มาศึกษาหลักธรรมครับ
ผมยังภาวนาไม่ได้
สาธุ สาธุ ขอรับ
ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านครับ
การเจริญเมตตามีส่วนคล้ายกับกรรมฐานอื่นๆ คือ
ประเด็นสำคัญมากอยู่ที่ความเข้าใจ-ความใส่ใจครับ คือ ฟังมากๆ บ่อยๆ เนืองๆ แล้วเมื่อปัจจัยพร้อม... เมตตาจะมาเอง
ผมนี่ยิ่งเจริญยากมากๆ เนื่องจากมีจริตเป็นแบบผสม คือ โมหจริต (ฟุ้งซ่านง่าย) - โทสจริต (โกรธง่าย) ทว่า... ต้องพยายามครับ เพราะเห็นคุณค่าของกุศลธรรม
ผมนึกถึงครูบาอาจารย์มากมาย เพราะศึกษาแล้ว เมตตาแทบไม่มีเลย แห้งยิ่งกว่าทะเลทราย
ท่านพระอาจารย์สมบัติ นันทิโก แนะนำให้สวดมนต์แปล เช่น ขันธปริตร ฯลฯ - ผมเลยถือโอกาสสวดไปตอนปล่อยสัตว์ เช่น ปล่อยปลา ฯลฯ ซึ่งช่วงหนึ่งจะทำเกือบทุกวันนาน 1+ ปี
หลังจากนั้นพอไปอินเดีย... ขึ้นรถไฟหลงไปในโบกี้ชั้น 3 รู้สึกกลัว-ไม่ปลอดภัย พอสาธยายขันธปริตรแปล และนึกถึงความปรารถนาดีต่อสัตว์ที่เราปล่อย เช่น ปลา ฯลฯ
ตรงนั้นถึงได้รู้ว่า เมตตาเป็นอย่างไร (ทุกวันนี้ก็ยังขี้โมโห หงุดหงิดง่ายอยู่ ทว่า... พยายามๆๆๆๆๆ)
เป็นเหมือนกันคะ โทสะมันเกิดได้ทุกเมื่อเป็นธรรมดาของปุถุชน แต่ทำอย่างไรจะเท่าทันมันนี่สิเป็นเรื่องสำคัญ พระอาจารย์ที่นับถือท่านว่าเหยียบเบรคให้ทัน มันก็จะทำอะไรเราไม่ได้
ปัจจุบันทีมเรียนพระไตรปิฎกของพวกท่าน ไปเรียนกันที่ไหนแล้วคะเห็นว่าพระอาจารย์ท่านปลีกวิเวกไปแล้ว เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เรียนด้วย ต้องเรียนตามลำพัง