้Herb - สิ่งซ่อนเร้นในสวนสมุนไพร(7)


    ยังคงอยูที่ทีวันเกลี่ยดิน       

              บรรยากาศการเกลี่ยดินดูผิวเผินเหมือนจะสนุกค่ะ แต่เราลองจับจอบมาทำอยู่ประมาณสองนาทีเศษไหล่ก็เหมือนจะหลุด  เลยคิดว่าคงจะไม่รอด (บอบบางค่ะ หึหึ) ก็เลยตระเวนเดินเก็บรูปถ่าย ดูแลเรื่องน้ำบ้าง  คอยเอ่ยบอกให้ทุกๆท่านเกลี่ยดินไปในทางที่ถูกบ้าง เพราะทุกคนเกลี่ยดินกันกระจายออกเป็นวงกลมค่ะ ตัวเราเลยต้องคอยบอกให้ต้อนดินลงไปทางต่ำ

 

          แต่ว่าการสั่งอสม.ที่อายุมากว่าเรา กลับกลายเป็นว่าเราไม่กล้าทำค่ะ  ได้แต่อ้อมแอ้มบอกว่าเอาดินไปทางโน้นค่ะ ทางนี้มันสูงแล้ว หัวหน้าเรามองเห็นอยู่ค่ะว่าเราคงจะไม่กล้า ท่านเลยมาช่วยออกคำสั่งให้ และทุกคนก็ทำตามอย่างไม่อิดออดเลยค่ะ

 

          ระหว่างเกลี่ยดิน พี่ติ๋วเข้ามาเดินดูอยู่ด้วยค่ะ พี่เขาสังเกตเห็นพืชตระกูลหัวทั้งหลายแหล่ (ไพล ขมิ้น ว่านชักมดลูก กระทือ )  เต็มแปลงอยู่แปลงหนึ่ง แล้วแอบกระซิบกับเราว่าให้เราบอกทุกคนมาขุดหัวเจ้าพวกนั้นออกไปก่อน ไม่อย่างนั้นจะถูกดินใหม่ถมสูงเกินไป  เราก็มองไปรอบๆตัว เห็นทุกคนขุดดินกันมันหยด เลยไม่กล้าบอกใคร ง่า.....เหมือนพี่ติ๋วจะรู้

 

      เลยทำหน้าที่ดึงคนเข้ามาช่วยกันขุด พอเห็นคนหนึ่งขุด หลายคนก็มาช่วยกันขุด  เราเลยวิ่งไปหาถุงสำหรับใส่สมุนไพรเหล่านั้น มาวางให้ข้างๆ แอบปาดเหงื่อเล็กน้อย ไม่ได้พี่ติ๋วคงจะแย่เลยเรา  หึหึ บอกว่าจะมาดูเฉยๆแต่พอเห็นเรากำลังจะจมน้ำพี่ติ๋วก็ลุกมาช่วยทันที  (พี่ติ๋วขอบคุณค่ะ)  

 

      งานเกลี่ยดินดำเนินไปจนใกล้เสร็จ อาหารก็เสร็จแล้ว แม่ครัวออกมาตะโกนบอกให้เตรียมตัวไปทานข้าวเที่ยงกัน หัวหน้าเราเดินมาถามอีกรอบจะทำอะไรต่อ ตอนนี้ดินลงเกือบหมดแล้วค่ะ เราเลยบอกว่าจะทำรั้วกันอาราเขตโดยใช้ลำไม้ไผ่ 

 

       ย้อนกลับมาที่ลำไม้ไผ่นิดหนึ่ง เมื่อวันตอนไปประชุม อสม.สมตำบลนั้นเราลืมบอกในที่ประชุมว่าให้เอาลำไม้ไผ่มาหมู่บ้านละสามลำ ลืมย้ำค่ะ เลยได้แต่ส่งใจไปที่ประธานอสม. แอบหวังว่าจะมีการประชามสัมพันธ์ให้  แต่พอถึงวันเกลี่ยดินมีคนเอามาน้อยมาก นับแล้วไม่ถึงสิบลำ

 

           กลับมาที่สวน หัวหน้าบอกว่า อย่าพึ่งให้กินข้าว ให้ทำให้เสร็จก่อน เราก็สงสัยมากเพราะว่าตอนนี้ทุกคนเหนื่อยและหิว เราเองก็เหนื่อยและหิวด้วยเหมือนกัน หัวหน้าเราให้เหตุผลว่า พอกินก้าวกันแล้วทุกๆคนจะทยอยกลับ ตอนนั้นเราไม่เชื่อ  คิดแต่ว่าอยากให้ทุกคนได้พัก  ซึ่งตอนนี้มีบางกลุ่มเดินไปล้างมือทานข้าวรอ

 

          เราอยู่กับกลุ่มเกลี่ยดินกลุ่มสุดท้าย ตั้งใจจะทานข้าวพร้อมกัน  อาหารวันนี้มีส้มตำ ขนมจีน แกงอ่อมหมู ขณะนั่งทานกับคุณพ่อคุณแม่อสม. เราก็เห็นบางส่วนที่ทานข้าวก่อนทยอยกลับ ในใจก็คิดว่า สงสัยคงมีงานทำต่อ ไม่เป็นไรงานกันอาณาเขตด้วยไม้ไผ่วันนี้คงทำไม่เสร็จ เพราะไม้ไผ่มีไม่พอ

 

        ในวงอาหาร หลายคนห่อข้าวมากับกับข้าวค่ะ แล้วเค้าก็เวียนส่งต่อกันเพื่อให้ได้กินกันครบวง เป็นกับข้าวง่ายๆ อย่างน้ำพริก ปลาหมึกแห้งทอด สะเดาลวก(สะเดาในสวนที่สอน.นี่แหละค่ะ ตัดเอากิ่งออกเลยเก็บมาลวกกินกันสดๆตอนเที่ยง)  มื้อเที่ยงวันนั้นสำหรับเราแล้ว อร่อย อิ่มอกอิ่มใจเป็นที่สุดเลยค่ะ(แม้อาหารจะเผ็ดมาก) รู้สึกร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับคุณพ่อคุณแม่อสม.

บรรยากาศการทานข้าวเที่ยงค่ะ

            ทานข้าวเสร็จ สิ่งที่หัวหน้าบอกเราเราเป็นเรื่องจริง ทุกคนเหมือนจะรับรู้ว่างานเสร็จแล้ว เริ่มทยอยกลับ เราได้แต่ยืนอึ้งไม่กล้าบอกว่าให้อยู่ก่อนนะค่ะ แต่ยังมีอสม.บางส่วนที่ยังนั่งกันอยู่ค่ะ แม่แป๋ม....เป็นอสม.อีกคนหนึ่งที่อยุ่รวมด้วย แม่แป๋มเข้ามาถามเราอีกว่าจะทำอะไรต่อ เราอยากให้ตีไม้ไผ่กั้นเป็นอาณาเขต

 

            แม่แป๋มไม่รอช้า เดินไปบอกคนที่นั่งอยู่ให้ช่วยกันทำเราถอนหายใจเฮือก เดินไปบอกช่างที่เตรียมเลื่อย เตรียมมีด ค้อน ตะปู ให้ตั้งเสาหลักและวางแปลงอย่างที่ตั้งใจไว้  เพียงเวลาไม่นานการกั้นแปลงก็เสร็จสิ้นลง ทุกคนนั่งพักเราเองก็นั่งพัก  งานวันนี้คงได้เท่านี้แหละ

 

        หัวหน้าเราไม่หยุดค่ะ ช่วงที่เรากั้นอาณาเขต ท่านหลบไปทานข้าว พองานเราเสร็จหัวหน้าเราก็เดินมาต่อท่อประปาให้ด้วยตัวเอง แถมสอนเราด้วยว่ามันต้องต่อยังไง เรานั่งดูซักพักก็หมดความสนใจ หันไปเก็บบรรยากาศสวนตัวเองหลังเกลี่ยดิน

แปลงที่กั้นอาณาเขตค่ะ

        การลงแขกเกลี่ยดินครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ตัวเราเองยังอ่อนประสบการณ์ในการเข้าหาชุมชนเหลือหลาย ปฏิบัติต่อผู้คนในชุมชนอย่างเก้ๆกังๆ  หวาดกลัวในการออกคำสั่ง คุมงานคุมคนไม่ค่อยอยู่ยังต้องพึ่งพาหัวหน้า พึ่งพาพี่ติ๋ว  พึ่งพาคนอื่นๆ

 

แต่ในการพึ่งพานั้น เรากลับเห็นความงามที่แทรกอยู่ และเข้าใจบางสิ่งบางอย่างที่มันควรจะเป็นไป

 

            วันนี้เราถูกประคับประครองเพราะความอ่อนด้อยประสบการณ์ ราวกลับเด็กตัวเล็กๆที่หัดเดินต้วมเตี้ยม  โชคดีที่มีหลายมือส่งมาให้เราจับมากมาย  ตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก   เมื่อวันข้างหน้าที่กล้าแกร่งแล้ว เราอยากจะกลายเป็นคนที่ประครองคนอื่นๆบ้าง

 

              ..........อยากรู้จริงๆว่าความรู้สึกนั้นจะต่างกันมากมายแค่ไหน........

หมายเลขบันทึก: 422323เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2011 20:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน 2012 20:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พี่ชอบบรรยากาศการกินข้าวแบบนี้จัง รู้สึกดี

เสียดายที่ติดภารกิจเลยลงมาร่วมทานไม่ทัน

แต่ก็ยังได้กลิ่นอายของความอบอุ่น

ดีใจที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานวันนั้นค่ะ

ขอบคุณนะคะที่ให้โอกาส

(^_^)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท