ไม่รู้เหตุเกิดจากวัยเข้าเลขสี่ หรือว่าปีนี้ปีชง 100% หรือว่าไม่รู้จักดูแลสุขภาพตัวเอง หรือถูกทุกข้อ ก็ไม่รู้กันแน่ ....
หลังจากใช้งานร่างกายอย่างหนักพอสมควร จากครั้งอดีตเป็นไทรอยด์ ต่อนั้นมามีเรื่องของประจำเดือนเรื่อยเปื่อย นึกอยากมาก็มา อยากมาเป็นเดือนก็เป็นจนต้องขูดมดลูกไปแล้ว ....ก็พยายามหันกลับมาออกกำลังกายบ้าง ต้องใช้คำว่าพยายามเพราะเดิมตั้งใจว่าจะไปปั่นจักรยานทุกวัน เพราะทางโรงพยาบาลก็นำอุปกรณ์มาเสริฟให้ใกล้บ้านแล้ว ก็ทำได้แค่ระยะนึงเท่านั้น...เหตุเกิดจากเหม็นอึแมวที่มาใช้พื้นที่ร่วมกัน กับบางวันก็มีน้องๆ คนงานก่อสร้างมาแบ่งปันใช้ ก็เลยทำให้ห่างไป จนไม่ได้ออกอีก .........แต่สรุปก็ข้ออ้างนั่นล่ะ คะ เพราะคนที่ชอบออกกำลังกายแบบคนที่บ้าน เห็นฝนตก แดดออก อย่างไรก็ต้องไปทุกวัน แบบคน over ....(ไม่ออกกำลัง แล้วยังค่อนขอดเค้าอีก ฮะ ฮ่า)
แล้วทีนี้ปีนี้เป็นอะไรอีกล่ะ ....เริ่มจากปวดหลังผิดปกติ ตอนแรกก็คาดว่าส่วนหนึ่งน่าจะจากการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป แล้วก็ย้อนมาดูบุคคลิกการนั่ง การเดิน และลักษณะที่นอน ดูพฤติกรรมการยกของหนัก ดูแล้วก็ไม่น่าจะอะไรมาก ปรับหมดแล้วก็ยังปวดเรื้อรังเป็นระย ก็เลยตัดสินใจไปหาคุณหมอคนหน้าตาดี...หมอเลยส่งไป X-Ray ผลออกมาว่า " หมอนรองกระดูกเริ่มเสื่อม" แล้ว เฮ้อ!!! งานนี้เลยหวยออก เอาไงล่ะ ???
ตัวเรา : หมอคะเกิดจากอะไรค่ะ คืออยากรู้สาเหตุ
คุณหมอ : สาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ ป้องกันไม่ได้ครับ เพียงแต่ชลอและแก้ไขเป็นครั้งคราวไป กินยาคลายกล้ามเนื้อจนหาย ก็ดูแลเรื่องการใช้ชีวิตตามที่ทำมา แล้วไม่ต้องใส่ผ้ายืดรัดหลังนะครับ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อขี้เกียจไปอีก ไม่ดี
ตัวเรา : แล้วเรื่องรองเท้าล่ะค่ะ ต้องเปลี่ยนมั้ย ?
คุณหมอ : หมอไม่เห็นด้วยกับการตัดรองเท้า เพื่อช่วยลดอาการกระดูกเสื่อม ไม่เกิดประโยชน์อะไร
จากวันนั้นเราก็กลับมากินยาจนหาย แต่พอทำงานก็ยังไม่จำเผลอนั่งทำงานนานอีก ด้วยความเพลิดเพลิน พอรู้ตัวก็ปวดหลังอีก เฮ้อ !! ร่างกายคงจะเซ็งเต็มทน วันก่อนเลย เตือนอีกรอบด้วยอาการ..."กล้ามเนื้อขาอักเสบ" ก็นั่งทำงานแล้วก็จะเดินไปเอาเอกสารเพิ่มเติม (ลุกช้าๆ ด้วยนะคะ) ปรากฏว่าเดินไม่ได้ เกิดอาการแปร๊บจากข้อพับเข่าร้าวไปปลายนิ้วเท้าเดินเป๋วัน คู่กันกับแมวเฒ่าที่บ้านที่เดินกระเพกๆ มากินอาหาร ก็เลยขำกันไป ไม่รู้ใครจะหายก่อนกัน....
งานนี้ก็เลยไม่รู้ว่าน่าจะตอบข้อไหนเลย ดูแล้วจะทุกข้อรวมกัน....ก็จะพยายามหันกลับมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น แต่รอรอบนี้ให้ปกติก่อน เพราะไม่งั้นสามีกับลูก ลำบากแน่ เพราะใช้ปากยื่นทำงานแทนอยู่เรื่อยเลย....ฮ่ะ ฮ่า
หนูขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ คุณอาหนูท่านก็อายุมากแล้ว แล้วท่านก็เป็นมานานก็ไม่ยอมไปรักษา
ช่วงที่เป็นหนักๆนี่แทบจะเดินไม่ได้เลย ดีที่ไม่ได้ทำงานแล้วมันงั้นคงลำบากน่าดู ก็ไปรักษามาหลายที่นะ
แต่ส่วนใหญ่จะให้เป็นยามาบรรเทาอาการ จะผ่าตัดก็กลัวว่ามันจะไม่หาย หนูก็พยายามหาที่รักษษแบบว่าไม่ต้องผ่าตัดทั้งแผนปัจจุบัน แผนไทยเอาหมด สงสารท่านมากเลยค่ะ
ก็ไปมาหลายที่ก็ไม่หาย บังเอิญพอดีรุ่นร้องที่ทำงานเก่าได้ที่ทำงานใหม่เป็นเซลล์ขายรถอยู่แถวๆเลียบทางด่วนรามอินทรา โทรมาบอก พี่ๆ ข้างๆที่ทำงานมีคลินิกอยู่
ก็เลยลองพาคุณอาไปรักษาดู ที่นี่เขาบอกว่ารักษาหมอนรองกระดูกอักเสบ ไม่ต้องผ่าตัดนะ ก็ไปรักษาอยู่พักหนึ่งอาการก็ค่อยๆดีขึ้นนะ ถึงจะไม่หายขาดก็เถอะ
แต่ก็ดีกว่าที่เป็นอยู่เยอะ ตอนนี้เดินเหินสะดวก ไม่ลำบากแระ
ใครมีญาติหรือเพื่อนๆที่เป็นก็แนะนำเลยชื่อคลินิก Npain Clinic อยู่แถวๆ เลียบทางด่วนรามอินทรา
จำเบอร์โทรไม่ได้แระ ลองค้นจากกูเกิ้ล ดูก็ได้ชื่อคลินิกเลยค่ะ น่าจะเจอ เดี่ยวหาเบอร์โทรเจอจะเอามาลงให้ใหม่ แนะนำว่าต้องรีบรักษานะโรคแบบนี้นะ
พอปล่อยไว้นานแล้วมันจะรักษาลำบาก และที่สำคัญคือมันทรมานทั้งคนเจ็บ ทั้งญาติเลยแหละ
รายงานตัวค่ะ หลังจากเหตุการณ์อดีตครั้งนั้น ก็ลุกมาดูแลตัวเองมากขึ้น ตั้งใจออกกำลังกายค่ะ เผอิญที่โรงพยาบาลมีโยคะเข้ามาเป็นทางเลือกในการออกกำลังกายให้เจ้าหน้าที่ ก็เลยถูกจริตเราพอดี ทำไปทำมาก็ดีค่ะ อาการหายไปหมดทุกอย่าง คงเพราะกล้ามเนื้อได้ยืดตัวดีขึ้น