- เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เข้ารับการอบรมการบรรยายเป็นช่วงสุดท้าย
- และก่อนเดินทางที่ขอนแก่นอากาศหนาวเย็น จึงไม่แน่ใจว่าจะจัดเสื้อผ้ารับอากาศที่กทมแบบไหนดี
- แต่คิดว่าอย่างไร กทม. คงไม่หนาวเย็นเหมือนขอนแก่นแน่ๆ จึงเตรียมเสื้อผ้าไม่หนามาก
- และเมื่อ เดินทางไป กทม. ออกเดินทางตั้งแต่เช้าวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ เข้าพักที่โรงแรมริชมอนด์ พอเข้าที่พักช่วงบ่าย
- อากาศไม่เย็นจริงๆด้วย โชคดีไป
- บ่าย
- อบรมกันตั้งแต่บ่ายจนถึง ๔ ทุ่มกว่า
- เช้าวันรุ่งขึ้น ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ไปดูงานที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
- มีหลายอย่างที่เป็นสิ่งดีๆ
- จนทราบว่ามีผู้มาดูงานเยอะ
- บรรยากาศสวยงาม สะอาด
- มีรถรางด้วย
มีรถจักรยานพร้อมที่จอดไว้บริการ แบบไม่ต้องห่วง ในการเดินทางจากตึกหนึ่งไปอีกตึกนึง ดีจริงๆ
เราได้ไปดูห้องสมุดที่ทันสมัย ดูเป็นห้องสมุดที่มีชีวิต น่าเข้าไปมากค่ะ
นี่เป็นโซนใช้บริการ การบรรยายของอาจารย์ที่มีข้อมูลเปิดดูได้เป็นรายชั่วโมงของแต่ละวิชาด้วยค่ะ
มีห้องเล็กๆไว้ให้นักศึกษาได้ดูหรือฝึกทักษะร่วมกัน เช่น ฝึกภาษาอังกฤษ
- บ่ายเดินทางไปอัมพวา ถึงที่พักหน่อยนึง ก็ได้เวลาอาหารเย็น และได้นั่งเรือ ไปดูหิ่งห้อย เค้าบอกว่า ก่อนหน้านี้อาหารเย็นฝนตก ดังนั้นจึงมีหิ่งห้อยเยอะแยะให้ดูสวยงาม แถมด้วยดาวสวยๆเต็มท้องฟ้า
- เช้าวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๔ ออกจากอัมพวาสายๆ ถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวก ได้ล่องเรือแจว
- คนแจวเรือ มีลูกชายเล็กๆมากับแม่ด้วย
- เค้าใจดีพาซื้อข้าวของ ได้ส้มโอ มะม่วงกวน
- และได้กล้วยนาคมาด้วย
- และแวะให้กินก้วยเตี๋ยวเรือ พาไปดูโรงงานทำน้ำตาลสด น้ำตางมะพร้าว และวัดโชติการาม
- เสียดายที่เวลาน้อยจึงไม่ได้ขึ้นไปชมวัด
- แต่เค้าก็พาเราไปชมเส้นทางเดินทางเดิมของรัชกาลที่ ๕
- ชี้ให้ดูทางเข้าไปบ้านเจ็กฮวด พระสหายของรัชกาลที่ ๕
- พาผ่านสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่โรงเรียน วัด ธนาคาร โรงหนังและตลาดเก่า ที่เรียกว่าเหล่าตักลัก ที่เป็นภาษาแต้จิ๋ว แปลว่าตลาดเก่า
- ตอนสุดท้ายแวะที่ตลาดท่าเรือ ได้ซื้อเฉาก้วยไปฝากพ่อกับแม่ด้วย
- บ่ายเดินทางกลับขอนแก่น
- ตอนเย็นๆแวะ ปาริโอ้ ที่เขาใหญ่ เป็นสถานที่ ที่ล้อมรอบด้วยหุบเขา สวยงามดี อาคารต่างๆตกแต่งให้สวยงามแบบอิตาลี่ มีของขายทันสมัย มากมาย