วันจันทร์ ที่ 26 มกราคม 2552
Posted by ลมเพ , ผู้อ่าน : 494 , 19:17:31 น.
หมวด : การศึกษา
พิมพ์หน้านี้
โหวต 0 คน
ความเชื่อ ศาสนาและไสยศาสตร์ เป็นกลุ่มคำที่เหมาะกับสมัยปัจจุบันมาก เนื่องจากต้องมีการแข่งขันกันทั้ง การเรียน การงาน การค้าขาย หรือแม้กระทั้งในเรื่องของความรัก ที่หากไม่ได้มาด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ทั้งการบนบานศาลกล่าว ทำเสน่ห์จากสำนักต่างๆหรือว่าจะเป็นการสักยันต์ที่หาทำได้ง่ายมาก เมตตามหานิยม คำๆนี้เป็นคำที่ผู้คนทั้งโลกปรารถนาอยากมีอยากได้ไว้อยู่ในตัวไม่ว่าเป็นชายหรือหญิง เป็นคำที่มีความหมายสูงค่า “อมตะ” เพราะเพียงให้ผู้ที่พบเห็นหรือผู้ที่พูดคุยเจรจาการค้าเกิดความเมตตา เท่านั้นก็เกินกว่าคำว่าพอ และเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากได้ให้ความเมตตา ต่อเราขึ้นเมื่อใด ถือว่าเมื่อนั้นเราได้เข้าไปอยู่ในจิตใจของเขาและเป็นส่วนหนึ่งที่เขาต้องอาทร
ความเชื่อทางคุณไสยทางอวิชชา เชื่อว่าการทำเมตตามหาเสน่ห์ ให้ฝ่ายตรงข้ามหลงรัก (ลุ่มหลง)นั้นเป็นสิ่งที่กระทำได้โดยไม่ผิดต่อศิลธรรม เพียงแต่ผู้ที่ทำคุณไสยนั้นต้องเป็นผู้ที่ถือกล้าในเดรัจฉานวิชชา ส่งผ่านต่อคนกลางคือผู้ประพฤติซึ่งจะต้องยอมเสียทุกอย่าง เพื่อนำไปผู้รับที่อยู่ปลายทางโดยใช้มนตร์เป็นตัวสะกดเป็นตัวกำหนด(เฉพาะบุคคลเพียงหนึ่งเดียว) เพื่อจุดมุ่งหวังเพียงอย่างเดียวคือเข้าไปนั่งครองในจิตใจฝ่ายตรงข้ามให้จงได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆก็ตาม แต่คุณไสยนี้จะได้ผลชะงัดในระยะสั้นๆไม่เป็นอมตะจะเสื่อมคลายและสิ้นสลายลงเพราะเป็นสิ่งที่ไม่จิรัง และผลร้ายคือเมื่ออวิชชานี้เสื่อมสลายลง มนตร์ดำนี้จะย้อนกลับคืนสู่ผู้ประพฤติเหตุเพราะได้กำหนดผูกติดกันเอาไว้ แต่ในคราวแรกเริ่มและส่งผลให้ผู้ประพฤติมีอันเป็นไป
ส่วนความเชื่อทางด้านพุทธคุณที่เป็นไสยเวทย์ ทางด้านเมตตามหานิยม จะไม่เน้นไปที่ให้ฝ่ายตรงข้ามนั้นหลงรักหรือลุ่มหลงพียงถ่ายเดียวไม่ผิดต่อจารีตประเพณีและศิลธรรมอันดี แต่จะทำให้ผู้ที่ได้รับพุทธคุณของเมตตามหานิยมไปนั้นมีเสน่ห์และเป็นที่ชื่นชอบรักใคร่แก่มหาชนผู้พบเห็นหรือได้เจรจาพูดคุยด้วย(โดยไม่เฉพาะเจาะจงให้เป็นบุคคลหนึ่งบุคคลใด) พุทธคุณมีเดชเป็นอมตะ “ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้”หมายถึงไม่ว่าจะเป็นอวิชชาใดๆก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาครอบงำหรืออำพรางได้แม้ปลายเส้นผม ครั้นมื่อ “ผิดสัจจะที่ถือ”ไม่สามารถที่จะรักษาได้ก็จะมลายคืนสู่ธาตุทั้งสี่ มีแต่ให้คุณไม่ให้โทษเพราะเป็นของคุณพระ
เราควรจะเชื่อในตัวเรามากกว่าสิ่งที่มองไม่เห็นจะได้ดำเนินชีวิตในสังคมแห่งนี้อย่างมีความสุขไม่มีความกังกลหรือว่าทุกข์ใดๆเข้ามาในชีวิตเรา
ที่มา :http://www.arjannoo.com/
|