บทกลอนสอนใจหญิง


บทกลอนสอนใจหญิง

  

   หนังสือที่มีเนื้อหาสั่งสอนสตรีซึ่งรู้จักกันแพร่หลาย  ได้แก่ 

-สุภาษิตสอนหญิง ของสุนทรภู่ 

-กฤษณาสอนน้อง ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส 

หญิงไทยได้ยึดถือคำสอนในหนังสือทั้ง 2 เล่มเป็นแนวประพฤติปฏิบัติกันมาแต่โบราณ  เช่น

      เกิดเป็นหญิงก็ให้เห็นว่าเป็นหญิง  อย่าทอดทิ้งกิริยาอัชฌาสัย

เป็นหญิงครึ่งชายครึ่งอย่าพึงใจ   ใครเขาไม่สรรเสริญเมินอารมณ์

     มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท     อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์

จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง       อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน

                                                                     สุภาษิตสอนหญิง

          พฤษภกาสร                      อีกกุญชรอันปลดปลง

โททนต์เสน่งคง                           สำคัญหมายในกายมี

นรชาติวางวาย                            มลายสิ้นทั้งอินทรีย์

สถิตทั่วแต่ชั่วดี                            ประดับไว้ในโลกา

                                                                    กฤษณาสอนน้อง

        นอกจากนี้ยังมีคำสอนที่แทรกอยู่ในเรื่องขุนช้างขุนแผนอีกหลายตอน

        นางศรีประจันสอนนางพิมพิลาไลย

         เนื้อเย็นจะเป็นซึ่งแม่เรือน     ทำให้เหมือนแม่สอนมาแต่หลัง

เข้านอกออกในให้ระวัง                 ลุกนั่งนอบนบแก่สามี

อย่าหึงหวงจ้วงจาบประจานเจิ่น     อย่าก่อเกินก่อนผัวไม่พอที่

แม่เลี้ยงมาหวังว่าจะให้ดี               จงเป็นศรีสวัสดิ์สุขทุกเวลา

       นางเกสรสอนนางสร้อยทอง

       คำบุราณท่านว่ามาแต่ก่อน      สำหรับสอนสตรีที่มีผัว

ว่าวิสัยภรรยาประพฤติตัว               ดีชั่วเจ็ดอย่างต่างต่างกัน

อย่างที่หนึ่งทุจริตคิดร้ายผัว           อีกอย่างมัวโลภโมโทสัน

อีกอย่างหนึ่งการงานคร้านทั้งนั้น    ท่านว่าเมียอุบาทว์ชาติกาลี

อันหญิงดีที่เป็นภรรยา                    กำหนดไว้ในตำราว่าเป็นสี่

หนึ่งเลี้ยงดูภัสดาด้วยปรานี            หนึ่งร่วมทุกข์สุขมีเสมอกัน

หนึ่งนั้นเคารพนบนอบผัว               หนึ่งยอมตัวให้ใช้ไม่เดียดฉันท์

จึงอยู่เย็นเป็นสุขทุกข์คืนวัน           ด้วยผัวนั้นวางใจที่ในตัว

       นางอัปสรสอนนางสร้อยฟ้า

       อันเป็นเมียจะให้ชอบใจผัว     สิ่งสำคัญนั้นก็ตัวของผู้หญิง

ทำให้ผัวถูกใจไม่มีทิ้ง                   ยังอีกสิ่งก็อาหารตระการใจ

ถ้ารู้จักประกอบให้ชอบลิ้น             ถึงแก่สิ้นเพราพริ้งไม่ทิ้งได้

คงต้องง้อขอกินทุกวันไป              จงใส่ใจจัดหาสารพัน

เป็นต้นต้มตีนหมูให้ชูรส                ไข่ไก่สดปลาต้มยำทำขยัน

ตับเหล็กสันในแลไข่ดัน                 หั่นให้ชิ้นเล็กเล็กเหมือนเจ๊กทำ

พยายามเลี้ยงดูให้ชูใจ                  ถึงจะมีเมียใหม่ให้คมขำ

เสน่ห์ปลายจวักไม่รู้จักทำ              หลงใหลไม่กี่น้ำก็จำคลาย

       นางบุษบาสอนนางศรีมาลา

       จงอุตส่าห์เสงี่ยมค่อยเจียมตน   อย่าให้คนทั้งปวงล่วงข่มเหง

จงซื่อสัตย์ต่อผัวรู้กลัวเกรง              อย่าครื้นเครงด่าว่ากับข้าไท

ปรนนิบัติอย่าให้ขัดน้ำใจเขา            การเรือนการเหย้าเอาใจใส่

ข้าวของสารพันหมั่นเก็บไว้              ระวังระไวดูแลอย่าแชเชือน

      สมัยโบราณมีแม่ทำหน้าที่เทรนเนอร์ให้กับลูกสาวที่กำลังจะออกเรือน  ปัญหาครอบครัวและการหย่าร้างจึงไม่ค่อยมี    

     วันนี้...แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป  ใช่ว่าคำสอนเหล่านี้จะล้าสมัย  ยังคงใช้สอนใจสตรีได้เป็นอย่างดี    หากปฏิบัติตามคำสอนเหล่านี้คงไม่พลาดตำแหน่งบุคคลแห่งปี  สตรีดีเด่น แน่นอน    

หมายเลขบันทึก: 431529เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2011 12:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2012 07:28 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มีประโยชน์มากๆเลยครับ แม้ว่าสมัยจะเปลี่ยนไปแล้วก็ยังสามารถใช่ได้อยู่ครับ ผมว่านะไม่ใช่แค่สอนสตรีหรอกครับ มันสามารถประยุกใช้ได้ทั้งหญิงชายเลยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท