สืบเนื่องจากบันทึกเรื่องมหาธรรมยาตราหลวงพ่อสนอง กตปุญโญแห่งวัดสังฆทาน ทำให้คิดต่อไปว่านี่คือกิจกรรมหนึ่งซึ่งส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ที่มีคำศัพท์ว่า Soft power มาเกี่ยวข้อง
ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ Soft power หมายถึงอำนาจที่ทำให้ประเทศอื่นๆ ปฏิบัติตามความต้องการของเราโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ ในทางตรงกันข้ามอาจรู้สึกพอใจด้วยซ้ำไปเพราะได้ผลประโยชน์ร่วมกันในระดับหนึ่ง (โดยสรุป) Soft Power เป็นศัพท์ที่ศาสตราจารย์ Joseph S. Nye จาก Kennedy School of Government มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ใช้เป็นครั้งแรกเพื่ออธิบายทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐหนึ่งที่ส่งอิทธิพลโดยทางอ้อมต่อพฤติกรรมหรือความสนใจของรัฐอื่นๆ ผ่านการเผยแพร่ทางวัฒนธรรมหรือความคิด หลังจากนั้นก็มีผู้ใช้คำนี้กับการดำเนินนโยบายต่างประเทศใหม่ๆ ที่ไม่ใช้กำลังเข้าแก้ไขปัญหาแบบดั่งเดิม เช่นการทูตปิงปอง กิจกรรมทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศ เป็นต้น
คำว่า Soft power นั้นยังไม่มีการแปลอย่างเป็นทางการ บ้างก็ใช้คำว่า อำนาจละมุน ซึ่งฟังแล้วก็ตรงแต่ก็ขัดหูชอบกล สำหรับผม เมื่อดูความหมายโดยรวมและเอียงไปในทางธรรมะ อยากจะใช้คำว่า “อำนาจขาว” กับ Soft Power และ”อำนาจดำ” กับ Hard power
ในประวัติศาสตร์โลก ประเทศมหาอำนาจส่วนใหญ่นอกจากจะใช้อำนาจทางทหาร ทางเศรษฐกิจและใช้อำนาจตามอำเภอใจแล้ว ก็มักจะใช้ Soft power นี้เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศด้วย เรียกว่าถ้าใช้กำลังไม่ได้ ก็ใช้วิธีการอื่นที่ละมุมละม่อมกว่า ทำนองตบหัวและลูบหลัง Soft power จึงตรงกันข้ามกับ Hard power
องค์กรเผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมของประเทศพัฒนาแล้วที่แพร่กระจายอยู่ทั่วโลกและบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น British Council ของอังกฤษ, Goethe ของเยอรมัน, Alliance Francaise ของฝรั่งเศส ฯลฯ ถือได้ว่าเป็นการใช้ Soft Power ทั้งนั้น
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเข้มแข็งมากประเทศหนึ่ง รวมทั้งศาสนาเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง จึงอยู่ในข่ายที่มีอำนาจขาว Soft power สูงและสามารถที่จะใช้อำนาจขาวนี้ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ดี ซึ่งก็เป็นที่น่าสังเกตว่าประเทศต่างๆ นั้นนิยมความเป็นไทยไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ของเราที่ไม่เคยเป็นอาณานิคมของชาติใด สถาบันกษัตริย์ที่ได้รับการยกย่อง ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี อาหารไทยและนิสัยของคนไทยเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว นับเป็นอำนาจขาวที่คนต่างชาติยอมรับโดยไม่รู้ตัว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
เมื่อมองประเทศไทยแล้ว ก็มองไปถึงอินเดียซึ่งมีหลายอย่างคล้ายๆ กับไทยคือวัฒนธรรมที่เก่าแก่และมีคุณค่า จึงมี Soft power สูงมากประเทศหนึ่ง อินเดียเองในช่วงหลังนอกจากจะพัฒนากองทัพ เปิดประเทศ เปลี่ยนยโยบายต่างประเทศที่เป็นมิตรกับทุกประเทศมากขึ้น ก็ตระหนักถึงขุมทรัพย์ที่ตนเองมีมาตั้งแต่ในอดีตนั่นคือวัฒนธรรม จึงพยายามฟื้นฟู Soft Power นี้เช่นการฟื้นฟูมหาวิทยาลัยนาลันทา การฟื้นฟูพุทธโบราณสถานในรัฐต่างๆ เพื่อดึงดูดชาวพุทธจากทั่วโลกให้มาอินเดีย ซึ่งมีแต่จะส่งผลดีต่ออินเดียทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือแม้แต่เรื่องรามายณะ หรือรามเกียรติ์รวมทั้งภาพยตร์อินเดียจากบอลลีวู๊ดก็ถือเป็น Soft Power ของอินเดียที่มีผลต่อการสร้างความนิยมอินเดียในโลก
จากตัวอย่างของมหาธรรมยาตราที่ได้เล่าให้ฟังแล้ว ถือเป็นอำนาจขาวหนึ่งที่ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินเดีย ในด้านของพุทธศาสนาแล้ว ไทยกับอินเดียสามารถใช้อำนาจนี้ระหว่างกันได้ดีและเป็นจุดแข็งของไทยที่มีศาสนาที่เข้มแข็งสามารถช่วยอินเดียในการฟื้นฟูได้ เหมือนที่สยามเคยไปฟื้นฟูพุทธศาสนาในศรีลังกาในอดีต
วัฒนธรรมคืออาวุธสำคัญหนึ่งในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถือเป็น Soft Power อำนาจขาวที่ไทยมีและต้องส่งเสริมให้มากๆ ในบางครั้งอาจต้องเอาวัฒนธรรมนำการเมืองและการต่างประเทศด้วยซ้ำไป การที่ประเทศเพื่อนบ้านชอบมีปัญหากับไทย อาจเป็นเพราะเรามิได้ใช้ Soft Power อำนาจขาวนี้กับเพื่อนบ้านเพียงพอก็เป็นได้...หรือไม่
ครูตา ลป. ครับ
ครับ มีเฟซบุ๊คด้วย แต่ยังชอบใจที่จะบันทึกในโกทูโนมากกว่าครับ เนื่องด้วยเป็นคนรุ่นเก่าแล้ว ไม่ใช่ฟังชั่นอื่นนอกจากบันทึกภาพและเรื่องครับ
ในตัวคนไทยทุกคนมีอำนาจขาวหรือ Soft power นี้ทุกคนครับและมีสูงด้วย เช่นยิ้มสยาม ก็ถือว่าสามารถนำมาใช้เป็นอำนาจสร้างความนิยมไทยได้สำหรับคนทั่วโลกครับ ยิ้มเข้าไว้ ไม่ว่าสถานการณ์ของประเทศจะเป็นอย่างไร นักท่องเที่ยวต่างชาติจึงมาเที่ยวบ้านเรามากมาย ไม่สนใจสถานการณ์ภายในเท่าใดนัก
ขอบคุณที่เข้ามาทักทายกันครับ
เข้ามานั่งมอง....อ่าน...เก็บเกี่ยวประสบการณ์ดี ๆ แล้วก็เมินเฉย เดินจากไป ...ไม่ทักทายซักคำ ถือว่าผิดวิสัยมนุษย์ค่ะท่าน
ครูตา ลป.ครับ
ในโลกเสมือนจริง ก็คงไม่ต่างจากโลกที่เป็นอยู่นะครับ เราคงต้อ
งเก็บเกี่ยวเอาเฉพาะความรู้ที่มีอยู่ในโลกสาธารณะ
ขอบคุณครับที่เข้ามาทักทายกัน
หลวงพ่อก็ใช้ Soft power ในประเทศ ด้วยการใช้สื่อวิทยุสังฆทานธรรม
โดยมีชาวบ้านทุกจังหวัดเป็นแฟนคลับ..เมื่อมีการเดินธรรมยาตรา หลวงพ่อจึงมีชาวบ้าน
ไปคอยต้อนรับทุกแห่งหนที่เดินทางไปเยือน..สาธุกับท่านพลเดชนะคะที่ให้ความรู้
ศิษย์สินธุ
ต้องช่วยกันส่งกำลังใจ ไปให้หลวงพ่อสนองและคณะครับ ช่วงนี้น่าจะเดินธรรมยาตรากันไปอักกราและอีกหลายพุทธสถานในอินเดียครับ
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน
ติดตามข่าวท่านทุกวันเลยคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน
เพราะเมื่อปีที่แล้ว ดิฉันไปไหว้พระที่อินเดีย ช่วงหลวงพ่อธรรมยาตราอินเดียที่อินเดีย
รถที่เรานั่งแล่นผ่านคณะของท่าน ช่วงกำลังเข้าลุมพินีพอดี เห็นแล้วก็ปลาบปลื้มกับคณะ
ของท่านที่กำลังเดินกันอย่างยิ่งคะ..เพราะอากาศก็หนาวจัดด้วยคะ
ดีจังครับ คุณศิษย์สินธุ
ถือเป็นอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อสนองนะครับ
หลวงพ่อมาบุกอินเดียนานหลายสิบปีแล้ว
มั่นคงแน่วแน่อย่างไร ก็ยังเป็นเช่นนั้นครับ
ก็ได้แต่เพียงส่งกำลังใจไปให้ท่านครับ ในทุกวันที่ธรรมยาตราครับ
เท่าที่ได้คุยกับญาติธรรมที่ร่วมเดินด้วยในวันที่ 16 มกราคม เห็นชัดว่าทุกคนมีความเชื่อมั่นสูง กำลังใจดีมาก
แม้ว่าหลายท่านจะสูงวัยแล้วก็ตาม น่าอนุโมทนาบุญด้วยจริงๆ ครับ
*
o
Why India? “ทำไมต้องอินเดีย?”
วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ เชิญฟังการอภิปราย Why India? “ทำไมต้องอินเดีย?” จากนักการเมือง นักการทูต ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆเกียวกับอินเดียฟรี วันที่ 26 มกราคม ณ หอประชุมเล็ก(ศรีบูรพา) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตั้งแต่เวลา
สวัสดีค่ะ คุณพลเดช
พอดีไปอ่านเห็นเขาจะมีการอภิปราย Why India? เห็นมีนักการทูตด้วย คุณพลเดชมีส่วนร่วมด้วยหรือป่าวคะ?
อิอิ..คุยเรื่องที่ตัวเองอยากคุย อยากถาม อย่าว่ากันเลยนะคะ เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้.
ตอนนี้น้าจ้าซื้อคอมฯมาใหม่ keyboard ที่มีภาษาไทยอันเก่าที่เสียบใช้ไม่ได้ เลยใช้keyboardภาษาอังกฤษพิมพ์ไทย แปลกใจตัวเองที่นิ้วยังพิมพ์ได้ด้วยความเคยชิน
ขอให้คุณพลเดชและครอบครัวมีความสุขทุกๆวันนะคะ
น้าจ้าครับ
ทราบมาเหมือนกันครับเรื่องอภิปราย เข้าใจว่าเป็นอดีตทูตนะครับที่ไปร่วมอภิปราย
สำหรับผมประจำการอยู่ที่เดลี คงไปไม่ได้ แต่ก็ดีใจที่คนไทยสนใจอินเดียมากขึ้น
เพราะสิ่งที่พยายามทำมาตลอด ก็คือเผยแพร่ข้อมูลและความรู้เพื่อให้คนไทยสนใจอินเดีย
เป็นสิ่งที่จำเป็นครับที่คนไทยต้องรู้เรื่องประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลกเพราะในทุกวันนี้
เราจะต้องเกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเราตามโลกไม่ทัน ก็จะอาจจะเสียเปรียบ
ชีวิตที่อเมริกาสบายดีนะครับ
ขอให้น้าจ้าและครอบครัวมีความสุขในปีกระต่ายทอง
ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันครับ