มีคนเคยถามผมว่า "คุณหากินกับคนรวยหรือคนจน?"
ผมตอบว่า "ทั้งคนรวยและคนจน"
เขาไม่เชื่อ พร้อมพูดว่า "ไม่จริง นายหากินกับคนรวย!"
นั่นก็เพราะเขายังไม่รู้การทำงานที่แท้จริงของมนุษย์ เพียงแต่ติดภาพสังคมที่ตนเองอยู่
คนทุกคนสามารถหากินได้ทั้งกับคนรวยและคนจน
เพียงแต่มี "ปัญญาและความสามารถ"
คนทุกคนโหยหาปัญญา ความสามารถ ที่ตัวเองไม่มี
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจว่า "ทำไมผมหากินกับทั้งคนจนและคนรวย"
การที่คนรวยจ้างผม
ก็เพราะแลกเปลี่ยนกับปัญญาและความสามารถที่ผมมี
และเขาต้องการใช้มัน โดยมีเงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
การที่คนจนอุดหนุนผลงานของผม
ก็เพราะผมสามารถนำเสนอปัญญาและความสามารถได้ตรงตามที่เขาต้องการ
เขาจึงใช้เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
คนรวย ก็หากินกับคนจน เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่าง
เจ้าของกิจการจ้างลูกจ้าง (คนจน) มาทำงานในองค์กร โดยใช้เงินแลกเปลี่ยนกับแรงงานหรือปัญญาของเขา ตามแต่จะตกลงจ่ายค่าตอบแทน จ้างลูกจ้างเพื่อตอบสนองลูกค้า (คนรวย) ที่มาใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ขององค์กร โดยใช้เงินซื้อสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจ
จะเห็นว่าผลประโยชน์ต่างตอบแทนต่างกัน
คนหนึ่งต้องการแรงงานและปัญญา จึงใช้เงินในการว่าจ้าง
คนหนึ่งต้องการเงิน จึงใช้แรงงานและปัญญาในการรับจ้าง
ต่างคนก็ต่างหากินบนพื้นฐานของความพึงพอใจต่อกัน
คำว่า จน หรือ รวย ใครเป็นคนกำหนด?
แล้วคุณๆล่ะครับ ร่ำรวยหรือเปล่า?
ผมมั่นใจว่าผมร่ำรวย แต่เป็นการร่ำรวยความสุข
ที่เชื่อว่าหลายๆคนต้องการมากที่สุดในชีวิต
อย่านำบรรทัดฐานของตัวเองมาวัดหรือเปรียบเทียบกับผู้อื่น
เพราะแต่ละคนดำเนินชีวิตต่างกัน จะรวยหรือจน ต่างก็ต้องทำงานด้วยกันทั้งนั้น
เพียงแต่ว่า "ปัญญาและความสามารถ" จะกระแทกใจกลุ่มใดได้มากกว่ากันต่างหาก!!
บทความโดย The TrainerPatt
เรียนอาจารย์พัฒนะ มรกตสินธุ์ ด้วยความเคารพ
สะดุดตา สะดุดใจ กับชื่อบันทึกค่ะ
คุณหากินกับครวยหรือคนจน?
เข้าใจว่า น่าจะตก ตัว น หนู หรือเปล่าคะ