คำถาม
มีบุคคลที่ไม่ระบุชื่อ [IP: 110.49.16.138] ได้เข้ามาใน http://gotoknow.org/ask/archanwell/13738 เพื่อถาม อ.แหววเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔ เวลา ๑๙.๕๔ น. ดังต่อไปนี้ “สวัสดีคะ หนูขอปรึกษาเรื่องกฎหมายสัญชาติหน่อนนะค่ะ คือว่าพ่อแม่หนูเป็นคนต่างด้าว แต่หนูเกิดในเมืองไทยนะคะ มีสูติบัตรเรียบร้อย แต่หนูไม่ได้สัญชาติหรอกคะ หนูเกิดมีนาคม 2535 เมื่อไปที่อำเภอเค้าบอกหนูว่าหนูไม่อยู่ในกฎหมายมาตรา7 คือต้องเกิดก่อน25กุมภา 2535 หนูเกิดช้าเดือนเดียวเอง แล้วตอนนี้ก็ได้ถือบัตรสีชมพูเฉยๆน่ะค่ะ ช่วยบอกหนูหน่อยได้ไหมค่ะว่าพอจะมีทางแก้ไหม”
คำตอบ
อ.แหววขอมีคำตอบดังต่อไปนี้นะคะ
ในประการแรก เมื่อคุณเกิดเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๓๕ จากบิดาและมารดาซึ่งเป็นคนต่างด้าว คุณก็อาจจะมีสัญชาติไทยโดยผลอัตโนมัติของกฎหมาย หากบิดาและมารดาของคุณมีสิทธิอาศัยถาวรตามกฎหมายคนเข้าเมือง กล่าวคือ ถือใบถิ่นที่อยู่ตามกฎหมายคนเข้าเมืองและใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายการทะเบียนคนต่างด้าว จึงต้องถามว่า บิดาและมารดาของคุณถือเอกสารอะไรคะ ?
ในประการที่สอง บิดาและมารดาของคุณเกิดที่ไหนคะ ? หากบิดาหรือมารดาของคุณเกิดในประเทศไทย บิดาหรือมารดาผู้เกิดในไทยก็มีสิทธิในสัญชาติไทยตามมาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑ และคุณก็ตกเป็นผู้ทรงสิทธิในมาตรานี้เช่นกัน แม้ว่าจะเกิดหลังวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕
ในประการที่สาม แม้บิดาและมารดาจะไม่มีสิทธิอาศัยถาวรหรือไม่ได้เกิดในประเทศไทย คุณก็อาจร้องขอสัญชาติไทยตามมาตรา ๗ ทวิ วรรค ๒ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกแก้ไขและเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑ และสิทธิในสถานะคนสัญชาติไทยจะเกิดขึ้นภายใต้ ๒ เงื่อนไข กล่าวคือ (๑) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ในการให้สัญชาติแก่คนในสถานการณ์ดังเช่นคุณ และ (๒) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้สัญชาติไทยแก่คุณ ในสถานการณ์นี้ ข้อเท็จจริงที่คุณต้องจะทราบ ก็คือ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ในการให้สัญชาติแก่คนในสถานการณ์ดังเช่นคุณหรือไม่ ? ลองดูบนบัตรบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยหรือ “บัตรสีชมพู” ของคุณซิคะว่า คำที่ปรากฏใต้คำว่า “บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย” คือ คำว่าอะไร ?
และคำถามสุดท้าย ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ไหน คุณก็ต้องยื่นคำขอต่ออำเภอ อาจเป็นคำขอเพิ่มชื่อใน ท.ร.๑๔ หรือคำขอมีสัญชาติไทย แล้วคุณยื่นคำขอแล้วหรือยัง ??
สวัสดีค่ะ
มาเรียนรู้ด้วยนะคะ
เป็นบันทึกที่น่าสนใจค่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้นะคะ
ยินดีค่ะ คุณต้นเฟิร์น