เรื่องของยายยิ้ม จากรายการคนค้นคน


เราขาดในสิ่งที่ยายยิ้ม มี นั่นคือ ความพอเพียง ความศรัทธา ความไม่โลภ เรามีในสิ่งที่ยายขาด นั่นคือ ความทุกข์

 

 

1 ใน 10 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี "ยายยิ้ม จันทร์พร" ความลำบากไม่ได้อยู่ที่ความยาก มันอยู่ที่ "ใจ" 

 


 

ยาย ยิ้ม หญิงร่างเล็ก หลังงุ้ม ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสมชื่อ
อาศัยในบ้านไม้ที่เกือบ เสร็จท่ามกลางป่าเขา
จ.พิษณุโลก อยู่ลำพังอย่างเดียวดาย ห่างไกลผู้คนและเงียบสงัด

เมื่อ 20 ปี ก่อน ยายมีบ้านอยู่ที่อำเภอพรหมพิราม พร้อมลูกหลาน
ตอนนั้นลูกชายคนเล็ก ตั้งใจจะมาบุกเบิกทำมาหากินบริเวณที่อยู่ปัจจุบัน
แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้ง ความไกล ไข้ป่า และความลำบาก
ส่งผลให้ลูกชายของยาย เลือกที่จะไปขับรถแท๊กซี่ใน กทม.

และไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ และการไม่อยากเป็นภาระลูกหลานหรือ อื่นๆ
ยายยิ้มจึงตัดสินครั้ง สำคัญ อาศัยอยู่ที่บ้านในป่าผืนนั้น เป็นต้นมา

ลูกหลานขอร้องให้ ยายกลับมาอยู่บ้านแต่ยายไม่กลับ
ลูกหลานจึงได้แต่มา เยี่ยมยายเป็นระยะรวมถึงการนำเสื้อผ้า ผ้าห่ม
ข้าวสารอาหารแห้งมาให้ ยาย ลูกชายคนที่ยังอยู่ในอำเภอพรหมพิรามบอกว่า
"แม่เขาจะบอกว่าไม่ต้องเอามา ให้มากนะ ในชีวิตเขา แม่เขาไม่เคยอยากได้อะไรเลย
เคยถามเขาก็บอกว่า เขาพอแล้ว สมัยยังเด็กบ้านเราจนกันมาก
พ่อก็ตายตอนที่เรายัง เล็ก ๆ แต่แม่คนเดียวก็หา
เลี้ยงลูกได้ มานึกดูแกต้องทำงานหนักมาก แม่ถึงเน้นสอนให้เข้มแข็ง
หนักเอาเบาสู้ไม่เลือก งาน"


ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาท่ามกลางขุนเขา ยายไม่มีนาฬิกา
แต่ทุกเวลาล้วนมีคุณค่า การมีชีวิตอยู่ของยายหมดไปกับการปลูก ต้นไม้
ทำฝายเล็ก ๆ ที่ยายได้อาศัยในยามหน้าแล้งและยังเป็นสายธาร
หล่อเลี้ยงบรรดาสัตว์ และต้นไม้บนผืนแผ่นดินนี้
และตั้งใจถวายในหลวงและ พระราชินี ยายรักในหลวงและพระราชินีมาก

กิจวัตรประจำวัน ตื่นแต่เช้า จุดธูปไหว้พระ เก็บมุ้ง กระย่องกระแย่งมาจุดฟืนหุงข้าว
ตักข้าวสุกแรกเก็บไว้ ตักข้าวกินกับน้ำพริก หรือ ปลาแห้งที่เก็บไว้
ลงมากวาดลานบ้าน ซักผ้า หาบน้ำที่ลำห้วย ออกไปหาฟืนหาไม้ มาเก็บไว้


ก่อนจะคดข้าวใส่กล่อง น้ำพริก ใส่ย่าม สวมที่ขาดวิ่น ใช้พร้าแทนไม้เท้าเวลาเดิน
ข้ามห้วย ข้ามหนอง เข้าไปในป่าลึก ผ่านฝายเล็กๆ หรือคันนาที่ยายทำไว้ 11 ฝาย
เป็นคันดินที่ยายใช้ "จอบกับใจ" ค่อยๆขุดขึ้นมา กลายเป็นแอ่งน้ำเล็กๆกักเก็บน้ำ
พอให้สัตว์เล็กได้มา อาศัย ต้นไม้ชุ่มชื่น ระหว่างนั้นก็เอาข้าวมาโปรยให้สัตว์
ในแอ่งดินกันทำคันดิน นี้เสร็จ ก็เข้าไปลึกเรื่อยๆ ที่ละฝาย ทีละฝาย
เวลาแต่ละวันผ่านไปเท่า ไหร่ไม่รู้ เหนื่อยก็พัก แล้วก็เดิน กลับบ้าน
ชีวิตยาย เป็นไปอย่างเรียบง่าย

ทุก ๆ วันพระ ยายจะเดินลงมาจากเขา ด้วยระยะทางเกือบ 8 กิโล
บวกกับวัยชราของยาย จึงทำให้ยายใช้เวลาใน การเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ศรัทธา ของยายเสื่อมถอยลง ลำพังคนหนุ่มสาว
จะให้เดินขึ้นลงเขา สัก 7-8 กิโลเมตร ยังเล่นเอาเหงื่อตก
แต่สำหรับยายยิ้มถือ เป็นกิจวัตรสม่ำเสมอทุกวันโกน วันพระเพราะไม่ว่าฝนจะตก
ฟ้าจะร้อง ยายก็ต้องไปถึงวัดไม่เคยขาด

ระยะทางไกลที่เต็มไป ด้วยหล่มโคลน ถนนเป็นร่อง ขรุขระ ยายยิ้ม
จะออกเดินเท้าจากบ้าน ตั้งแต่เช้ามืด เหนื่อยก็พัก ถึงวัดกี่โมงไม่รู้
รู้แต่เมื่อถึงวัดก็ เปลี่ยนชุดชาว สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ทำความสะอาดวัด
ทำบุญ เมื่อกลับจากวัด แกก็จะมานับวันหลังจากนั้นไปถึงวันโกน วันพระอีกที
ก่อนที่เดินกลับบ้านใน ป่า ยายเลือกใช้ชีวิตเพียงลำพัง
และใช้ชีวิตอย่างโดด เดี่ยวอย่างมีความสุขอีกครั้ง

เราขาดในสิ่งที่ยายยิ้ม มี นั่นคือ ความพอเพียง ความศรัทธา ความไม่โลภ
เรามีในสิ่งที่ยายขาด นั่นคือ ความทุกข์

 

พิธีกร : ข้าวสารอาหารแห้งเอามาจากไหน
ยายยิ้ม : ลูกหลานเข้าเอามาให้ เขาเอามาให้ก็ต้องกิน
เขา จะได้บุญและก็ต้องกินอย่างประหยัดๆ ไม่ฟุ่มเฟือย

พิธีกร : ฝนตกเปียกไหม
ยายยิ้ม : ก็หลบๆเอา ไม่ลำบาก อย่าคิดว่ามันลำบาก

พิธีกร : เสื้อผ้า ขาดแล้วยังใส่อยู่
ยายยิ้ม : ลูกหลานเข้าเอามาให้ ใส่ไว้เขาจะได้บุญ

พิธีกร : ลูกหลานอยากให้ไปอยู่ด้วยกัน
ยายยิ้ม : ไม่ใช่ว่าจะไม่พึ่ง แต่ให้หมดค่าก่อนค่อยพึ่ง ป่วยไม่สบายไม่มีแรงค่อยพึ่งเขา

พิธีกร : ทำฝายไปให้ใคร
ยายยิ้ม : ให้ในหลวงพระราชินี ท่านเป็นถึงเจ้าแผ่นดินยังทำงาน เราก็ต้องทำให้ท่านบ้าง..
ส่วน สิ่งที่ทำในหลวงไม่เห็นผีสางเทวดาก็เห็น

พิธีกร : ได้ประโยชน์อะไรจากฝาย
ยายยิ้ม : ในหลวงบอกมีฝายมีน้ำ มีป่า มีปลาเล็กเป็นอาหารนกอีกทีรวมถึงได้ใช้ยามหน้าแล้ง

พิธีกร : กลัวล้มไหมเวลาเดินไปไหน
ยายยิ้ม : กลัวแต่ก็ต้องทำ ทำแล้วมีความสุข

พิธีกร : เหนื่อยไหมที่ทำมา
ยายยิ้ม : เหนื่อย แต่ทำแล้วมีความสุข

พิธีกร : เดินไปวัดลำบาก เหนื่อยไหม
ยายยิ้ม : เหนื่อยก็พัก แล้วเดินต่อ ทางไปสวรรค์มันรก ทางไปนรกมันเรียบ เห็นพระก็หายเหนื่อย

พิธีกร : สรุปว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ
ยายยิ้ม : คนอื่นว่าลำบากแต่ถ้าเราคิดว่ามันเป็นสวรรค์มันก็ไม่ลำบาก

พิธีกร : ยายมาทำบุญทุกวันพระไหม
ชาวบ้าน : ยายมาประจำแหละ ยายแกชอบทำบุญ ได้เบี้ยเดือน 500 แกยังทำบุญหมดเลย

พระ (กางมุ้งให้ยายนอนในศาลาวัด) : ไม่บาปหรอกยาย ช่วยๆกัน ดูแลกัน
ยาย (นั่งยิ้มด้วยความจำนน)
ยาย เอาเงินที่เก็บๆรวมถึงเงินที่ชาวบ้านให้ไว้มาทำบุญ
ยาย อวยพรให้และภาวนาให้คนที่ทำบุญด้วย
พิธีกร : ยายรู้จักเขาเหรอ
ยายยิ้ม : (ยิ้ม) ไม่รู้จักหรอก เห็นบอกว่าจะบวชก็เลยทำบุญ
ให้ ยายทำบุญนะ (สงสัยคงจะเป็นเงินที่ทางรายการให้)
พิธีกร : ทำเถอะยาย ไม่ว่าอะไรหรอก

พิธีกร : ยายมีของแค่นี้เหรอ (หยิบกระเป๋าใบเล็กที่บรรจุ เสื้อผ้า หยูกยาที่จำเป็น บัตรประชาชน)
ยายยิ้ม : แค่นี้แหละเตรียมไว้ เวลาเจ็บป่วยขึ้นมา เอาไปใบเดียว คนอื่นจะได้ไม่ลำบากหา

พิธีกร : จะไม่เป็นการแช่งตัวเองหรือ
ยายยิ้ม : ยิ่งเจ็บ ยิ่งต้องพึ่งตัวเอง ยิ่งต้องเตรียมตัว

พิธีกร : เวลายายไปตัดไม้ไผ่ ทำฝายไม่เกินกำลังเหรอ เอาแรงมาจากไหน
ยายยิ้ม : หัวเราะเบาๆแล้วตอบว่า มันเกินกำลังอยู่แล้วล่ะ แต่ต้องมีความพยายามยายบอกวันนี้หมดแรง นอนพัก พรุ่งนี้แรงก็มาใหม่

พิธีกร : ยายยังขาดอะไรอีกในชีวิต
ยายยิ้ม : ยายยิ้มสมกับชื่อ แล้วตอบอย่างภาคภูมิใจว่า ขาดความ ทุกข์



ที่มา พลังจิต โพส โดย ๕๓๑๔๗๘๖

 

คำสำคัญ (Tags): #ยายยิ้ม
หมายเลขบันทึก: 422542เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2011 07:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 05:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ผมเคยอ่านมาตํ้งแต่เด็กๆว่า เวลาเราอ่านหนังสือแล้วเราต้องเสียน้ำตา ไม่ใช่เพราะว่าเราสงสารตัวละครของเรื่อง เพราะเขาอ่อนแอ แต่เราเสียน้ำตาให้เขา เพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีทุกข์มากมายประการใด เขาก็จะยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ 

อย่างที่คุณจิ๋วหลิ่วและคุณ BBOOYY เขียนว่า

ชอบประโยคนี้ที่สุดเลย
"ยายขาดอะไรในชีวิต"
"ยายขาดความทุกข์"
สุดยอดจริงๆคุณยาย หนูจะเอาไปใช้กับชีวิตหนูบ้างนะคะ
กราบขอบพระคุณคุณยายยิ้มค่ะ

อ่านแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้ อนุโมทนาบุญ กับคุณยาย
ขอให้คุณยายสุขภาพแข็งแรงนะครับผม

  • สวัสดีค่ะ
  • ชื่นชมคุณยายยิ้มจังเลยค่ะ ชอบบทสรุป "ยายขาดอะไรในชีวิต" "ยายขาดความทุกข์".... คุณยายคิดได้อย่างไร.....โดนไปถึงหัวใจเลยค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

                           

ชอบชีวิต คุณยาย ยิ้ม จังเลย....หากชีวิตเปลี่ยนกันได้...อยากเปลี่ยนเป็นยาย ยิ้ม...เจ้าค่ะ...ยายธี

สวัสดีค่ะ

เรื่องของยายยิ้ม ลงในนิตยสาร ค คน ฉบับเดือนตุลาคม ๒๕๕๓ ค่ะ ท่านอายุ ๘๓ ปี อาศัยอยู่ที่ป่าในอำเภอวัดโบสถ พิษณุโลกค่ะ

น่าอิจฉาชีวิตท่านนะคะ

สวัสดีค่ะ

นี่คือสิ่งที่เรียกว่าสุขหรือทุกข์ อยู่ที่ใจ

สำหรับยายยิ้ม ป่าแห่งนั้นคือสวรรค์ของยาย ยายก็เป็นเหมือนเทวดาในป่า อิ่มด้วยทุกอย่างที่มี เหลือเจือจานให้สิ่งรอบตัว ธรรมชาติ สัตว์

 ก็หวังว่าสังคมจะปล่อยให้ยายอยู่กับชีวิตธรรมชาติที่ยายรักเช่นนั้น ไม่จับมาเป็นโอกาสของรายการต่างๆอีก ดนดี ที่ทำดี เมื่อเราเห็นการกระทำ รู้เรื่องราวของเขา เอามาเผยแพร่ให้เป็นตัวอย่างก็น่าจะพอ เคยมีหลายตัวอย่างมาแล้วที่พบเห็นวิถีชีวิตที่เราคิดว่าเราอยากเป็น (แต่ก็เป็นไม่ได้) แล้วไปรบกวนวิถีชีวิตเขาคิดว่าเขาควรจะสบายกว่านี้ ตามความคิดของเรา ไปกระทบกิจวัตรหลายๆอย่าง ชีวิตที่สงบก็ไม่สงบ ที่ได้พักก็น้อยลง เพราะรายการต่างๆต้องไปจองตัวจองคิว ในที่สุดก็อยู่ในโลกมายานี้ได้ไม่นาน

ถ้า meepole สามารถขออะไรได้ อยากจะขอให้ยายยิ้มได้มีวิถีชีวิตในแบบที่ยายพอใจ และมีความพอกับมันมาตลอด อย่าให้ต้องเป็นเหยื่อของธุรกิจของใครๆเลย

 ความสำเร็จในการเป็นมนุษย์ของยายมีตั้งแต่ที่ยายขาดความทุกข์ เพราะยายอยู่เหนือความเป็นมนุษย์แล้ว และขอให้ยายได้เสวยสุขที่สงบในบั้นปลายเสมือนเทวดาเดินดิน อย่าได้ถูกรบกวนเลย เราก็จะได้บุญที่ไม่ไปรบกวนยาย

สวัสดีคุณบุษรา

ขอบคุณที่แวะมาเยือน

รูปภาพเคลื่อนไหวได้นี่  คิดได้อย่างไงครับ

 

สวัสดีครับครูคิม,

ไปเที่ยว เปียงซ้อ  เหนื่อยไหมครับ

ดูรูป อ่านเรื่องแล้ว อยากจะไปอยู่เมืองไทยจัง

สวัสดีครับคุณยายธี

คุณยายธีอยู่รัฐไหนในอเมริกาครับ

เห็นกลับไปเมืองไทยบ่อยๆ

สวัสดีครับคุณ mee pole

เท่าทีผมอ่านบันทึกของหลายคน มีความคิดเหมือนๆกับของอาจารย์

ที่ว่าเวลาอ่านบันทึก อยากอ่านประสพการณ์ ความรู้สึก

มากกว่าจะอ่านรายงานการประชุม รายงานทางวิชาการ

อยากจะอ่านข้อเขียนที่อ่านแล้ว

มันสบายกายสบายใจ

ให้ความหวัง ถ้าจะต้องเสียน้ำตา ก็ต้องแอบหัวเราะบ้างเป็นบางครั้ง

ชีวิตนี้มันสั้นครับ

ฝากรูปองุ่นมาให้ดู  ถ่ายเองครับที่ LA

 

 

สวัสดีค่ะคนบ้านไกล

  • ขอบคุณ คุณยายยิ้ม ที่ทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้นค่ะ

สวัสดีครับคุณยาย,

คุณยายทำโลกให้น่าอยู่ทุกวันอยู่แล้วครับ  ได้ช่วยคนไข้ให้มีสุขภาพดีขึ้น ได้สอนคนให้รู้จักการออกกำลังกาย เป็นการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ

อนุโมทนาบุญกับคุณยายครับ

 

ขอบคุณคุณยายยิ้ม ที่ทำใ้ห้มีแรงอยู่ในโลกนี้ได้อีก กำลังใจดีๆได้จากคุณยายนี่เอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท