บดินทรเดชา 2 กับสังคมไทยที่เปลี่ยนไป


หรือสังคมไทยจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโรงเรียนนี้ และไม่ได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับการประท้วงที่เกิดขึ้น แต่การประท้วงในครั้งนี้ได้สื่ออะไรหลายๆอย่างออกมา

ผมเชื่อนะครับว่าเหตุผลที่มีการกล่าวอ้างในการประท้วงเป็นเรื่องจริง แต่ที่ผมมองอีกมุมก็คือ ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย ไม่มีวิธีการอื่นแล้วเหรอ ทำไมสังคมไทยในปัจจุบัน เอะอะอะไรก็ประท้วง ก่อม็อบกัน ไล่กันเหมือนหมูเหมือนหมา

ผมเจอคอมเม้นท์หนึ่งในเวบบอร์ดแห่งหนึ่งว่า

"เด็กบดินทร2 มาแถลงค่ะ^^
จริงๆพวกอาจารย์เขาอยากจะทำตั้งนานแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าเกรงใจผอ.ประจวบ ที่เป็นหัวหน้าผู้บริหารเครือบดินทร แต่ตอนนี้แม้แต่ผอ.ประจวบก็ไฟเขียวให้จัดการได้ค่ะ
เลยจัดการส่งเรื่องไปที่กระทรวง...ก่อนหน้านี้ที่ส่งไปกระทรวงไม่ผ่านหมดเลยค่ะ เพราะว่าโดนผอ.สกัดไว้หมดเลย เจ้าหน้าที่หน้ากระทรวงยังบอกเลยว่า "กมลนี่...ใช่คนที่เอาขนมหม้อแกงมาให้บ่อยๆใช่มั้ย?" พวกเรานี่อึ้งกันทั้งแถบเลยค่ะ"

ผมเข้าใจนะครับว่าพวกเขาเหลืออดแล้ว ไม่รู้จะใช้วิธีการไหนแล้ว แต่ทำไมล่ะ ระบบความยุติธรรมของไทยหายไปไหน ทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นใช่มั้ย หรือสิ่งที่นักเรียนบดินทรเดชา 2 ทำเป็นสิ่งที่พวกเขาได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งที่ผู้ใหญ่ข้างนอกกำลังทำอยู่???

แล้วครูกับนักเรียนที่นั่นเขาไม่ห่วงการเรียนการสอนหรือ? สำหรับผม ผู้ที่ผมรู้สึกสงสารและเห็นใจที่สุดคือผู้ก่อตั้งโรงเรียนนะ ที่เขาได้สร้างโรงเรียนที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของประเทศไทยขึ้นมา แต่กลับต้องมาพังลงเพราะแบบนี้

หรือสังคมไทยจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

หมายเลขบันทึก: 429190เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2011 14:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 00:24 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ผมเป็นนักเรียนบดินทร ๒ คนนึงครับ ผมรู้สึกอึดอัดนะครับที่เห็นบอร์ดนี้ แต่ผมเองก็ต้องยอมรับความจริง จริงๆแล้วทางโรงเรียนได้ทำทุกกระบวนการที่ไม่ใช่การก่อม๊อบ ที่จริงเรียกว่าการก่อม๊อบมันก็ดูเกินไปไหมครับอาจารย์ ทางโรงเรียนได้ส่งหนังสือราชการชี้ถึงความไม่โปรงใสของผอ.กมล บุญประเสริฐ ไปแล้วหลายรอบมากครับ แต่เรื่องก็เงียบไปโดยไม่มีคำตอบอะไรกลับมา คนที่ส่งหนังสือร้องเรียนไม่ใช่ใครอื่นใดครับ คือคนที่ก่อตั้งโรงเรียนบดินทร ๒ ของพวกเราเองแหละครับ ในการประชุมกรรมการสถานศึกษาอาจารย์กันต์ดนัย ไม่รู้หรอกครับว่า ผอ.ตอบคำถามอะไรออกมาบ้างในแต่ละคำถาม ผอ.จะพยายามบ่ายเบี่ยงตลอด พอผมได้ลองคุยกับนักเรียนราชวินิต บางแก้ว เค้าก็บอกว่าเคยยื่นหนังสือเข้ากระทรวงเหมือนกัน (หลายรอบ) แล้วเป็นยังไงละครับ เรื่องก็หายเหมือนกัน นักเรียนราชวินิตบอกว่า ครูที่นู้น ไม่สนับสนุนเค้าเลยเพราะกลัวที่จะโดนย้าย กลัวนู้นกลัวนี่ แต่ถามว่าอาจาย์ที่นั่นมีไม่ชอบบ้างไหม มีครับ อาจารย์ลองไปถามเด๊กราชวินิตบางแก้ว ทุกคนเลยครับว่า ผอ เค้าเป็นยังไง ผอ เค้าเส้นใหญ่ครับ ไม่งั้นจะอยู่ราชวินิตได้ถึง 7 ปี หรอคับ ผมเองก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะข้อมูลที่ผมรู้ก็ไม่รู้ว่ามันจะถูกต้องร้อยเปอร์เซน ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วจะมีวิธีไหนอีกหรอครับ ส่งหนังสือไปแล้วเรื่องก็เงียบ ถ้าเป็นอาจารย์กันต์ดนัย อาจารย์ช่วยแนะนำได้ไหมครับ ผอ ที่บดินทร ๒ มีผอ ที่เอาใจใส่นักเรียนมาโดยตลอดครับ อย่างน้อยก็น่าจะมีโอกาสมาพูดคุยกับพวกเราบ้าง แต่นี่อะไรครับ ไม่มีเลย พวกผมรับไม่ได้ครับ มันมีหลายเรื่องราวมากครับที่ทำให้พวกเรารวมถึงอาจารย์ไม่พอใจเป็นอย่างมากครับ อาจารย์ไม่ได้อยู่ที่บดินทร ๒ อาจารย์คงจะไม่มีความรู้สึกแบบพวกผมหรอกครับ การกระทำเพื่อเรียกร้องในครั้งนี้ผมเชื่อว่ามีผลกระทบต่อชื่อเสียงโรงเรียนแน่นอนครับ แต่การที่จะได้มาเพื่อการเปลี่ยนแปลง ที่จะทำให้โรงเรียนของผมพัฒนาขึ้น บดินทร ๒ มีอายุ 20 ปีเองครับ ขนาดโรงเรียนไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่ผมก็รู้สึกภูมิใจในบดินทร ๒ มากครับ และที่สำคัญที่สุด คือการเห็น ครุ นักเรียน พร้อมใจกันทำสิ่งในสิ่งหนึ่งเพื่อโรงเรียนของเราครับ โดยไม่รุ้ว่าที่ทำไปอาจจะโดนย้าย หรือป่าว ผมมาเขียนในบอร์ดนี้ก็มีเจตนาที่อยากจะบอกให้คนที่มาอ่านในบอร์ดของอาจารย์ แล้วเกิดความรู้สึกผาดพิงไปถึง บดินทร ๒ ในทางลบ ว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร ขอบคุณมากครับ

ผมเข้าใจและเห็นในความรักที่มีต่อโรงเรียนของนักเรียนนะครับ และก็เข้าใจในเหตุผลที่มีการทำลงไปด้วยครับ

ทึ่เขียน blog นี้ขึ้นมาไม่ได้เพราะมองบดินทร์ 2 ในทางลบนะ แต่เห็นใจและสงสาร กลัวคนอื่นจะกลัวบดินทร์ 2 และไม่กล้ามาเรียนมากกว่าครับ

หากสิ่งที่ผมเขียนมีถ้อยคำอะไรที่อ่านแล้วทำให้บดินทร์ 2 เสียหาย ผมต้องขอโทษด้วยครับ ^^

ผมเข้าใจและเห็นในความรักที่มีต่อโรงเรียนของนักเรียนนะครับ และก็เข้าใจในเหตุผลที่มีการทำลงไปด้วยครับ

ทึ่เขียน blog นี้ขึ้นมาไม่ได้เพราะมองบดินทร์ 2 ในทางลบนะ แต่เห็นใจและสงสาร กลัวคนอื่นจะกลัวบดินทร์ 2 และไม่กล้ามาเรียนมากกว่าครับ

หากสิ่งที่ผมเขียนมีถ้อยคำอะไรที่อ่านแล้วทำให้บดินทร์ 2 เสียหาย ผมต้องขอโทษด้วยครับ ^^

ผมขอเสริมนะครับเพิ่งมาอ่านเจอ ผมขอบเสนอความคิดเห็นของผมละกันนะครับ

อาจารย์ : แล้วครูกับนักเรียนที่นั่นเขาไม่ห่วงการเรียนการสอนหรือ?

นนท์ : ห่วงครับห่วงมาก ที่นี่ก็จัดการเรียนการสอนแบบปกติครับ ครูที่บดินทร ๒ ก็เป็นห่วงเรื่องการเรียนการสอน เป็นห่วงนักเรียนไม่ต่างอะไรกับอาจารย์อีกหลายๆโรงเรียนหรอกครับ รวมถึงสตรีวิทยา ๒ ด้วยครับ ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นช่วงปิดเทอมครับ ซึ่งไม่น่ามีผลกระทบต่อการเรียนแต่อย่างใด มีพวกผม ม.6 และพี่ศิษย์เก่าเป็นคนกระจายข่าวกันเองครับ อาจารย์รู้ไหมว่า ครูที่ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ เป็นครูตั้งแต่บดินทร ๒ ถูกก่อตั้งขึ้นมา ตั้งแต่ รุ่น 1 ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงจรัง อาจารย์พวกท่านเหล่านี้ คงไม่ออกมากันหรอกครับ ผมรู้สึกภูมิใจในครูของผมครับ ที่กล้าที่จะทำเพื่อโรงเรียนและนักเรียน บดินทร ๒

อาจารย์ : สำหรับผม ผู้ที่ผมรู้สึกสงสารและเห็นใจที่สุดคือผู้ก่อตั้งโรงเรียนนะ ที่เขาได้สร้างโรงเรียนที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของประเทศไทยขึ้นมา แต่กลับต้องมาพังลงเพราะแบบนี้

นนท์ : ขอบคุณอาจารย์มากครับที่เป็นห่วงโรงเรียนพวกผม แต่คำพูดที่อาจาย์พูดว่า " แต่กลับต้องมาพังลงเพราะแบบนี้ " มันดูรุนแรงไปหน่อยไหมครับ อย่างน้อยประโยคนี้ อาจาย์ก็ควรรู้สึก เห็นใจ "ผู้ก่อตั้งโรงเรียน" ด้วยนะครับ ถ้าอาจารย์พูดแบบนี้ท่านจะรู้สึกยังไง ผมเองก็รู้สึกไม่ดีมากๆเลยครับ ถ้ามีคนมาพูดแบบนี้กับโรงเรียนอาจาย์บ้าง อาจารย์จะรู้สึกยังไงครับ บดินทร ๒ ไม่ได้พังลงครับ แต่มันเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งที่บดินทร ๒ กำลังหาทางแก้ไขกันอยู่ แต่ผมกลับมีความเชื่อว่า บดินทร ๒ ยังจะสามารถพัฒนาไปได้อีกไกลครับ ที่นี่แค่ 20 ปีเองครับ แต่คุณภาพไม่ได้ต่างอะไรไปมากกว่า โรงเรียนอีกหลายๆโรงเรียนที่ก่อตั้งมาก่อน

ผมก็ต้องขอโทษอาจารย์ด้วยนะครับ บางคำอาจจะเป็นคำพูดที่ไม่สมควร และผมรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของอาจารย์ครับ

มันคงอยู่ที่การตีความคำว่า "พัง" นะ

ที่ผมเลือกใช้คำนี้เป็นเพราะเห็นว่าเรื่องมันใหญ่มาก และก็อย่างที่คุณบอกว่าอาจารย์ตั้งแต่รุ่นก่อตั้งโรงเรียนต้องออกมาเคลื่อนไหวด้วย มันต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่และรุนแรง ผมจึงเลือกคำว่า "พัง" มาใช้ แต่คำว่า "พัง" ของผมมันไม่ได้แปลว่า จบแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

ถ้าไม่พอใจผมยินดีจะลบ blog นี้ออกไปได้

อีกอย่างคือรู้สึกว่า การพูดคำว่า "และผมรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของอาจารย์ครับ"

มันทำให้ความรู้สึกดีดีต่อคุณที่เป็นนักเรียนที่รักโรงเรียนคนนึงหมดไป หากตัดประโยคนี้ออกไปผมจะรู้สึกดีมากเลย มันไม่ใช่คำพูดที่ควรจะพูดหากเราต้องการใช้ "เหตุผล" ไม่ใช่ "อารมณ์"

ครับ ถ้าบางประโยคผมพูดอะไรที่ไม่สมควร ผมก็ขอโทษอาจารย์ด้วยละกันนะครับ ขอบคุณมากครับ

พูดคุยชี้แนะความเห็นได้ ไม่ผิด และผมจะรู้สึกดีด้วยที่มีการพูดคุยกันแบบนั้น และผมเองก็ยินดีที่จะชี้แจงในสิ่งที่คุณสงสัยอย่างไม่รู้สึกติดใจอะไรทั้งนั้น เพียงแต่อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเท่านั้นเอง

เหมือนเดิมครับ หากต้องการให้ลบก็บอกกันตรงๆได้เลย ผมยินดี เพื่อความสบายใจของคุณ

ครับ ยังไงก็ต้องขอโทษอาจารย์อีกครั้งละกันนะครับ แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ ถ้าความคิดเห็นของผม ตัวผมก็อยากให้ลบนะ แต่บอร์ดนี้ก็เป็นความคิดเห็นของอาจาย์ ผมเคารพในความคิดเห็นของอาจารย์ครับ

ตอนนี้ผมว่างมากๆ รอผลแอดมิดชั่น ไม่รุ้จะทำอะไรดี ยังไงก็ขอบคุณอาจารย์มากๆและก็ขอโทษ ด้วยนะครับ ^^

ผมกลับมองว่าการประท้วงโดยสันติเป็นวิธีการทางประชาธิปไตยที่สมควรแล้วครับ

ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมมันไม่มี มันใช้ไม่ได้ การประท้วงก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน

อีกอย่างวันที่ประท้วงนี่เป็นวันหยุดเรียนอยู่แล้วนะครับ เรื่องเสียการเรียนนี่ไม่มีแน่นอน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท