'Dispatch: Thailand and Cambodia fighting 'a real way'?
สำนักวิจัย 'Stratfor' เผยแพร่วิดีโอเรื่อง 'Dispatch: Thailand and Cambodia fighting 'a real war'? = "รายงาน(อย่างเป็นทางการ): ไทยกับกัมพูชาจะรบกันจริงไหม", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า โอกาสที่จะขยายการรบเป็นสงครามในวงกว้างน่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะกองทัพไทยมีศักยภาพเหนือกว่ากัมพูชามาก
ทว่า... สมเด็จฮุน เซน หวังผลหาเสียงผ่านแนวคิดชาตินิยม ซึ่งทำได้ง่ายในประเทศที่คนส่วนใหญ่ (80%) มีเชื้อชาติขแมร์ (เขมร) [ wikipedia ]
มีความเป็นไปได้ว่า สมเด็จฮุน เซนมองไทยว่า "การเมืองไม่นิ่ง" และยิ่งซ้ำเติมไทยในช่วงนี้จะทำให้รัฐบาลยุ่งยากใจมากขึ้น
ทีนี้ใครจะได้-จะเสียจากความขัดแย้งนี้, สมเด็จฮุน เซน และพรรค CPP คงจะได้คะแนนเสียงจากชาวกัมพูชาจากสูตรการเมืองที่ว่า "ถ้าทะเลาะกับเพื่อนบ้าน จะทำให้คนในชาติสามัคคีกัน(ชั่วคราว)"
ผู้เชี่ยวชาญหลายสำนัก โดยเฉพาะสิงคโปร์ มองว่า รัฐบาลไทยเป็นฝ่ายเสียหายทางการฑูต เนื่องจากกัมพูชาเก่งทางด้าน "หาเสียง" [ ผู้จัดการออนไลน์ ]
ผู้เขียนมองว่า จริงที่ไทยจะเสียหายด้านการค้า-ลงทุน, เวียดนาม-สิงคโปร์ (จุดอ่อนของสิงคโปร์ คือ ไม่จริงใจ-ไม่ช่วยเหลือชาติอื่นในอาเซียน-ชอบซ้ำเติมเพื่อนบ้าน)-มาเลเซีย จะได้ประโยชน์ทางการค้า-การลงทุน
แต่งานนี้ทำให้กลุ่มการเมืองชาตินิยมหัวรุนแรงในไทย ซึ่งมีจุดยืนคล้ายกลุ่มนาซีใหม่ในยุโรป-รัสเซีย ถดถอย เสื่อมความนิยม (ตรงนี้จะเป็นผลดีต่อไทยในระยะยาว) เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบความรุนแรงแบบนี้
การที่รัฐบาลไทยไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงในไทย จะทำให้ภาพพจน์รัฐบาลดีขึ้น
การที่กองทัพไทยมีความอดทน-อดกลั้น มีส่วนทำให้ภาพพจน์ไทยดีขึ้นในสายตาชาวโลก เพราะคนเราโกหกครั้งเดียว หรือนานๆ ครั้งนั้น "จับได้ยาก"
แต่การโกหกบ่อยๆ ว่า ไทยรุกรานกัมพูชานั้น, คนทั่วโลกส่วนใหญ่ที่มีวิจารณญาณ หรือการประมวลผลแบบรวบรวมข้อมูลหลายด้าน นำไปวิเคราะห์ พิจารณาอย่างรอบคอบ คงจะไม่เชื่อ
กัมพูชาเอง, แม้ดูภายนอกจะก้าวไปเร็ว แต่ก็ยังไม่ไกลเท่าไหร่... นักปราชญ์เต๋าสอนไว้ว่า "คนที่ก้าวขาห่างมากๆ มักจะไม่มั่นคง"
การรุกรานเพื่อนบ้าน และทุ่มเทงบประมาณไปกับการทหารมากเกินไปของประเทศที่คนส่วนใหญ่ยังยากจนอยู่ นับได้ว่า เป็นหนทางที่ไม่มั่นคงนักในระยะยาวเช่นกัน
.
อ่านข่าวและดูภาพแล้ว ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย
เมื่อคืนดูข่าวจากทางด้านอรัญประเทศ ประชาชนทั้งสองชาติยังพูดคุยค้าขายไปมาหาสู่กันตามปกติ น่ารักมาก
แล้วคนที่กุมอำนาจในมือมัวทำอะไรอยู่???
เราควรมีท่ามีอย่างไร
หรือปล่อยไปดี
เห็นว่าอย่างไรกันครับ
ปัญหานี้เกิดจากอาณานิคมฝรั่งเศส... เราควรให้คนกลาง ซึ่งที่ดี คือ ประธานอาเซียนจัดหาคนกลางมาช่วยจัดเวทีให้คุย // ฝรั่งเศสเองก็มีปัญหาอาณาเขตกับเบลเยียม และใช้เวทีคุยกัน ทำให้มีการเสนอหอระฆังเป็นมรดกโลกร่วมกันหลายแห่ง // ประเทศที่มีเพื่อนมากจะได้เปรียบในสังคมโลกสมัยใหม่ ไม่ใช่ชวนทะเลาะไปเรื่อยแบบกลุ่มสาวกฮิตเลอร์ทำอยู่ครับ...
กรณีรัสเซียกับจีนก็น่าสนใจมาก คือ รัสเซียที่มีอาณาเขตมากยอมตัดพื้นที่ให้จีนไป และได้สัญญาการค้า-สัญญาไม่รุกรานกันเป็นของขวัญ-ของขอบคุณจากจีน // รัสเซียเป็นชาติที่ฉลาดทางการต่อรองมากๆ ครับ... // เราคงจะหวังได้ว่า งานที่ผ่านมาจะทำให้สมเด็จฮุน เซน "เสี่ยงมากที่จะถูกโค่นในระยะยาว"...