นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ เทคโนโลยีทางการศึกษา


การเขียนบันทึก
นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ เทคโนโลยีทางการศึกษา การเขียนบันทึก ความสำคัญของสื่อการสอน ประเภทของสื่อการสอน หลักการเลือกสื่อการสอน การใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์การเขียนบันทึกผู้ใช้หรือ USER ทั้งหลายพอใจแค่สมัครเป็นสมาชิก และเปิดบล็อกได้ แต่เรื่องของการเขียนบันทึก  ต้องเอาไว้ก่อนเพราะต้องรอให้มีเวลาสักหน่อยจึงจะเขียนได้  บางท่านก็จด ๆ จ้องๆ ขออ่านของคนอื่นก่อน  เอาไว้มั่นใจแล้วค่อยเขียน    สาเหตุอย่างที่กล่าวมา เป็นเพราะว่า "คนไทย" ไม่ค่อยได้รับการฝึกฝนการเขียนบันทึกกันครับ   การเขียนบันทึก ต้องหมั่นฝึกฝน เพราะเป็นเรื่องของประสบการณ์การเขียน การเขียนบันทึกที่ดี อ่านเข้าใจ มีคนเข้ามาติดตามอ่านนั้น ผมคิดว่ามันเป็น "ศิลปะ" นะครับ  เรียกว่า "ศิลปะของการเขียนบันทึก"  ผู้เขียนบันทึก จึงอาจจะเรียกตัวเองว่าเป็น "ศิลปิน" ก็ได้ครับ เป็นศิลปินสาขาวรรณศิลป์ครับ   การจะเป็นศิลปิน ก็ต้องหมั่นฝึกฝนนะครับ  ผมขอถ่ายทอดประสบการณ์ดังนี้
  • เมื่อเริ่มเขียนบันทึก ต้องมีความมุ่งมั่นว่าจะทำให้ได้อย่างน้อยกี่บันทึก ภายในเวลาที่กำหนด อย่างผมตั้งใจว่า จะต้องเขียนบันทึกให้ได้ 100  บันทึก ภายในเวลาไม่เกิน 1 ปี (ผมทำได้ในเวลาไม่เกิน 3 เดือน) เรียกว่า "เอาปริมาณไว้ก่อน"
  • ยังไม่ต้องไปคำนึงถึงกฎเกณฑ์อะไรมาก เขียนไปก่อน
  • เขียนในทำนองการเล่าเรื่องการทำงาน หรือ ความภาคภูมิใจก่อนและบอกถึงวิธีการทำงานหรือวิธีการที่ทำให้ทำงานสำเร็จก่อน
  • ถ้าเป็นนักเรียน,นิสิต,นักศึกษา อาจเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเรียนหรือการได้มาซึ่งความรู้ใหม่ ซึ่งตนเองไม่เคยรู้มาก่อน หรือเล่าความประทับใจเกี่ยวกับผู้สอนก็ได้
  • หมั่นเขียนให้ได้สม่ำเสมอ เช่น กำหนดไว้ว่า สัปดาห์ละ 4-5 บันทึก หรือ เดือนละ 4-5 บันทึกเป็นต้นไป แล้วทำให้ได้ตามนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจ
  • หมั่นเขียนไปเรื่อยๆ สำนวนก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ
  • ระหว่างเขียน ถ้าไม่มั่นใจ "ศัพท์" คำไหน ให้ตรวจเช็คดูก่อน เพื่อความถูกต้อง
  • เมื่อเขียนไปแล้ว ต้องคอยตรวจทานดูคำผิด และแก้ไขให้ถูกต้องด้วย เป็นการฝึกฝนความเป็นคนมีระเบียบ และรอบคอบครับ
  • พอเขียนได้ดีแล้ว  ติดเป็นนิสัยแล้วตอนหลังๆ ควรหารูปภาพมาประกอบเรื่องเล่าด้วยครับ  เพื่อให้บล็อกหรือบันทึกของเรามีคนเข้ามาสนใจและคอยให้กำลังใจเราอย่างสม่ำเสมอครับ
แพลนเน็ต  หรือ Planet ก็คือ คำว่า ชุมชนบล็อก ของระบบเดิม แต่ใน KnowledgeVolution เราหันมาใช้คำที่ถูกต้องว่า (http://en.wikipedia.org/wiki/Planetaggregator   ซึ่งหมายถึง      ระบบการรวบรวมบล็อกที่มีอยู่ในระบบเฉพาะที่สมาชิกแต่ละคนสนใจที่จะติดตามอ่านอยู่เป็นประจำ (Reading list) และเจ้าของบล็อกนั้นๆ จะสามารถติดตามได้ว่ามีสมาชิกท่านใดสมัครรับอ่านบล็อกของตนอยู่บ้าง หรือที่เรียกว่า วงจรแพลนเน็ต นั่นเอง ผู้สร้างแพลนเน็ตสามารถนำบล็อกเข้าแพลนเน็ตได้ด้วยการไปที่บล็อกนั้น กดลิงค์ด้านล่างผศ.มานิต ยอดเมือง http://gotoknow.ort/ymanit  http://ymanit.multiply.com/  http://spaces.msn.com./ymanit  ที่เขียนว่า นำบล็อกเข้าแพลนเน็ต แต่หากมีเจ้าของบล็อกอยากให้ผู้สร้างแพลนเน็ตนำบล็อกของตนเข้าแพลนเน็ตด้วย  ก็ต้อง อีเมล์ติดต่อ ไปหาผู้สร้างแพลนเน็ตเอง อันที่จริงในเวอร์ชั่นนี้ ใครๆ ก็มีแพลนเน็ตได้เหมือนเป็น Reading list คือ เลือกรับอ่านบล็อกที่ตนเองสนใจติดตามทีมงานจะเพิ่มความสามารถของการเป็นชุมจริงๆ เข้าไปในอีกไม่นาน เช่น Askus ซึ่งจะคล้ายคลึงกับการเป็น Yahoo! Group หรือ board ของเฉพาะกลุ่ม เป็นต้น               วงจรแพลนเน็ตใครยาวที่สุด คำตอบเพื่อค้นหา Popularity ของบล็อก วงจรแพลนเน็ตของบล็อก Tutorial.gotoknow.org กว้างมากค่ะ เพราะมีแพลนเน็ตเข้ามาดึงบล็อกไปอ่านถึง 40 แพลนเน็ตค่ะ แพลนเน็ต  เป็นศัพท์เทคนิค แสดงถึงการรวบรวมบล็อกที่สนใจไว้ในที่เดียวกัน ใน GotoKnow version 2 นี้นั้น จะเน้นที่ความง่ายในการติดตามอ่านบล็อกแพลนเน็ตที่ดิฉันสร้างไว้เพื่อแบ่งกลุ่มบล็อกที่ติดตามอ่าน
  • GotoKnow  Developers
  • ติดตามต่อยอด
  • ชุมชนเทคนิคการใช้งาน GotoKnow.ort
  • ความคิดพิมพ์ผ่านปลายนิ้ว
  • Cognitive  Psychology
 และถ้า  Blogger  ใดเขียนดี เขียนเป็นประจำ ก็จะมีผู้สนใจนำบล็อกนั้นเข้า แพลนเน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ Popularity  ของบล็อกก็จะดียิ่งๆ ขึ้น ซึ่งหมายถึง วงจรแพลนเน็ตที่ยาวมากๆ นั่นเองค่ะ เรียกได้ว่า เป็นรูปแบบของการ push จากผู้อ่าน ให้เกิดการเขียนที่มีคุณภาพขึ้นได้ค่ะปัจจุบัน วงจรแพลนเน็ต ของบล็อก Tutorial.gotoknow.org  กว้างมากค่ะ เพราะมีแพลนเน็ตเข้ามาดึงบล็อกไปอ่านถึง  40  แพลนเน็ตค่ะรออีกนิด เดี๋ยวเราจะแสดงให้ท่านเห็นอัตโนมัติว่า บล็อกใดมีวงจรแพลนเน็นที่ยาวที่สุด...เรียบเรียงโดย ผศ.มานิต  ยอดเมืองกรกฎาคม  2549 สื่อการสอน (Instruction Media)โดย รศ.สมเชาวน์  เนตรประเสริฐความสำคัญของสื่อการสอน          กระบวนการเรียนการสอน สื่อจัดว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้กระบวนการเรียนการสอนครบบริบูรณ์และยังอาจกล่าวได้ว่าเป็นตัวชี้ถึงประสิทธิภาพของการเรียนการสอนในครั้งนั้นๆ อีกด้วย  เพราะตัวสื่อจะเป็นตัวการสำคัญที่นำเอาความรู้และประสบการณ์เข้าไปสู่การรับรู้ของผู้เรียน  ซึ่งการรับรู้นี้เองที่ครูสอนจะเลือกช่องทางให้ถูกต้อง มิฉะนั้นแล้วความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดจะไม่สามารถเกิดขึ้นแก่ผู้เรียนได้ตามประสงค์ของครูผู้สอน  ประสาทสัมผัสที่รับรู้ได้แม้เพียง 5 ประการ ได้แก่ การรับรู้ทางตา การรับรู้ทางเสียง  การรับรู้ทางสัมผัส การรับรู้ทางรส และการรับรู้ทางกลิ่น แต่ในทาปฏิบัติแล้ว จะพบว่ามีการเลือกใช้การรับรู้ไม่เหมาะสมกันมากอันเนื่องมาจากยึดเอาความสะดวกคุ้นเคยของผู้สอนเช่น การใช้การบรรยายในการสอนเพื่ออธิบายรูปทรงขององค์พระปฐมเจดีย์  เพื่อเปรียบเทียบลักษณะของสถาปัตยกรรมไทย กับอินเดียที่ผสมผสานมากับความเชื่อทางพุทธศาสนา เป็นต้น ซึ่งคงจะเห็นได้ว่าผู้เรียนจะรับรู้และเกิดผลของการเรียนรู้แตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะภาพนึกจากการฟังจะถูกแปลความหมายไปตามประสบการณ์เดิมของผู้เรียนซึ่งก็ย่อมแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรจะนำภาพมาใช้ประกอบการบรรยายดังกล่าวด้วย  จึงจะสามารถชี้ให้เห็นความเหมือนหรือแตกต่างของสถาปัตยกรรมได้อย่างชัดเจน ประเด็นนี้คงจะสรุปได้ว่าความสมบูรณ์ของกระบวนการเรียนการสอนจำเป็นต้องให้ความสำคัญในองค์ประกอบของแต่ละส่วน  โดยเฉพาะในส่วนของสื่อการสอนนั้น ในแนวคิดด้านเทคโนโลยีการศึกษาจะถือว่าสื่อการสอนคือ การทำให้ความเป็นนามธรรมไปสู่ความเป็นรูปธรรม   
หมายเลขบันทึก: 42508เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2006 12:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท