เพื่อสนิท กับชีวิตในรูปแบบใหม่


ธรรมดาโลก ที่มีการพลัดพราก

หลายครั้งที่ได้เยี่ยมไข้ และโปรดญาติโยมตามห้องต่างๆ ในแต่ละตึก ได้เห็นสัจธรรมในหลายๆ เรื่อง แง่มุมต่างๆ ทั้งคนที่ยังอยู่ และคนที่กำลังจะจากไป ความวุ่นวายเรื่องคน เรื่องทรัพย์สมบัติ หรือแม้กระทั่งความรับผิดชอบต่างๆ ของผู้ไข้หรือผู้ที่จะไปอย่างไม่มีวันกลับ มีหลายคำถามและหลายคำตอบของผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ยังต้องการอะไรอีกหลายอย่างจากคนไข้...

มีเรื่องราวดีดี เป็นอุทาหรณ์ให้คิดเสมอ ว่าถ้าเป็นเรานอนอยู่ตรงนั้นแล้วเหตุการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นกับเรา? เราจะทำอย่างไรดี?  ร้อนหนาวในแต่ละชีวิตไม่เหมือนกัน ฝนนี้บางคนเฮง ฝนที่แล้วบางคนน้ำตาร่วงเพราะต้องสูญเสีย หนาวนี้บางคนได้ลูกคนใหม่  Summer ที่ผ่านมาฉันได้... นี่แหละคือเรื่องราวของแต่ละคน...

ผู้ที่ได้ของขวัญชิ้นใหม่ ซึ่งบางคนยังรับไม่ได้ หรือยังไม่ปรารถนาที่จะรับ นั่นก็คือโรคภัยไข้เจ็บ โรคประจำตัวประเภทต่างๆ อาตมาจะคุยกับญาติโยมหลายท่าน ว่าใครเป็นโรคยี่ห้ออะไร.. คุยกันแบบขำๆ ประจำ..

บางคนก็เดือดร้อนขึ้นมาก็มีว่า

"ใช่ซิ ก็พระคุณเจ้าไม่ได้เป็น...แบบโยมนิเจ้าคะ พระคุณเจ้าเลยหัวเราะได้  แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งถึงคราวพระคุณเจ้าบ้าง จะหัวเราะไม่ออก จะสอนโยมไม่ออกหรอก!"

ในวงสนทนาธรรมกับคนไข้ ในวันหนึ่ง ณ ตึกผู้ป่วยพิเศษ อาตมาได้ไปโปรดญาติโยมคนหนึ่งที่ถูกทิ้งให้รักษาตัวอยู่คนเดียว.. ด้วยวัยชราตอนต้น.. กับระฆังแห่งสติใบน้อยที่ช่วยให้คนไข้สงบมากขึ้น.. เสียงของระฆังกังวานในหูของคนไข้เมื่อหลับตา ทำตามที่สอนทุกอย่าง.. ทำให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย และปลอดกังวลในเรื่องราวต่างๆ ที่ยังเป็นปมในใจไปได้บ้าง..

คนไข้เริ่มลากเก้าอี้มานั่งล้อมวงสนทนาธรรมกัน โดยไม่ต้องมีพยาบาลเป็นพี่เลี้ยงแนะนำ แต่มาจากจิตใต้สำนึกที่อยากจะมีใครสักคนเป็นผู้แนะนำที่ดี เป็นคนรับฟังเรื่องราวต่างๆ ของเขาบ้าง หรือแบ่งเบาความรู้สึกอันหนักอึ้งในชีวิต.. ผ่านหนาว ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย แต่ไม่เคยทุกโทมนัสอย่างนี้เลย..

มากกว่าสิบคนในแต่ละครั้งที่ได้มีการพูดคุยในลักษณะกลุ่ม.. คนไข้นั่งกำหนดจิตฟังในสิ่งที่พระกำลังพูด หรือแนะนำชีวิตในความรู้สึกใหม่ที่ไฉไลกว่าให้ฟัง.. น้ำตาบางคนไหลอาบแก้ม  นัยน์ตาแดง หลังจากที่ความเศร้ามันถาโถมเข้ามาในจิต ด้วยความกลัวเรื่องการพลัดพรากในอนาคต กลัวหลายอย่าง แม้กระทั่งกลัวความตาย..

ธรรมดาโลก.. ที่มีการพลัดพราก การจากเป็นหรือการจากตาย  การยอมรับในความจริง หรือการปรับและเปลี่ยนพฤติกรรม เรื่องเหล่านี้นับว่ายากมากกับการพยายามที่จะทำ ถ้าใจไม่แข็งพอหรือการวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ เพื่อปรับ..

ปรับ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

เปลี่ยน (บ้าง) เพื่อให้อยู่ได้

ปล่อย (วาง) บ้างจะสงบมากขึ้น

ปลอบ (โยน) ตัวเองก่อน ที่จะไปขอให้คนอื่นช่วยปลอบใจ

ปลง ในเรื่องสังขาร ชีวิต และความเป็นไป ใช้ธรรมะง่ายๆ เข้าข่มในจิตให้ชีิวิตมีความสุขกับปัจจุบันมากที่สุด

ปลุก (เร้า) อารมณ์และความรู้สึกใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ เพื่อเสริมกำลังใจและความรู้สึกในแง่บวกให้ตนเอง สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับตัวเอง กับระยะเวลาที่เหลืออยู่ ใช้ให้คุ้มค่า เพื่อพัฒนาในการรักษาตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคอายุรกรรมเหล่านั้น..

ไม่ยากส์และไม่ง่าย แต่ไม่ทำก็ไม่รู้ว่า ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปได้อย่างไร แบ่งเวลา แบ่งความรู้สึก และแบ่งใจออกมา เพื่อชีวิตที่ดีกว่าปัจจุบัน และความรู้สึกสดชื่น ร่าเริงในชีวิต พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามา เพราะโรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นสนิทของคนเรา ทุกเพศ ทุกวัย อย่าได้รังเกียจมันเลย.. ท่านผู้อ่านว่าจริงไหม? 

หมายเลขบันทึก: 425006เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2011 08:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท