมืองต่างๆในขณะนี้เป็นตัวอย่างยืนยันว่าผมคิดถูก (ซึ่งไม่ได้แปลว่า คิดไม่แพง นะครับ) เพราะพวกเขาล้วนแต่เสนอว่า  จะคิดและทำอะไรหลายอย่างให้ประชาชนมากกว่าที่เคยเสนอในอดีต และมากกว่าเสนอการจัดระบบที่สมเหตุสมผลและรัดกุม  ถ้าผมคิดถูก พรรคที่จะชนะการเลือกตั้ง คือพรรคที่ทำให้ประชาชนส่วนมากเชื่อว่าจะ คิดให้และทำให้ ได้ถูกใจ มากกว่าพรรคอื่นๆ  เรื่องอื่นๆแทบจะถูกมองข้ามหมด 

        หลังจากรู้ผลแล้ว ผมแอบหวังไว้เงียบๆว่าจะไม่มีสื่อฝรั่งเอาประเทศ(ซึ่งเป็น)ของผม(ด้วย)ไปขึ้นหน้าหนึ่งหรือเว็บว่าเป็น The Land of Spoiled People  

 

หมายเลขบันทึก: 441602เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2011 12:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 15:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท