ช่วงที่ผมเข้าเรียนจุฬาฯ นิสิตใหม่ผู้หญิงจะได้รับยกย่องเป็น "ดาว" มีดาวคณะ ดาวจุฬาฯ ดาวคณะวิทยาศาสตร์ได้แก่ จันทพงษ์ จินดา วนาสิน และ - จินตกานนท์ ส่วนดาวผู้ชายคือไพจิตร ดาวนี้เขาเรียกภาษาทางการว่าผู้แทนน้องใหม่
กิจกรรมนิสิตมีส่วนทำให้เลือดสีชมพูเข้มข้น และเลือดสีคณะยิ่งเข้มข้น อย่างพวกเราอยู่คณะวิทยาศาสตร์เลือดของพวกเราสีเหลือง วิศวะสีเลือดหมู รัฐศาสตร์สีดำ เป็นต้น เราถูกกระตุ้นเชิงอารมณ์ด้วยเพลงเชียร์ ด้วยคำขวัญ Spirit, Order, Tradition, Unity, Seniority จนรู้สึกว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราร้องเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ น้ำใจน้องพี่สีชมพู แล้วขนลุกซู่ เลือดสีชมพูฉีดแรง ฯลฯ
ผู้แทนน้องใหม่ปีที่แล้วมาเล่าเหตุการณ์ที่ถูกคณะวิศวะตีเมื่อปีที่แล้วตอนเชียร์กีฬา สร้างความเคียดแค้นที่ถูกลบหลู่ พอถึงหน้าแข่งกีฬาระหว่าคณะก็จะมีการร้องเพลงเชียร์โต้ตอบยั่วเย้า จนตึงเครียดหวิดๆ จะตีกันเหมือนกัน ตามปกติเวลานิสิตตีกันมักมี วิดวะเป็นตัวยืน คู่ตีก็มักเป็นคณะที่มีผู้ชายเยอะหน่อย ได้แก่วิดยา หรือรัดสาด นี่ผมเดาะภาษาพูดที่ใช้กันจริงๆ นะครับ ปีที่ผมเป็นน้องใหม่วิดวะกับวิดยาไม่ได้ตีกัน จำไม่ได้แน่ว่าวิดวะตีรัดสาดปีที่ผมเป็นน้องใหม่ หรือปีที่ผมเป็นโซโฟมอร์ (ปี ๒) การตีกันระหว่างวิดวะกับรัดสาดรุนแรงมาก
ตอนนั้นกีฬารักบี้เป็นกีฬายอดนิยมพอๆ กับฟุตบอล น้องใหม่ไปเชียร์รักบี้เห็นนักรักบี้รุ่นพี่ที่เป็นโซโฟมอร์ แทคคู่ต่อสู้แล้วล้มหัวฟาดพื้นสลบ และสิ้นใจในเวลาต่อมา นักรักบี้ท่านนั้นคือสุกิจ - - รุ่นพี่บอกว่าสุกิจสมองช้ำอยู่แล้ว เพื่อนห้ามไม่ให้ลงแข่งก็ไม่เชื่อ
แต่ละคณะมีสโมสรนิสิต มีผู้แทนคณะ ประธานนิสิตหญิง ประธานเชียร์ และตำแหน่งอื่นๆ อีกมาก คนที่ใกล้ชิดน้องใหม่ที่สุดคือประธานเชียร์ รุ่นที่ผมเป็นน้องใหม่ประธานเชียร์ชื่อชัยวัฒน์ ตอนผมมาเป็น ผอ. สกว. ยังได้พบท่าน ท่านทำงานเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ที่กระทรวงเกษตร
ตอนเป็นโซโฟมอร์ เรามีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นกรรมการสโมสร เพื่อนๆ เสนอชื่อผมเข้าแข่งเป็นบรรณารักษ์ แข่งกับนิสิตหญิงรุ่นพี่ชื่อจุรี ทรงทวีสิน และผมชนะ แต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หมอจุรีจบแพทย์จุฬาฯ รุ่นเดียวกับผม นามสกุลเมื่อแต่งงานคือปุณโณทก เป็นภรรยาของพลเอกคมกฤช ปุณโณทก เพื่อน วปอ. รุ่น ๓๕๕ ของผม และเป็นพี่ชายของหมอปรียา (ปุณโณทก) กุลละวณิชย์ อดีอ ผอ. สถาบันโรคผิวหนัง ที่เรียนแพทย์ศิริราชรุ่นเดียวกับผม
วิจารณ์ พานิช
๙ กค. ๔๙
ไม่มีความเห็น