"...พอนั่งไปได้สักพักมีผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมามองเห็นไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่งนิ่งเฉย คุณผู้หญิงคนนั้นก็พูดภาษาอังกฤษสำเนียง แขกผสมอารมณ์ เสียดสีว่า Are you a woman? (นายเป็นผู้หญิงหรือ?) ฝ่ายหนุ่มไทยผู้อ่อนต่อภาษาและสำเนียงอันบาดใจตอบด้วยความมั่นใจทันทีว่า Yes ..."
เรื่องเล่าจากต่างแดน ตอนที่ ๓
(ส่งตรงจากประเทศอินเดีย)
On the Bus
โดย…อ.ประดิษฐ์ นารีรักษ์
เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาผมมีโอกาสเดินทางไปเมืองปูเน่ ซึ่งเป็นหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองโมเดิร์น ที่ว่าโมเดิร์นใน ความหมายของนักศึกษาไทยในอินเดียก็คือสาวๆที่นี่จะใส่ยีนส์ มีเกาะอกเกาะไหล่นิดๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นสาวๆเมืองนี้ผิวขาวหน้าตาดี ทรวดทรงองค์เอวสะสวยชนิดมองแล้วไม่อยากละสายตาทีเดียว เมืองนี้ตั้งอยู่ในรัฐมหารัชตระ ภาษาถิ่นที่ใช้กันก็มี มารตี กุจราตี ฮินดี และอื่นๆ อีก ไม่ต้องแปลกใจนะครับว่าทำไมเมืองนี้มีภาษาใช้เยอะจัง เพราะที่อินเดียมีภาษาถิ่นประมาณกว่าหนึ่งพันภาษาทีเดียว แต่ที่ใช้กันมากก็คือภาษาฮินดีและภาษาอังกฤษ การเดินจากเมืองเชนไนเมืองที่ผมศึกษาอยู่ถึงเมืองปูเน่ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลใช้เวลาหนึ่งวันกับ หนึ่งคืนเต็มๆ การเดินทางก็สะดวกสบาย โดยส่วนมากการเดินทางจากรัฐหนึ่งไปอีกรัฐหนึ่งจะใช้เครื่องบินและรถไฟเป็นหลัก ถ้ากระเป๋าตุงหน่อยก็ไปเครื่องบินดีกว่าและสบายกว่า แต่ถ้ากระเป๋าแบนแฟนจะทิ้งแหล่มิทิ้งแหล่ก็ควรจะไปรถไฟจะประหยัดกว่าเยอะ แต่จะให้ดีที่อินเดียจะไปไหนต้องวางแผนอย่างน้อยสองสัปดาห์เพราะจะได้จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า แต่ถ้าไปแบบกระชั้นชิดล่ะก็คงได้นั่ง และนอนหน้าห้องน้ำแน่นอนผมได้รับประสบการณ์นี้มาแล้วโดยตรง ไม่อยากจะพรรณนาว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน แต่ก็ได้เรียนรู้ชีวิตอีกแบบ โดยเฉพาะกลิ่นห้องน้ำที่โชยออกมามิขาดสาย
ที่เกริ่นมาไม่เกี่ยวกับวลีที่ว่า On the bus สักนิดใช่ไหมครับ แน่นอนคงต้องย้อนกลับมาที่ เชนไนเหมือนเดิม วลีที่ว่า On the bus ก็แปลว่าบนรถโดยสารหรือบนรถเมล์นั่นแหละครับ เวลาเข้าเมืองไปห้องสมุดหรือเที่ยวห้างดูหนังส่วนมากนักศึกษาไทยที่เชนไนจะใช้ บริการรถเมล์หรือไม่ก็รถไฟ (รถไฟฟ้า) เป็นพาหนะบริการส่วนตัวเพราะปลอดภัยสำหรับชีวิตและทรัพย์สิน บางทีบรรดาพี่แขกเห็น หน้าตาคนไทยตี๋ๆ ผสมลาวนิดๆ ก็มักจะถามว่า Where are you from? หรือไม่ก็ Are you Nepali? (คุณคือชาวเนปาลใช่ไหม?) ถามบ่อยเข้าๆเบื่อตอบบางทีก็ตอบส่งๆ ไปว่า Yes เพราะถ้าตอบว่า No มักมีคำถามตามมาอีกเป็นพรวน บางทีอารมณ์บ่จอยเพราะ คนแออัดบนรถเมล์แทบหายใจไม่ออกก็จะตอบแบบกวนๆนิดๆว่า It is out of your business, man!. (มันไม่ใช่เรื่องของมึงนะโว้ย) แต่ระวังอย่านำประโยคนี้ไปใช้กับชาวต่างชาติมั่วนะครับเพราะไม่สุภาพและที่สำคัญเวลาจะใช้ควรมีเพื่อนอย่างน้อยสักคนสองคนจะปลอดภัย
สิทธิ์การนั่งรถเมล์แขกไม่เหมือน รถเมล์ไทยนะครับ เขาแยกที่นั่งผู้หญิงผู้ชายชัดเจน ขวาชาย ซ้ายหญิง ผู้ชายอย่าทะลึ่งไปนั่งด้านซ้าย ก็แล้วกันเจอบรรดาผู้หญิงทำตาค้อนใส่แน่นอนพร้อมกับคำเชิญให้สละเก้าอี้ แม้ว่าคุณจะแกล้งหลับหรือแกล้งสลบก็ไม่มีสิทธิ์นั่งด้าน ของผู้หญิงครับ แต่ด้านของฝ่ายชายผู้หญิงนั่งได้ไม่มีปัญหาเพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติผู้หญิงเพศผู้อ่อนแอ มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนรุ่นน้อง เพิ่งมาอินเดียและขึ้นรถเมล์เป็นครั้งแรก พอรถจอดเทียบป้ายก็สวมวิญญาณวัยรุ่นใจร้อนรีบวิ่งขึ้นไปจองที่นั่งทันทีมองไปด้านซ้ายมือ มีหนึ่งที่นั่งไร้ผู้จับจอง น้องท่านก็รีบฉวยโอกาสนี้ยึดที่มั่นพร้อมกับนั่งด้วยอารมณ์เบิกบานสำราญจิตแต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นที่ “ต้องห้าม” พอนั่งไปได้สักพักมีผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมามองเห็นไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่งนิ่งเฉย คุณผู้หญิงคนนั้นก็พูดภาษาอังกฤษสำเนียง แขกผสมอารมณ์ เสียดสีว่า Are you a woman? (นายเป็นผู้หญิงหรือ?) ฝ่ายหนุ่มไทยผู้อ่อนต่อภาษาและสำเนียงอันบาดใจตอบด้วยความมั่นใจทันทีว่า Yes พร้อมกับนั่งทอดสายตาออกนอกหน้าต่างอย่างบุรุษผู้กล้า เดือดร้อนเพื่อนที่ไปด้วยกันต้องเดินฝ่าฝูงชนไปสะกิดว่า “เฮ้ย นั่นเป็นที่นั่งของ ผู้หญิง”
………………………………………………..
เมื่อเช้านี้ดิฉันได้รับทราบข่าวที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรเรา
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้สร้างระบบเว็บบล็อก(weblog) เป็นของตนเอง ดูแลโดยอาจารย์น้องใหม่ไฟแรงคนเก่ง ท่านอาจารย์กฤษณา กลิ่นจันทร์ ท่านอาจารย์อ้อเล่าว่าจะสามารถใช้งานได้ในสัปดาห์หน้าค่ะ
นอกจากเว็บบล็อกแล้ว คณะวิทยาศาสตร์ฯ ยังออกแบบระบบ E-Office ใช้งานในหน่วยงานด้วยค่ะ(สุดยอดจริงๆ)
สำหรับการดำเนินงานที่น่าทึ่ง นำโดยท่านรองศาสตราจารย์พรเพ็ญ โชชัย คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คำว่า "ยอดเยี่ยม" คงถูกนำมาใช้ได้ไม่เหมาะสมเพียงพอ เมื่อเทียบกับความทุ่มเทที่มากมายมหาศาลของทีมงานคณะวิทยาศาสตร์ฯ ค่ะ