สำนักวิชาการและมาตฐานการศึกษา (สวก.) ร่วมกับโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น(สสท.) สมาคมครูภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นแห่งประเทศไทย (JTAT) สถาบันเอเชียตะวันออก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมูลนิธิญี่ปุ่น(JF) จัดอบรมภาษาญี่ปุ่นและการสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับครูสอนภาษาญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๒ มีนาคม ๒๕๕๔ ณ โรงแรมรอยัลปาร์ควิว กรุงเทพฯ
ลงทะเบียน 3 รอบ/ วัน เคร่งครัดตามเวลาที่กำหนด
หลังพิธีกล่าวต้อนรับ เริ่มกิจกรรมแรกของการสัมมนา ด้วยเรื่อง การสร้างบรรยากาศในการสอน โดย Ted Mayer อาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ศูนย์หัวหิน สรุปได้ว่า
บรรยากาศในห้องเรียนมีความสำคัญมาก ครูจะต้องสร้างบรรยากาศที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเรียนรู้ ด้วยความใส่ใจ อย่างน้อย ๔ ส่วน คือ
๑ สภาพจิตใจของครูผู้สอน พลัง ความพร้อม ความสดชื่น และ ทัศนคติที่ดี
ครูต้องมีความพร้อม โดยหมั่นดูแลตนเองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต จะมีความคิดที่แหลมคมและสร้างสรรค์ และมีความมั่นใจในตนเองสามารถใส่ใจนักเรียนได้ดียิ่งขึ้น
๒ ทัศนคติของครูต่อนักเรียนและความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนหรือระหว่างนักเรียนด้วยกัน
ครูควรมีความเชื่อมั่นในความสามารถของผู้เรียน จะส่งผลให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้เร็ว และสนุกต่อการเรียนรู้ ข้อผิดพลาดเป็นองค์ประกอบ สำคัญในกระบวนการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านั้น
๓ เรื่องทางกายภาพในห้องเรียน
ครูควรสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ การดูแลห้องให้สะอาด จัดห้องให้น่าเรียนรู้ สวยงาม มีสีสัน จะส่งผลให้ผู้เรียนรู้สึกผ่อนคลาย ตั้งใจเรียนรู้
๔ เทคนิคและหลักการทีใช้ในการสอน
มีเทคนิคหลายอย่าง ที่ช่วยให้การเรียนการสอนภาษาต่างประเทศประสบผลสำเร็จ เช่น
๔.๑ การให้คำสั่ง เป็นการสร้างบรรยากาศความเป็นต่างประเทศในห้องเรียน ช่วยให้นักเรียนได้ฟังภาษาอยู่บ่อยๆซ้ำๆ ผู้เรียนจะเข้าใจภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ
๔.๒ การโยนบอลหรือตุ๊กตา ทำให้การเรียนรู้เป็นเหมือนการละเล่น จะทำให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ เพราะมีสัญชาติญาณของการแข่งขันเสริมเข้าไป ในขณะเดียวกันจะรู้สึกไม่เกร็งและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กล้าที่จะพูด-คุย ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่ได้ผล
๔.๓ การจับคู่คุยกัน เป็นกิจกรรมของการทบทวนหรือฝึกสิ่งที่เคยเรียนมา อาจเป็นการตั้งคำถามและให้อีกฝ่ายตอบ
๔.๔ การใช้ภาพ ภาพเป็นสื่อการสอนที่จัดว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างมาก อาจเป็นภาพบุคคล ภาพกิจกรรม ที่เชื่อมโยงไปได้เกือบทุกเรื่อง การวาดภาพตามคำบอก เป็นต้น
๔.๕ การเปิดเพลง ช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลาย อาจจะเปิดก่อนการนำเข้าสู่บทเรียนก็ได้ บางบทเพลงมีสาระความรู้ที่ช่วยทบทวนความรู้เก่าเสริมความรู้ใหม่
๔.๖ การสัมภาษณ์เจ้าของภาษา
การเตรียมการก่อนที่จะดำเนินกิจกรรมนี้ นอกจากผู้เรียนจะต้องฝึกฝนประโยค-สำนวน ภาษานั้นๆ แล้ว ผู้เรียนจะต้องมีการวางแผนการดำเนินกิจกรรม และศึกษาข้อมูล ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ดี
๔.๗ การเล่นเกมส์ เกมต่างๆ ช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างสนุกสนาน และเป็นธรรมชาติ เช่น
* เกมวิ่งแตะ แบ่งผู้เรียนออกเป็น ๒ ทีม ต่างแถวห่างจากกระดานเล็กน้อย พอครูผู้คำศัพท์ หรือตัวเลข ผู้เรียนจะวิ่งไปแตะ หรือวงคำเหล่านั้ ฝ่ายที่แตะก่อน ก่อนจะได้คะแนน
* ลมเพลมพัด จัดเก้าอี้เป็นวงจำนวนเท่ากับผู้เรียน ครูจะยืนสั่งตรงกลาง แล้วพูดประโยคเกี่ยวกับผู้เรียน ใส่นาฬิกาสีดำ ผมหยิก ฯลฯ ตรงกับบุคคลใด บุคคลนั้นจะต้องวิ่งเปลี่ยนที่นั่ง ครูต้องแย่งที่นั่งด้วย คนที่ไม่มีที่นั่งจะเป็นคนพูดประโยคต่อไป อาจมีการปรับคำ/ประโยค ตามระดับความรู้ของผู้เรียน
* หาลายเซ็น แผ่นกระดาษคำถาม ผู้เรียนต้องไปถามเพื่อนตามคำถาม หากเพื่อนตอบว่า ใช่ ก็ให้เพื่อนเซ็นชื่อ ใครมีรายเซ็นครบ ทุกช่องเป็นคนแรก ชนะ
* ช่วยกันแต่งเรื่อง นั่งเป็นวงกลม คนแรกจะพูดประโยคของตน เพื่อนจะแต่งประโยคต่อจากเพื่อน ไปเรื่อยๆจนครบทุกคน อาจได้เรื่องสนุกๆ หลังจากนั้นทบทวนคำศัพท์ หรือคำพูดใหม่ๆ หากผิดครูอาจพูดซ้ำประโยคเดิมโดยแก้ไขให้ถูกต้อง นักเรียนจะได้เรียนรู้
* ๒๐ คำถาม ส่วนใหญ่เป็นคำถามเกี่ยวข้องกับอาชีพ เพศ สถานภาพทางสังคมและสัญชาติ โดยจะทำการฝึกทบทวนความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์หรือรูปแบบของประโยค คำถามต้องตอบว่า ใช่หรือไม่ใช่ ใครทายได้ถูกก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ
ดร.อุษณีย์ วัฒนสัมพันธ์ รองผู้อำนวยการ สวก. แสดงความคิดเห็นกับวิธีการนำเสนอของ Ted Mayer
หลักการที่สำคัญ
๑ ผู้เรียนต้องมีโอกาสที่จะเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ทั้ง ๔ ทักษะ
๒ การนำเสนอหรือจัดกิจกรรมต้องเป็นไปตามลำดับขั้นโดยมีความสมดุลระหว่างความรู้เก่าและความรู้ใหม่
กล่องรับบริจาค..... เพื่อช่วยเหลือชาวญี่ปุ่น ฯ
ไม่มีความเห็น