If you would not be forgotten as soon as you are dead and rotten, either write something worth reading or do things worth the writing.
ถ้าคุณไม่อยากถูกลืมเมื่อคุณสิ้นชีวิตและเน่าเปื่อยไปแล้ว คุณควรเขียนสิ่งที่ควรค่าต่อการอ่าน หรือทำในสิ่งที่ควรค่าต่อการเขียนถึง
Benjamin Franklin
ผู้ก่อตั้งห้องสมุดสาธารณะแห่งแรกของอเมริกา
http://www.philadelphia-reflections.com/
สวัสดีครับ...
ขอบคุณเรื่องราวที่นำมาครับ ประทับใจมากครับ
พอดีลูกชายผม ถามผมหลายวันแล้ว ผมขอไปค้นคำตอบก่อน แต่ยังไม่พบเลยครับ ถามอาจารย์ต่อครับ เผื่อรู้ครับ เขาถามว่า
ทำไม ต้องเรียกว่า 'ห้องสมุด' ทั้งที่มันเป็น 'ห้องหนังสือ' ครับ
ขอบคุณครับ
เอ ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เป็นงง :(
เดี๋ยวจะช่วยหาคำตอบให้หลานค่ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์จันที่เคารพรัก
ครูนกอ่านแล้วประทับใจมากค่ะ....จะพยายามเขียนในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังค่ะโดยอาศัยพื้นที่ G2K นะค่ะ
วันก่อนได้ฟังธรรมะของหลวงพี่พิทยา ท่านบอกว่า แม้ร่างกายนี้จะสิ้นไป แต่การที่พระได้มาบรรยายธรรมให้สานุศิษย์เพื่อเผยแพร่คำสอนต่อไป ก็เหมือนกับพระยังอยู่กับทุกคน
เอาคำตอบมาฝากคุณทิมดาบ ค่ะ อ.จัน จาก
http://pbmath.exteen.com/20090118/entry-5 เขาบอกไว้ว่า
"แต่โบราณนานมา คนไทยบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพงศาวดาร ตำรายา กาพย์กลอน ฯลฯ ลงสมุดทั้งสิ้นสมุดที่ว่านี้เรียกว่าสมุดไทย ทำด้วยกระดาษข่อยแผ่นยาว ๆ หน้าแคบ พับทางขวางทบกลับไปกลับมาคล้ายผ้าจีบ เป็นสมุดเล่มสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทั้งชนิดกระดาษขาวและกระดาษดำ ดังนั้นจึงเรียกห้องที่ใช้เก็บสมุดว่า ห้องสมุด
มาภายหลังเรารับเทคโนโลยีการพิมพ์จากตะวันตก สิ่งที่เก็บอยู่ในห้องสมุดจึงเป็นหนังสือแทบทั้งสิ้น แต่คำใช้เรียก "ห้องสมุด" หรือ “หอสมุด” ก็มิได้เปลี่ยนตามเป็น "ห้องหนังสือ” หรือ "หอหนังสือ” ซึ่งนับว่าดีแล้ว ไม่เช่นนั้นเราคงต้องเปลี่ยนชื่อไปเรื่อย ๆ ตามวัสดุที่เก็บ
อนึ่ง คำว่า ห้องสมุด พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบัญญัติขึ้นใช้ให้ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Library
ที่มา หนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี"
สวัสดีครับ อาจารย์ รอบบ่ายๆ ครับ
ผมตามไปขอบพระคุณอาจารย์โอ๋ -อโณ ครับ
ขอบคุณบันทึกของอาจารย์ด้วยที่มีคำว่า "ห้องสมุด"
ทำให้ผมได้คำตอบไปฝากลูกชายครับ
ขอบคุณสำหรับการรบกวนครับ
สวัสดีค่ะ
แวะมารับข้อคิดดีๆ จากบันทึกนี้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ^^
สวัสดีครับดร.จันทวรรณ ปิยะวัฒน์
ต้องขอบคุณบันทึกดีๆ ที่ทำให้มีกำลังใจที่อยากจะเขียน
อยากจะฝากข้อคิดมุมมองดีๆ ไว้ที่นี่G2Kอีกนะครับ
"ถ้าคุณไม่อยากถูกลืมเมื่อคุณสิ้นชีวิตและเน่าเปื่อยไปแล้ว คุณควรเขียนสิ่งที่ควรค่าต่อการอ่าน
หรือทำในสิ่งที่ควรค่าต่อการเขียนถึง"
ขอบคุณ "คำคม" ที่คงคมมานานสองร้อยกว่าปีที่ อาจารย์ ดร.จันทวรรณ กรุณายกมา
เมื่อครู่ผมเพิ่งลืมว่าชงกาแฟแล้ววางแก้ว(ซึ่งยังไม่ได้ดื่ม) ไว้ที่ไหน
ขนาดไม่กี่วินาทียังลืม จึงกำกับตนเองให้ต้องรีบเขียน
ก่อนที่คนเขียนจะลีมซะเอง
สวัสดีครับ
ผมแวะมาเก็บคำคมไว้ไปสอนเด็กฝึกเขียนวิเคราะห์น่ะครับ ขอขอบคุณในความเอื้อเฟื้อครับผม
ปล. ผมมานึกๆไป ก็เห็นแย้งกะท่านเบนจามินนะครับ เพราะผมเองขออยู่แบบเงียบๆและหายไปจากโลกนี้แบบเงียบๆดีกว่า การเป็นที่จดจำมันสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ ...เท่าที่"เป็น อยู่ คือ" เช่นทุกวันนี้ก็ยากยิ่งกว่ายากแล้วล่ะครับ ขอยกธงขาวไปก่อนละ
สวัสดีค่ะคุณหนานวัฒน์ ดิฉันและสามีเป็นคนรักสงบเช่นกันค่ะและอีกหลายๆ ท่านในที่นี้ค่ะ
บางทีคำพูดของท่านเบนจามินอาจจะแฝงอะไรที่มากกว่านั้นนะค่ะ
ท่านอาจจะไม่อยากให้คนจดจำตัวท่านในชื่อและรูปลักษณ์สังขาร แต่อยากให้จดจำในความรู้ที่ท่านมีมากกว่าค่ะ
มีพระท่านหนึ่งค่ะ พูดกับดิฉันไว้ว่า แม้ร่างกายนี้จะสิ้นไป แต่การที่พระได้มาบรรยายธรรมให้สานุศิษย์เพื่อเผยแพร่คำสอนต่อไป ก็เหมือนกับพระยังอยู่กับทุกคน ขอบคุณค่ะ