ช่วงเดือนสองเดือนมานี่ เดินทางเข้า กทม. มาได้ราวสัปดาห์ละสามวัน หลายคนคงคิดถึงครอบครัวจนไม่อยากมาอีกแล้ว ... ผมเองก็ไม่ต่างกันครับ เลือกได้ ก็อยู่บ้านไม่ดีกว่าเหรอ
การพัฒนาหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ของสสวท. นั้นจะเริ่มจากการพิจารณากรอบหลักสูตรและตัวชี้วัดที่เป็นมาตรฐานของชาติ แล้วนำมาร่างเป็นบทเรียนตามสาระการเรียนรู้ต่างๆ โดยนักวิชาการของสสวท. จากนั้นก็จะได้ฉบับร่าง เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาจากนักวิชาการภายนอกสถาบัน (สสวท.) ประมาณสามรอบ ก็จะนำเข้าสู่การทดลองใช้ในโรงเรียน เพื่อหาข้อปรับปรุงพัฒนา จนกระทั่งเป็นที่"เชื่อมั่น"ก็จะสามารถนำออกใช้กับสถานศึกษาโดยทั่วไปได้ ยกตัวอย่างเช่นฉบับที่กำลังพิจารณาอยู่นี้ก็เป็นฉบับที่จะนำไปใช้งานจริงในปี ๒๕๕๗
หลายท่านอาจจะเห็นหนังสือเรียนของสสวท.ฉบับใหม่แล้ว อาจจะรู้สึก...โห ไม่ค่อยมีเนื้อหา... ไม่ค่อยมีโจทย์เลย แล้วลูกๆของดั๊นที่จะสอบได้ที่หนึ่งของโลกจะอ่านอะไรเค๊อะ ก็ คงต้องรู้สึกอย่างนั้นครับ เพราะหนังสือฉบับใหม่นั้นเน้นไปที่กระบวนการสืบเสาะของผู้เรียน หนังสือจึงจะมีที่ว่างค่อนข้างมากเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเขียนแนวความคิดของเขาได้ด้วยตัวของเขาเอง... รวมถึงกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทำไม่ยาก ใช้อุปกรณ์พื้นๆ แต่เมื่อผนวกกับชุดข้อถามแล้วจะช่วยให้นักเรียน ค่อยๆ พัฒนา ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ ขึ้นมาได้ ดังนั้น การพุ่งเป้าไปที่"ความรู้"เท่านั้น มันอาจจะทำให้ "ไม่รู้"อะไรที่ "ควรรู้" เลยก็ได้
แน่นอนว่า ไม่มีอะไรในโลกที่สมบูรณ์และดีพร้อมที่สุดในทุกเวลากับทุกสถานที่และกับทุกคน ดังนั้น การใช้ก็ขึ้นกับ"บริบท"ด้วย... โดยทีมผู้พัฒนาก็พยายามให้มัน "กลาง" ที่สุดเท่าที่จะกลางได้
ต้องขอบคุณทีมนักวิชาการของสสวท. ที่เพียรทำฉบับร่าง มาได้พิจารณากัน และงานของกลุ่มวิทยาศาสตร์ประถมนี้ หนักหนาสาหัสมาก .. ก็ขอเอาใจช่วยให้หนุ่มๆ สาวๆ นักวิชาการรุ่นใหม่ได้มีพลังใจในการทำงานต่อไปนะครับ
และแบบเรียนก็คลอดแล้วครับ ผมเพิ่งไปซื้อมา
สวัสดี อ.แฟรงค์
มาเยี่ยมชมให้กำลังใจอาจารย์เพื่อนนะคะ