I'M-ไวรัสตับอักเสบ บี #4


รู้จักPegasys

มารู้จักยาPegasys

ชื่อสามัญ :  Peginterferon [alfa-2a]

ชื่อการค้า :  Pegasys (180 mcg) เพกาซิส (180 มคก.)

รูปแบบยา :  ยาฉีด

ยานี้ใช้สำหรับ : 

  • ยานี้ใช้เพื่อรักษาโรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (hepatitis C) หรือป้องกันการแพร่โรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (hepatitis C) แก่ผู้อื่น
  • ยานี้สามารถใช้เพื่อรักษาโรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (hepatitis B)

    วิธีใช้ยา : 
  • ยานี้อยู่ในรูปแบบยาสำหรับฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
  • โดยทั่วไปฉีดยานี้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ในวันและเวลาเดียวกันของทุกสัปดาห์
  • ห้ามเขย่ายาในขวดยา หรือหลอดยาฉีด เนื่องจากการเขย่าสามารถทำลายคุณสมบัติของยา
  • สามารถฉีดยาเวลาใดก็ได้ โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีดก่อนนอน เพื่อลดความรู้สึกของอาการคล้ายกับอาการไข้หวัด ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงจากการใช้ยา
  • ห้ามหยุดใช้ยาเองโดยไม่ได้รับคำสั่งจาแพทย์ผู้ทำการรักษา
  • เปลี่ยนบริเวณที่ฉีดยาแต่ละครั้ง โดยไม่ฉีดยาซ้ำบริเวณเดิม
  • ไม่ฉีดยาบริเวณที่มีบาดแผล รอยฟกช้ำ บริเวณที่มีการติดเชื้อ หรือบริเวณผิวหนังที่มีความผิดปกติ
  • ตรวจสอบลักษณะของยา ไม่ใช้ยาหากยามีสีที่เปลี่ยนไป ขุ่น มีเศษผง หลอดยาหรือขวดยามีรอยรั่ว มีเศษผงแปลกปลอมในยาหลอดยาหรือขวดยา
  • ห้ามใช้หลอดฉีดยาหรือเข็มฉีดยาที่ใช้แล้ว และทิ้งหลอดยาหรือเข็มฉีดยาในถังขยะที่ปิดมิดชิดและแยกจากถังขยะทั่วไป
  • ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือการทำงานกับเครื่องจักรกล เมื่อใช้ยานี้
  • ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร

    สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ : 
  • การแพ้ยาอินเตอเฟอรอน แอลฟา 2 เอ (interferon alfa-2a) อินเตอเฟอรอนอื่นๆ หรือแพ้ยาอื่นๆ
  • ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง โดยเฉพาะ ยาต้านไวรัส ยากันชัก ยาเคมีบำบัด ยารักษาโรคหอบหืด
  • วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร ที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้
  • การได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
  • การมีโรคโลหิตจาง หรือภาวะผิดปกติของเลือด
  • การมีภาวะเลือดออกผิดปกติ
  • การมีความผิดปกติของตา
  • การมีความผิดปกติของตับอ่อน
  • การมีโรคแอนติบอดีถูกผลิตขึ้นเพื่อต่อต้านเนื้อเยื่อของตัวเอง (autoimmune disease) เช่น โรคเอสแอลอี (SLE; systemic lupus erythematosus) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis)
  • การมีภาวะลำไส้อักเสบ เช่น โรคแผลเปื่อยจากลำไส้อักเสบ (ulcerative colitis) โรคโครน (Crohns disease)
  • การมีภาวะซึมเศร้า หรือความผิดปกติทางอารมณ์
  • การมีโรคเบาหวาน
  • การมีโรคหัวใจ
  • การมีความผิดปกติของการทำงานของตับ
  • การมีความผิดปกติของการทำงานของไต
  • การมีโรคมะเร็ง
  • การมีโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
  • การมีโรคของต่อมไทรอยด์
  • การติดแอลกอฮอล์ หรือยาเสพติด
  • การตั้งครรภ์ การวางแผนในการตั้งครรภ์ ห้ามตั้งครรภ์ขณะใช้ยานี้
  • การให้นมบุตร ขณะให้นมบุตร ไม่ควรใช้ยานี้
  • หากท่านต้องได้รับการผ่าตัดหรือทำทันตกรรม ควรแจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ว่าท่านใช้ยานี้อยู่

    ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา :  
  • โดยทั่วไปถ้าลืมฉีดยาและนึกได้ในวันเดียวกันหรือวันถัดไป ให้ฉีดทันทีที่นึกได้ และฉีดครั้งต่อไปตามปกติ
  • ถ้าลืมฉีดยาและนึกได้หลังจากวันกำหนดฉีดยามากกว่า 2 วัน ให้แจ้งให้แพทย์ผู้รักษาทราบ เพื่อพิจารณาการฉีดยาในสัปดาห์นั้น
  • ห้ามฉีดยาในปริมาณมากกว่าที่กำหนดใน 1 สัปดาห์

    อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา : 
    1) อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
    • สายตาผิดปกติ สูญเสียการมองเห็น หรือตาพร่า มีภาวะซึมเศร้า โกรธง่าย ก้าวร้าว หายใจลำบาก ประสาทหลอน ผิวซีด หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ปวดหลังส่วนล่าง ผื่นคัน ผื่นลมพิษ มีอาการบวมของใบหน้า ลำคอ ลิ้น ริมฝีปาก ตา มือ เท้า ข้อเท้า ขาส่วนล่าง กลืนลำบาก เสียงแหบ หัวใจเต้นผิดปกติ มีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก มีอาการเหน็บชา ไม่รู้สึก ของนิ้วมือ หรือนิ้วเท้า มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง มีเลือดออก รอยฟกช้ำ หรือจุดแดงตามผิวหนังผิดปกติ ถ่ายท้องมีเลือดปน ปัสสาวะมีเลือดปน หรือปัสสาวะสีน้ำตาลหรือเข้มกว่าปกติ ไข้ หนาวสั่น ไอ เจ็บคอ ปัสสาวะลำบาก หรือมีอาการเจ็บเวลาปัสสาวะ ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง ความดันโลหิตสูง

    2) อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ

    • อ่อนแรงหรือเหนื่อยเพลียผิดปกติ บริเวณที่ฉีดยามีรอยฟกช้ำ บวม แดง หรือระคายเคือง รู้สึกไม่สบายท้อง อาเจียน มีอาการแสบยอดอก การรับรสเปลี่ยนแปลง ปากแห้ง อาจเคี้ยวหมากฝรั่งชนิดไม่มีน้ำตาล อมลูกอมชนิดไม่มีน้ำตาล หรือดื่มน้ำมากๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไม่มีสมาธิ หรือจำอะไรไม่ค่อยได้ ท้องเดิน ผิวแห้ง หรือมีอาการคัน ผมร่วง นอนหลับยาก เหงื่อออก ง่วงซึม เวียนศีรษะ มีอาการปวดข้อ ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อ

    การเก็บรักษายา 

  • เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บยานี้ในตู้เย็นช่องปกติที่มีอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ห้ามเก็บยานี้ในช่องแช่แข็ง และห้ามเก็บยาไว้นอกตู้เย็นเกิน 24 ชั่วโมง
  • ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ
  • เก็บยานี้ในภาชนะที่ป้องกันแสงได้ เช่น ขวดหรือซองสีชา 2934Pegasys (180 mcg) เพกาซิส (180 มคก.)t29
  • หมายเลขบันทึก: 437491เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2011 10:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:42 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (0)

    ไม่มีความเห็น

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท