ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง
นาย ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง (เอ) หลักเมือง

รัชกาลที่ 3 ช่วยประเทศไทยพ้นวิกฤตการณ์ทางการเมืองและสงครามระหว่างประเทศ


พระมหาเจษฎาราชเจ้าช่วยประเทศไทยพ้นวิกฤตการณ์ทางการเมืองและสงครามระหว่างประเทศ

พระมหาเจษฎาราชเจ้าช่วยประเทศไทยพ้นวิกฤตการณ์ทางการเมืองและสงครามระหว่างประเทศ                              ศุภัชณัฏฐ์  หลักเมือง                                                                                                                                                                        ผู้อำนวยการ (เชี่ยวชาญ) กศน.อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์

                              ******************************

              

                     31 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า          ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ถือเป็นวันสำคัญของชาติเพื่อประกอบงานรัฐพิธีถวายราชสักการะ โดยมิต้องถือเป็นวันหยุดราชการ และเห็นชอบให้ถวายพระราชสมัญญามหาราชว่า พระมหาเจษฎาราชเจ้า แปลว่า พระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่

          ตลอดระยะเวลาที่รัชกาลที่ 3 ทรงครองราชย์สมบัติ สิริรวมประมาณ 27 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2367 - 2394 พระองค์ทรงปกครองประเทศโดยทำนุบำรุงให้ชาติเข้มแข็งรุ่งเรือง ได้ทรงดำรงพระบรมราชวงศ์จักรีซึ่งเพิ่งสถาปนาขึ้นใหม่ให้มั่นคง โดยทรงมีส่วนร่วมกับขุนนางในการบริหารราชการก่อนที่จะเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ และได้ทรงควบคุมกิจการบ้านเมืองด้วยพระองค์เอง มาตลอดรัชสมัยของพระองค์ ทรงเลือกเฟ้นแต่งตั้งเสนาบดีที่มีความสามารถให้รับราชการสนอง พระเดชพระคุณตามอำนาจหน้าที่ พระองค์ได้ดำเนินนโยบายภายในประเทศอย่างเข้มแข็งและเป็นผลสำเร็จอย่างดียิ่ง ได้ทรงเพิ่มพูนรายได้ของประเทศชาติอย่างหลากหลายวิธี เช่น แต่งเรือสำเภาไปค้าขายกับต่างประเทศ เปลี่ยนแปลงและปรับปรุงการเก็บภาษีอากรจากรูปของสินค้าและแรงงานเป็นการชำระด้วยเงินตรา ที่สำคัญคือมีการเก็บภาษี ตั้งขึ้นใหม่ถึง 38 อย่าง เพื่อมิให้บังเกิดความขาดแคลนเหมือนเมื่อครั้งรัชกาลก่อน ทั้งยังได้เพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศ สร้างกองทัพเรือ ขุดคูคลอง  สร้างป้อมปราการเพื่อรักษาปากน้ำจุดสำคัญๆ ในขณะเดียวกันก็ทำนุบำรุงประเทศพร้อมกันไปด้วย

          เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ในปี พ.ศ.2394 นั้น ประเทศอยู่ในสภาพมั่นคงสมบูรณ์ รัฐบาลเป็นปึกแผ่นยิ่งกว่าตอนที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ พระราชอาณาเขตขยายออกไปกว้างขวางกว่าเดิม เขตแดนทั้งทางบกทางน้ำมีความปลอดภัยยิ่งกว่าครั้งใดๆ ด้านเศรษฐกิจของประเทศก็มีเสถียรภาพยิ่ง สามารถนำเงินไปใช้ในการทะนุบำรุง ประเทศ การป้องกันประเทศ    การศาสนา และด้านอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังมีเงินที่เหลือบางส่วนเก็บใส่ “ถุงแดง” เอาไว้ ซึ่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ทรงนำมาใช้เป็นค่าปรับในกรณีพิพาทกับประเทศฝรั่งเศส เมื่อ ร.ศ.112 ช่วยให้ประเทศไทยรอดพ้นวิกฤตการณ์ทางการเมือง และสงครามระหว่างประเทศไปได้ และเป็นเอกราชมาจนถึงทุกวันนี้.

 

 

หมายเลขบันทึก: 433588เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2011 16:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 17:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท