ยุทธศาสตร์ที่พึงมี
ยุทธศาสตร์เพื่อการมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ของวิสัยทัศน์อย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดมความคิดกันออกมาได้แก่
- พัฒนาหลักสูตรในส่วนกระบวนการเรียนการสอนที่หลากหลายเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ ตั้งไว้
- พัฒนาหลักสูตรแม่บทที่ลงตัว ต่อเนื่อง วัดผล และสื่อสารได้ชัดเจน
- มีการพัฒนาครูขั้นพื้นฐานที่ชัดเจน มีหลักสูตรการพัฒนาครูที่ชัดเจน มีการพัฒนาครูที่ต่อเนื่องไปบนหน้างานจริง มีกระบวนที่หลากหลาย และสร้างระบบกลไกให้ครูมีส่วนร่วมในการพัฒนาตน และพัฒนางานไปตามทิศทางของโรงเรียน
- ความเป็น partnership ระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง นักเรียน นำไปสู่ความเชื่อมั่น ไว้ใจ และสนับสนุน
- พัฒนาระบบประกันคุณภาพที่จริงจัง และมีสัมฤทธิผล บนฐานการจัดการความรู้
- สื่อสาร brand เชิงรุกบนฐานความรู้ของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง จัดทำเวทีเพลินพัฒนา และทำการสื่อสารผ่านสื่อ ที่จะก่อให้เกิดการประมวลความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับครูนอกโรงเรียน และคนในสังคมได้เรียนรู้เป็นบริการทางวิชาการ โรงเรียนได้ความแม่นยำของครู ได้ภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำทางการศึกษา
- สร้างบรรยากาศในการทำงานให้คนกล้าคิดกล้าทำ มีการ shared vision และการให้กำลังใจกันกันอยู่เสมอ และมีการสื่อสารภายในที่ราบรื่นชัดเจน ทั่วถึง
- คืนเวลาให้ครูได้มีเวลาไปพัฒนาผู้เรียน พัฒนางาน และมีเวลาในการมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเพิ่มมากขึ้น
- จัดระบบการช่วยเหลือ และพัฒนาศักยภาพเด็กที่ต้องการการช่วยเหลือเป็นพิเศษ
จากยุทธศาสตร์ดังกล่าว สมาชิกที่สนใจในแต่ละยุทธศาสตร์ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มผู้ปฏิบัติงานในสายงานนั้น และผู้ที่สนใจจากลุ่มงานอื่นๆ ก็ได้เข้ามาช่วยกันคิดอ่านว่าในยุทธศาสตร์นั้นๆ จะมีโครงการเช่นไรเกิดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ และตอบ ๔ โจทย์หลักที่ตั้งเอาไว้ได้จริง
ช่วงของการเข้ากลุ่มยุทธศาสตร์นี้มี ครูต้น – บงกช เศวตามร์ เป็นผู้ดำเนินกระบวนการ
วิถีเพลินพัฒนา
หลังจากที่ทุกกลุ่มมานำเสนอกันแล้ว พี่ติ่ง – สุภาวดี ก็มาชวนกันคุยเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรของเพลินพัฒนาที่กล่าวถึงการ
- เคารพในความแตกต่าง และให้เกียรติในความเป็นมนุษย์
- กล้าคิด กล้าทำ กล้าหาฐทางจริยธรรม
- เพลินกับการให้และการอุทิศ
- พัฒนาตนด้วยการเรียนรู้อยู่เสมอ
พี่ติ่งชวนตั้งคำถามว่า “แต่ละคนคิดอย่างไร วัฒนธรรมองค์กรชุดนี้จะนำพาเราไปสู่วิสัยทัศน์ได้หรือไม่” โดยให้ร่วมคิดกันเป็นกลุ่มย่อย ในแต่ละกลุ่มจะมีสมาชิก ๔ คนที่มาจากส่วนงานต่างๆ ในบ่ายวันที่สองทุกคนได้ย้อนมองกลับไปที่คุณค่าหลักทั้ง ๔ ประการขององค์กรอีกครั้ง
พี่ติ่งนำให้สมาชิกทุกคนเปิดกว้าง และสามารถเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือตัดทอนออกได้ถ้าเห็นว่ามีข้อไหนที่ไม่จำเป็น
หลังจากที่ได้ใคร่ครวญกันอยู่ในกลุ่มจนชัดเจนกันแล้ว ทุกคนในที่ประชุมปรบมือโอบรับวัฒนธรรมองค์กรทั้ง ๔ ข้ออย่างเต็มใจ และมีกลุ่มที่ขอเสนอเพิ่มเติมในเรื่องของ
- บรรยากาศของความเป็นกัลยาณมิตร
- การดำรงคุณค่าของความเป็นไทย อ่อนน้อม อ่อนโยน
- คุณภาพชีวิตที่ดี
- ความสุขบนพื้นฐานของความพอเพียง
- รู้เท่าทันเทคโนโลยี แต่ไม่ติดยึด
- ทำทุกอย่างด้วยความใส่ใจ มีคุณภาพ ประณีต
- สนุกกับการทำงาน ทำงานได้ด้วยตนเอง ด้วยศักยภาพสูงสุด
- เคารพกติกา มารยาท มีความอดทน อดกลั้นต่อกัน
พี่ติ่งกล่าวสรุปว่าประเด็นที่เสนอมาเหล่านี้เป็นการเติมอารมณ์ที่อบอุ่น อ่อนโยนต่อกันมากขึ้น “นี่คือเรื่องที่ชาวเพลินพัฒนาจะทำ และส่งต่อไปถึงเด็ก ถึงผู้ปกครอง เป็นเรื่องที่เราทุกคนให้การยอมรับ และปรารถนาว่าอยากจะเห็นจากกันและกัน”