วันที่ 23 พ.ค.54 ที่ศาลปกครองเชียงใหม่ ชาว บ้านจากหลายหมู่บ้านใน อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เดินทางมาฟ้องคดีต่อศาลปกครองเชียงใหม่เพื่อขอให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบ กิจการโรงไฟฟ้าชีวมวล และขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์ชั่วคราวให้หยุดดำเนินการก่อสร้างในระหว่าง การพิจารณาคดี
โดยฟ้องคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ด้วยเหตุออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าชีวมวลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมซึ่งห้ามตั้งโรงงานทุกจำพวก และใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ฟ้องคดีคือชาวบ้านและชุมชนจำนวนมาก
เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ระบุว่าการมาฟ้องคดีครั้งนี้ เพื่อยืนยันสิทธิชุมชนที่จะมีส่วนร่วมตัดสินใจกับหน่วยงานรัฐในการจัดการ ทรัพยากรชุมชนโดยชุมชนอย่างยั่งยืน และเป็นตัวอย่างแก่พื้นที่ที่มีกรณีปัญหาลักษณะเดียวกันต่อไป เพราะการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลเพื่อเป็นพลังงานทางเลือก ปัจจุบันได้สร้างความขัดแย้งอย่างกว้างขวางระหว่างชุมชนและบริษัทเอกชนหรือ หน่วยงานของรัฐที่ออกใบอนุญาต
ทั้งนี้การประกอบกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังการผลิตไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ไม่ต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) โรงไฟฟ้าดังกล่าวที่เกิดขึ้นในชุมชนเกษตรกรรมหลายแห่งทั่วประเทศจึงเกิด ปัญหาแย่งชิงทรัพยากรน้ำจากภาคเกษตร ปัญหาฝุ่นละออง มลพิษทางอากาศ รวมทั้งกระทบต่อผลผลิตการเกษตรและทรัพยากรชุมชน เนื่องการจัดการและควบคุมตรวจสอบไม่มีมาตรฐานเท่าที่ควร
เฉพาะในเชียงรายมีโรงไฟฟ้าพลังงานแกลบมากถึง 11 โรง สร้างความขัดแย้งในชุมชน เกิดผลกระทบต่อวิถีเกษตรกรรม ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงอาหารท้องถิ่น จนกระทั่งปัญหาบานปลายเป็นความรุนแรงและกลายเป็นคดีความฟ้องร้อง
ทั้งนี้ความไม่ชัดเจนของนโยบายกำกับดูแลการอนุญาตให้สร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ช่องว่างทางกฎหมาย เช่น ร่างกฎหมายผังเมืองที่ยังไม่ประกาศใช้ และขาดนโยบายที่ชัดเจนในการควบคุมความเหมาะสมของพื้นที่ในการสร้างโรงไฟฟ้า ชีวมวล ทำให้สถานการณ์ดังกล่าวคุกคามสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและ การกำหนดวิถีตนเอง .
|