....ละอองน้ำค้างยังคงโปรยปรายมาในยามเช้า....เสียงระฆังสีเหลืองใบเก่าใต้ต้นไทรใหญ่เริ่มกังวาลด้วยแรงกระทบจากเหง้าไม้ไผ่ที่พอหยิบจับได้กระชับมือ ทั่วอาณาบริเวณแห่งธรณีสงฆ์กลางป่าใหญ่ เงียบ สงัด เริ่มมีเปลวเทียนดวงน้อย สว่างขึ้น ทีละจุด.. หิ่งห้อยน้อย ยังคงทักทายกับเรไร และจิ้งหรีดที่แผดเสียงแข่งกันมิหยุดหย่อน.. เงาแสงจันทร์ในคืนข้างคืน ยังคงกระจ่างทั่วท้องน้ำในบึงน้อยใกล้วิหารไม้เก่าคร่ำ...
....ผ้าขาวผู้จะขอบวชเพื่อศึกษาในพระธรรมวินัย ทะยอยนำอาสนะวางเป็นแนวยาว เพื่อถวายพระคุณเจ้า.. กลิ่นควันผสมกับไอน้ำที่พวยพุ่งจากกาต้มน้ำเก่าๆ ที่สามเณรน้อยเร่งเอาถาดใบเก่าพัดพาลมให้น้ำเดือดแรงขึ้น.. กล่องเก็บชากลมๆ ที่สนิมเกราะวางอยู่มุมตู้หนังสือสวดมนตร์ของพระ รอจะทำหน้าที่ประจำวันในยามเช้ามืดของทุกวัน..
....กระป๋องบุผ้านวมที่ฉลุลายด้วยผ้าลูกไม้ ดูไม่ออกว่าแต่เดิมสีอะไร.. แต่มีคุณค่ากับท่านเจ้าคุณ พระภิกษุ สามเณร ที่กระวีกระวาดร่วมกันสร้างบารมีก่อนรุ่งเช้าของทุกวัน.. หลายชีวิต ทะยอยเดินเข้ามาในศาลาเรือนไม้ริมน้ำหลังเก่า พร้อมจะสร้างความดีในก่อนที่จะลากลับบ้านในช่วงสาย..
ในบรรยากาศเข้าพรรษา เป็นช่วงที่หลายๆ คนมีความสุขที่สุด แม้จะราตรีเดียวในช่วงสัปดาห์ ที่จะได้สวดมนตร์ทำวัตรกับพระคุณเจ้า ที่จะสร้างบารมีโดยการดูแลเสนาสนะ ปัดกวาด ล้าง ชำระ อาณาบริเวณวัดให้สะอาด ร่มรื่น จัดเก็บภาชนะ พัสดุกลางสงฆ์ให้เรียบร้อย โดยไม่มีทีท่าจะเหนื่อยล้าเกี่ยงงอนในงาน แต่ด้วยความสมัครใจในการที่จะสร้าง "บารมี"...
แม้ยุคสมัยของเราจะจนยาก ไม่มีสิ่งของอำนวยความสะดวกจากสิ่งยั่วยุกิเลส เรายังใช้เตาหลัว (เตาฟืน) กับจานสังกะสีกับแทบทุกเรือน... วัตถุ ไม่เคยอยู่เหนือจิตใจคนวัดอย่างพวกเราๆ ... ความสุขอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่สิ่งประกอบในเรือนร่าง หรือฐานะความเป็นอยู่... ความสุข เงิน คำ ไม่สามารถซื้อได้... แต้นา...
บันทึกเมื่อ..18 มกราคม 2542
ที่..วัดต้นตาลโตน เชียงใหม่
พระกิตติภูมิ หาสธัมโม
ไม่มีความเห็น