ตามทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ยุทธศาสตร์การสร้างความสมดุลและมั่นคงของอาหารและพลังงาน เชื่อมโยงกับการดำเนินงานของ ส.ป.ก. (พ.ศ. 2555-2559) ตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีแนวทางการพัฒนาโดยส่งเสริมและพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานในพื้นที่ให้เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข็มแข็งด้านอาหารและพลังงานให้กับชุมชนอย่างเป็นระบบ
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ดำเนินงานโครงการนิคมเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ (ส.ป.ก.เชียงใหม่) ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการดำเนินการในพื้นที่นิคมเศรษฐกิจพอเพียงนิคมดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในปีงบประมาณ 2553 (พ.ศ.2553-2554) ได้รับการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานเรื่องการขุดลอกอ่างเก็บน้ำหนองหลวงและซ่อมแซมคลองส่งน้ำดาดคอนกรีต ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้ การอบรมดูงานหลายหลักสูตร เช่น การแปรรูปลำไย การทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ และการผลิตลำไยนอกฤดู
จากการลงพื้นที่สำรวจความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าว พบว่าเกษตรกรมีความต้องการองค์ความรู้ที่หลากหลาย การดำเนินการเฉพาะปีงบประมาณ 2553 เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส.ป.ก. เชียงใหม่ จึงพิจารณาคัดเลือกพื้นที่เดิม คือ ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ เป็นพื้นที่พัฒนาต่อยอดนิคมเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวนอกจากการปลูกลำไยแล้ว มะม่วงยังเป็นพืชอีกชนิดที่เกษตรกรปลูกและมีแนวโน้มขยายพื้นที่การปลูก เนื่องจากมีความทนทานต่อความแล้งได้ดีและเป็นที่ต้องการของตลาด เกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกมะม่วงจึงมีแนวคิดเพิ่มมูลค่ามะม่วงด้วยการแปรรูป เป็นการถนอมอาหารและทำให้มีระยะเวลาการขายได้ยาวนานขึ้น
ในปัจจุบันกระแสการผลิตและการบริโภคอาหารปลอดภัยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เกษตรกรจึงมีแนวคิดผลิตอาหารโปรตีนจากไก่ และไข่ไก่เพื่อบริโภคในครัวเรือน เป็นอาหารปลอดภัย และประหยัดรายจ่ายในครัวเรือน ไข่ที่เหลือจากการบริโภคสามารถขายภายในชุมชนและชุมชนใกล้เคียง ในส่วนผลผลิตมะม่วงจากเดิมขายผลสดที่มีพ่อค้ารับซื้อในพื้นที่จะได้ราคาไม่แน่นอนขึ้นกับปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด กลุ่มผู้ปลูกมะม่วงจึงมีแนวความคิดในการที่จะเรียนรู้วิธีการแปรรูปมะม่วงให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและเป็นอาชีพที่ทำรายได้สู่ครอบครัวอีกทางหนึ่ง และอีกประเด็นคือการตัดแต่งกิ่งลำไยและมะม่วงจะมีเศษกิ่งไม้จำนวนมาก จึงควรนำมาผลิตน้ำส้มควันไม้เพื่อใช้ในการป้องกันแมลงศัตรูพืชในสวน ลดการใช้สารเคมี จึงเป็นการลดต้นทุนการผลิตและเป็นการริเริ่มที่จะกลับมาเป็นเกษตรปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้ถ่านไว้ใช้และจำหน่าย จะเห็นว่าเป็นการเริ่มที่จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพ ประโยชน์สูงเกิดการเกื้อกูลกันของวัสดุในท้องถิ่น และเป็นการพึ่งพาตนเองของชุมชน จึงเห็นควรสนับสนุนแนวความคิดและส่งเสริมการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการจัดอบรมดูงานหลักสูตรต่างๆ แก่เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าว
วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ก็เพื่อ
1. เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตมะม่วงโดยการแปรรูปเพื่อจำหน่าย
2. เพื่อผลิตอาหารโปรตีนปลอดภัยไว้บริโภคด้วยการเลี้ยงไก่สามสายเลือด
3. ลดต้นทุนการเกษตรโดยการผลิตและใช้น้ำส้มควันไม้
ผู้เสนอโครงการ นางสาวจุฑาทิพย์ เทพบุญ นักวิชาการปฏิรูปที่ดินชำนาญการ ส.ป.ก.เชียงใหม่
ดีมากครับ ที่ช่วยกันขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม พี่น้องเกษตรกรจะได้หายจน แต่ไม่รวยล้นฟ้า
ขอเพียงมีอยู่มีกิน มีปัจจัยพื้นฐาน(ปัััจจัย 4 )ในการดำรงชีวิตที่เพียงพอ ก็สุดยอดแล้วครับ เพราะที่ผ่านมา เกษตรกรไทยน่าสงสารมากกับความเป็นอยู่และหนี้สิน หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตร ใช้เศรษฐกิจแบบเอื้ออาทร มีการแลกเปลี่ยนที่ไม่เอาเปรียบกัน มาเป็น สังคมพาณิชย์อุตสาหกรรม มีการแข่งขันทางการตลาดอย่างเสรีเอาเป็นเอาตายที่ใช้เศรษฐกิจเงินตรา และที่ดินส่วนที่เป็นปัจจัยการผลิตก็ตกอยู่กับผู้ที่มีอันจะกิน และยังคงทิ้งเกษตรกรให้ล้าหลัง และเป็นเบี้ยล่้างตลอดมา
ดีมากครับ ที่ช่วยกันขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม พี่น้องเกษตรกรจะได้หายจน แต่ไม่รวยล้นฟ้า
ขอเพียงมีอยู่มีกิน มีปัจจัยพื้นฐาน(ปัััจจัย 4 )ในการดำรงชีวิตที่เพียงพอ ก็สุดยอดแล้วครับ เพราะที่ผ่านมา เกษตรกรไทยน่าสงสารมากกับความเป็นอยู่และหนี้สิน หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตร ใช้เศรษฐกิจแบบเอื้ออาทร มีการแลกเปลี่ยนที่ไม่เอาเปรียบกัน มาเป็น สังคมพาณิชย์อุตสาหกรรม มีการแข่งขันทางการตลาดอย่างเสรีเอาเป็นเอาตายที่ใช้เศรษฐกิจเงินตรา และที่ดินส่วนที่เป็นปัจจัยการผลิตก็ตกอยู่กับผู้ที่มีอันจะกิน และยังคงทิ้งเกษตรกรให้ล้าหลัง และเป็นเบี้ยล่้างตลอดมา
ขอบคุณ..คุณกัลกี เภรีโฆษ มากครับที่ร่วมแสดงความเห็น