ผมออกเดินทางจากไชยาด้วยความทุลักทุเลพอสมควรเมื่อวานนี้ ที่กล่าวเช่นนี้เป็นเพราะ ...
อย่างไรก็ตามขอสารภาพว่าที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นแม้จะเป็นความจริง แต่ไม่ได้ทำให้ความสุขของผมหายไปแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับรู้สึกภูมิใจ พอใจตัวเองที่จะได้ทำสิ่งที่อยากทำ ควรทำอีกครั้งหนึ่งแล้ว ท่ามกลางวิกฤติและปัญหามากมายที่รุมล้อมอยู่ นับเป็นอีกส่วนหนึ่งของ "การเตรียมตัวตาย" ตามที่ผมได้เคยกล่าวไว้ใน บันทึกก่อนหน้านี้
ผมมาถึงบ้านอ.ชัยรัตน์ หอบหิ้วอะไรติดมือมาด้วยนิดหน่อยเพื่อสมทบอาหารมื้อเที่ยงตอนเย็น พบว่าท่านคณบดี หรือ "น้องนิตย์" ของผมยังไม่เสร็จภารกิจที่คณะและยังติดฝนอยู่ที่นั่นก็ได้ออกไปรับเธอกลับบ้านและทานข้าวเย็นด้วยกัน
ทานข้าวเสร็จก็มีความสุขแบบเดิมๆซ้ำเข้ามาอีก 1 รายการ นั่นคือการหยิบโน่น จับนี่มาคุยมาแลกเปลี่ยนกับสหายชัยรัตน์ ทั้งเรื่องข้าวของเครื่องใช้และเรื่องการเรียนรู้ การเรียนการสอนตามที่เป็นมา และกำลังเป็นไปในบ้านเรา หยิบความจริงที่มองเห็นมาเสวนาแลกเปลี่ยนกันราวกับคนไม่เคยเจอกันมานาน เพลินไปจนตีสามครึ่งจึงเข้านอน ด้วยเกรงว่า "ตัววิทยากร" จะลืมตาตื่นไม่ทันไปหาความสุขที่บ้านนาสารเช้าวันนี้
และแล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น นั่นคือผมตื่นมาตอน 6.30 น. ด้วยความรู้สึกว่ามันนอนจนอิ่ม จนพอเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่นับดูแล้วได้นอนเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ก่อนอาบน้ำแต่งตัว ผมเห็นว่ายังพอมีเวลาจึงมานั่งเขียนบันทึกนี้ด้วยความสุข เป็นความสุขยามเช้าแบบง่ายๆ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆและยังคงชุ่มฉ่ำด้วยสายฝน
พูดมาถึงตอนนี้หลายท่านอาจสงสัยว่า แล้ว "ความสุขวันนี้" คืออะไร ตอบง่ายๆก็ได้ว่ามันคือ การที่ผมจะได้ไปพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และประสบการณ์กับบรรดาครูอาจารย์ที่รร.นาสาร ด้วยความเชื่อ ความหวังว่าจะมีผลให้ งานครู ที่ท่านเหล่านั้นกำลังรับผิดชอบกันอยู่ ได้ดำเนินต่อไปด้วยดี และมีเครื่องมือช่วยให้ประสบผลสำเร็จได้ง่าย และเพิ่มขึ้นอีกบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
ความผิดพลาด มักทำให้คนได้เรียนรู้เสมอ ขอบคุณค่ะ
จะพยายามศึกษาต่อไปในการทำบล็อกค่ะ แต่อาจใช้เวลาหน่อยค่ะ
สู้ค่ะ
น่าจะทำบล็อกและกระสอบทรายให้มาก มากนะค่ะ