ณ บ้านพี่สาว ที่นาคู กาฬสินธุ์
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือน กุมภาพันธุ์ พ.ศ. ๒๕๕๔
กราบสวัสดีค่ะครู
วันนี้เป็นอีกวันที่ตั้งใจกับตนเองว่า "วันนี้จะทำอะไรบ้าง" ไปถึงที่ทำงาน มีประชุม
video conferance ลงไปหลังจาก จัดการส่งเรื่องเล่าจาก ศวก.ที่ ๖ เสร็จ เป็นบรรยากาศที่สบาย ๆ แต่ก็เป็นเรื่องหนักอยู่ คือ เรื่องงานยาเสพติด มีการปรับปรุงฐานข้อมูลในหลาย ๆ เรื่อง ไป ๆ มาก ๆ ป้ายชื่อของหน่วยงานไม่ชัดพี่เขาจึงวานให้เเจ้งนักวิชาการแก้ไขแต่เขาบอก
"ทำเองได้ไหม" ใจขุ่นวูบขึ้นมา
แต่ก็ทำ พิมพ์แล้วก็มา ตัดกระดาษ วัดขนาดในห้อง พี่ที่สั่งถามเชิงประหลาดใจว่า "ทำเองเหรอ" ติ๋วตอบพี่เข้าด้วยใจที่สะเทือนว่า "พี่เขาบอกไม่ว่างค่ะ" แว๊บมองย้อนที่ปรากฏความขุ่นมัว เพราะรู้สึกว่า "ทำไมฉันต้องทำ นี่ไม่ใช่งานฉัน" จัดแจงใส่บล๊อกแล้วก็นำมาวาง มานึกย้อนกับตนเอง โอ้ ความยึดมั่นถือมั่นใจตัวตนชัดมากค่ะครูศีลข้อ ๑ และข้อ ๔ ด่างพร้อย เปลี่ยนคำพูดของพี่เขา ทำให้ความหมายเปลี่ยน และเจือความขุ่นลงไปในประโยคสื่อสาร ความเป็นตัวตนปรากฏชัด แล้วก็เงียบไป จิตเข้าสู่การประชุม หลายอย่างทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า "คนเรามักจะคิดว่า สิ่งที่ตนเองทำ หรือเรียนมา เป็นสิ่งที่ดีที่สุด" คนที่ไปฟรีเซ้นงานต่างประเทศก็อยากจะให้คนอื่น ๆ ลองไปดู เพราะคิดว่า "นี่คือสิ่งที่ดี" แต่ลองมองอีกมุม กับการเดินทางไปต่างประเทศสองสามวันของคนสามคน สูญเงินไป เจ็ดแสน ต่อปี จิตติ๋วเผลอไปตีค่าอีกแล้วค่ะครู มันเร็วมาก เป็นความรู้สึกเสียดายเงินปรากฏขึ้นมา เพราะบางครั้งไปจัดประชุมในพื้นที่ขอเงิน สามพันสอนคนสามสิบคน ยังไม่ยอมให้ บอกว่า "ไม่ตอบตัวชี้วัด" ความรู้สึกน้อยใจปรากฏขึ้นกับความคิดปรุง ย้อนกลับมาที่ลมหายใจ แล้วก็ตั้งใจประชุม เที่ยง ๆ แวะไปทานข้าวที่ร้านตะวันทอง ตั้งใจกับตนเองเรื่อง "พยายามเจริญสติ" คำเตือนของครูหลายครั้งที่ให้ย้อนทวนสอบ "การเจริญสติ" แต่ด้วยความโง่ในตเอง แทนที่จะปรับปรุงแก้ไข กลับเผลอไปคร่ำครวญเสีย น่าตีมาก ๆ ใช่ไหมค่ะครู ถ้าอยู่ใกล้ครู จะขอให้ครูเขกหัวสักที แทนที่จะแก้ไขกลับไปคร่ำครวญเสียนี่ บ่าย ๆ ขับรถกลับบ้านค่ะ พอมาถึงบ้านปรากฏว่า "เปลี่ยนแผน" จะไปหนองวัวซอพรุ่งนี้ แล้วค่อยไปกราบหลวงตาวันอาทิตย์ คืนนี้จึงตั้งใจขึ้นไปสวดมนต์ภาวนาที่วัดหลวงปู่ค่ะครูเพราะเป็นวันพระ กราบขอบพระคุณครูที่เตือนสติ ชี้ข้อบกพร่องให้ศิษย์ตลอดมา รักและเคารพครู...................เจ้าติ๋วค่ะ
ไม่มีความเห็น