สวัสดีครับนักเรียนทุกคน !
เห็นพวกเราแล้ว ก็ได้แต่นึกสงสัย เชื่อมั้ย? เมื่อครูเป็นครูใหม่ๆได้ 2-3 ปี ครูเป็นครูมาเกือบ 25 ปีแล้วนะ ครูนึกอย่างนี้..
โรงเรียนไม่ต้องมีถังขยะเลย มีแห่งเดียวก็พอในที่ลับตา ในห้องเรียนและบริเวณทั่วไปไม่ต้องมี ไม่ต้องตั้งไว้เลย แล้วทำไง? นักเรียนแต่ละคนก็รวบรวมขยะที่เกิดขึ้นจากตัวเอง ไปทิ้งเอง ในที่ที่เดียวกันทั้งหมด ซึ่งโรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้
โรงเรียนไม่ต้องมีนาฬิกาบอกเวลาอะไรต่างๆ ไม่ต้องมีเสียงสัญญาณ นักเรียนทุกคนจะรู้เวลาเอง ไปเรียนต่อ หมดชั่วโมง หมดวิชานี้แล้ว ถึงเวลาเข้าเรียน นักเรียนรู้เองทั้งหมด หลายคนมีนาฬิกาส่วนตัวอยู่ที่ข้อมือของแต่ละคนอยู่แล้ว..ทุกคนรู้เวลา
จะว่าเป็นความฝันของครูขณะนั้นเลยก็ว่าได้ แต่เวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้..ครูไม่มั่นใจแล้วว่าจะเป็นไปได้ ทั้งๆที่ไม่น่าใช่เรื่องยากเย็นอะไร ใช่มั้ยนักเรียน? แต่ก็ไม่ถึงกับสิ้นหวังหรอกนะ
เพราะอะไร ก็แค่นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีความตระหนัก อะไรควร อะไรไม่ควร ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แค่นั้นไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมไม่ได้..
ขณะนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติ สังเกตดู ทุกวันที่ครูอยู่แถวนี้ พี่ๆกรรมการนักเรียนก็บอกไป สั่งไป ไม่เห็นฟัง หลายคนยังเล่น ยังพูด ยังคุยไม่หยุด รอครู ให้ครูดุเสียก่อน ต้องว่า รอให้ครูสั่ง ซ้ายหันขวาหัน รอการกำกับควบคุม จึงจะทำได้ หากครูปล่อย ครูไม่คุม ไปไม่เป็นเลย คิดไม่ออก คิดไม่ได้ สะเปะสะปะอย่างที่เห็น
นี่ก็อีกอย่างเคยฝัน อยากเรียกว่าฝัน เพราะไม่เห็นแววจะเป็นจริง ทั้งที่ไม่น่ายาก อย่างนี้ได้มั้ย? นักเรียนจัดการกันเองทั้งหมด ครูไม่ต้องยุ่ง ครูแค่แอบๆดูบ้าง โดยซ่อนตัวตามห้องหับต่างๆบนอาคาร คอยแอบดูเท่านั้น ตรงนี้ เวทีนี้ นักเรียน ประธาน หรือกรรมการนักเรียน ดำเนินการเองทั้งหมด ประสาแค่กิจกรรมหน้าเสาธงที่เราทำกันทุกๆวัน ทำได้มั้ย? เหมือนจะได้ใช่มั้ย? แต่..
จึงอยากจะเรียกว่าฝันไง เพราะจนป่านนี้ยังไม่เคยเห็น ก็แค่นักเรียนมีความรับผิดชอบใช่มั้ย? รับผิดชอบตัวเอง ตระหนัก ในใจต้องเกิด ว่าเรื่องนี้สำคัญ ควรทำ ไม่ควรทำ เวลานี้ สถานที่นี้ ต้องทำอย่างไร ต้องทำอะไร
แม้แต่เรื่อง“เฆี่ยนตี” ช่วงระเบียบศธ.นี้ออกใหม่ๆในสมัยรัฐมนตรีท่านหนึ่ง จำแม่นเลย ครูก็เห็นด้วยนะ จะได้เหมือนอารยประเทศเขา ประเทศที่เจริญแล้ว พัฒนาแล้วทั้งหลายเขาไม่ตี ลงโทษกันด้วยวิธีอื่นถ้าผิด แต่ต่อมาๆเริ่มคิด เริ่มสรุป ยังทำไม่ได้หรอก เลิกตีไม่ได้ กับนักเรียนบางคน..ไม้เรียวยังจำเป็น
หนึ่งต้องโทษพ่อแม่เรื่องการดูแลอบรม สองต้องโทษครูที่ไม่สามารถจะสร้างให้นักเรียนเกิดความรับผิดชอบ ใจจริงผมโทษสภาพแวดล้อมของสังคมในขณะนี้ด้วย เพียงแต่ไม่ได้เอ่ยปากออกไป อันเนื่องด้วยเวลา
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเรื่องของครูอย่างผม“บ่นเด็กๆ”ที่หน้าเสาธง เมื่อเช้านี้เอง..
นึกถึงดวงอาทิตย์ ซึ่งถ่ายไว้เมื่อวานครับ แม้หมู่เมฆแน่นหนา แต่แสงก็ยังลอดผ่านจนได้
ดาวคิดว่า เพราะนักเรียนอยู่ที่บ้านมากกว่าที่โรงเรียน...ตัวอย่างจึงมักจะมีอิทธิพลมากกว่าคำสอน
หากจะพร่ำสอน (บ่น) เพียงไร แต่หากสิ่งที่กระทำไม่ได้ออกมาจากจิตสำนึกแล้ว ย่อมไม่ยั่งยืน
ปลูกต้นไม้ ยังง่ายกว่าปลูกจิตสำนึก...เฮ้อ
ดาวชักจะมองโลกในแง่ร้ายไปแล้วนะเนี่ย....555
เอาเป็นว่าแปรความฝันให้เป็นความหวัง ทำได้เท่าที่ทำนะคะ...เราทำได้แค่รดน้ำพรวนดินต้นไม้ให้งอกงาม แต่จะไปทำให้ต้นไม้ขึ้นตรง สวยงามทุกต้นคงเป็นไปไม่ได้ พยายามทำให้ส่วนหน้าที่ของเราให้เต็มที่ ที่เหลือคงต้องปล่อยวางล่ะค่ะ (ดาวได้สัจธรรมข้อนี้จากคุณแม่ ซึ่งเป็นครูวัยใกล้เกษียณ อิอิ)
สวัสดีค่ะคุณครู
สวัสดีค่ะ
เคยมีคำกล่าวว่า "วินัยเริ่มต้นที่บ้าน" แต่ตอนนี้สภาพสังคมทำให้หลายอย่างเปลี่ยนไป คนกรุง คนเมือง จับลูกใส่รถแต่ไก่โห่ ไปโรงเรียน เย็นลูกไปเรียนพิเศษกลับค่ำ เหนื่อยทั้งพ่อแม่ลูก แทบไม่มีเวลาได้คุยสอนอะไรกัน ต้องเข้านอน
หลายครอบครัวชดเชยด้วยการที่ลูกอยากซื้ออะไรขอก็ให้ทุกอย่าง เพราไม่มีเวลาให้
ฝากความหวังของการฝึกสอนลูกให้กับครู มีครูดี ก็โชคดี ทั้งอบ ทั้งรมให้
เจอคนที่ได้ชื่อว่าครู แต่ชื่อวันๆวุ่นกับเรื่องของตัวเองจนไม่มีเวลาเอาใจใส่เด็ก ก็โชคร้ายไป
เด็กเราเลยขาดสำนึกรับผิดชอบ ทุกอย่างเห่อตามค่านิยม และกระแสสื่อ ไม่มีหลักยึด ตอนนี้เด็กบางกลุ่มไม่สนใจทำกิจกรรมชมรม เสาร์ อาทิตย์ต้องตามติดแฟนคลับนักร้องดารา ไม่มีเวลาให้ใคร บ่นก็เหนื่อยนะคะ สอนเท่าที่ทำได้ ผลเป็นอย่างไร บางทีต้องใช้อุเบกขา ไม่งั้นเศร้าค่ะ
อยากให้ฝันของน้องเป็นจริงจังเลยนะคะเอาใจช่วยค่ะ...
ทุกโรงเรียนจะต้องมีเสียงเตือน สั่งสอน อบรมเด็กหน้าเสาธงแบบนี้ทุกวัน
แต่ทำไมไม่เห็นอะไรๆมันจะดีขึ้น เท่าที่เห็นมีแต่แย่ลงๆ
การปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีและได้ผลที่สุดของประเทศอื่น เขาเริ่มตั้งแต่เด็กเล็กในบ้านกันเลยทีเดียว แล้วค่อยๆซึมซับเอาไว้ทีละเล็กละน้อยตามวันเวลาที่เด็กเติบโต โดยผู้ใหญ่ก็คอยชี้แนะและทำให้ดูเป็นตัวอย่าง จากสังคมเล็กๆก็กระจายไปสู่สังคมที่กว้างขึ้นและใหญ่ขึ้น พลเมืองของเขาถึงมีคุณภาพ...
ของเราก็อย่างที่เห็นๆและรู้ๆกันอยู่...ความเห็นแก่ตัวยังสูงมากกกกกก
*** การรับวัฒนธรรมชาวต่างชาติมาใช้ ควรนำมาแก่น-กระพี้มาให้ครบ มิเช่นนั้นจะได้แค่เปลือก มีผลออกมาอย่างที่เห็น หากมีระเบียบวินัยและพื้นฐานของความรับผิดชอบ.... ไม้เรียวแค่เศษขี้ผงที่ไม่ต้องกล่าวถึงให้เป็นประเด็นฯ ใช่ไหมเอ่ย ***
" หวังต่อไปเถอะนะคะ "
เอาใจช่วยคุณครูมัธยมค่ะ
ครูประถมก็ต้องคอยกำกับ พร่ำบ่นพร่ำสอน ในการจัดระเบียบ การทำกิจกรรมต่างๆ ทุกวั้น ทุกวัน
ก็ยังเหมือนเดิม ....แล้วก็เหมือนเดิม ไม่ทำตามในสิ่งที่ควรจะทำได้ด้วยตนเอง
สวัสดีค่ะ...
สวัสดีค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้น้องได้ทำหน้าที่ครูอย่างตั้งใจและมีความสุขนะคะ พี่คิมและพวกเราจัดค่ายอยู่ที่ชายแดนน่านค่ะ
ขอให้ฝันเป็นจริง...แต่อย่าหวังอะไรให้ได้เต็มร้อยเลยนะคะ ดูแต่แสงที่ยังอาจกล้า ลอดผ่านหมู่เมฆที่แน่นหนามาได้ นับประสาอะไรกับพฤติกรรมของเด็กๆ ที่อาจมีลอดกฎระเบียบไปบ้าง เป็นไปตามวัย สงสัยครูอรวรรณจะปลงค่ะ เพราะย่างปีที่ 29 แล้ว
***เด็กทุกคนรู้คะ ที่จะต้องทำ แต่เด็กๆก็ไม่สนใจที่จะทำกันต่างหากคะ (ความคิดหนูนะคะ) ทุกคนรู้หน้าที่กันหมด เพียงแต่...เค้าคิดว่าทำไมต้องทำ ทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไร (ได้ยินคำพูดนี้บ่อยๆ) แต่ก็ยังเชื่อนะคะว่ายังมีเด็กอีกหลายๆคนที่ตั้งใจและเคารพกฏ*** ต้องทำได้คะ
ผมอยากให้มีนโยบาย ไม้เรียวสร้างชาติ ครับ
เด็กทุกวันนี้ เป็นยุคไม่มีไม้เรียว
.
เมื่อก่อน เด็กเมื่อมีความผิด ถึงจุดๆหนึ่ง จะโดนไม้เรียว ทำให้เด็กๆรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เหมือนมีขอบเขตความผิด ถ้าเกิน โดนไม้
..
แต่ทุกวันนี้ ผิดมากผิดน้อย ก็ไม่โดนอะไร ครูจะบ่น ก็บ่นไป หลายคนขาดความหยั่งคิดไปแล้ว ยิ่งสังคมไทย "อะไรก็ได้" "ไม่เป็นไร"
เด็กไทยจะเป็นอย่างไรต่อ....
แวะมาเยี่ยม ค่ะ เป็นกำลังใจในการทำงานเพื่อเด็กค่ะ
ความหวังที่ท่านคิด ครูก็ยังไม่ก้าวกระโดดตาม ผมฝันอยากเห็น อยากให้เป็น เหมือนท่าน จะได้ไม่ต้องเดินเก็บขยะให้เด็กดู
อีกต่อไป
*** ขนาดครูลงทุนเก็บขยะให้ดู ยังไม่สำนึก หรือคิดจะมาช่วยด้วยจิตอาสาเลย
*** สมาธิของเด็กๆ ทุกวันนี้อยู่ที่โทรศัพท์สมรรถสูงที่ทำให้เขาก้าวสู่สังคมโลกได้ทุกขณะ ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลาเรียน หรือช่วงทำกิจกรรม การจัดการเวลา และการรับผิดชอบในหน้าที่ ไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่ผู้ปกครองซื้อให้ลูกเพราะความรัก
*** ผู้ปกครองรักแต่ไม่เข้าใจใช้เหตุผลกับลูก ...ล่าสุด พบผู้ปกครองที่ลูกทำผิดเพราะทำร้ายร่างกายคนอื่น ทั้งที่มีพยานรู้เห็น เขาไม่ยอมให้ลูกถูกครูตี...อ้างว่า เลี้ยงลูกมาไม่เคยตี และลูกก็ไม่โกหก และไม่ผิด ที่เข้าไปทำร้ายเพื่อน เพราะต้องการไปสั่งสอนที่เพื่อนทะเลาะและถกเถียงกันทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง
*** ไม้เรียวเพื่อคุณธรรมที่โรงเรียนใช้ไม่ได้....หลายครั้งที่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ปกครอง...ถามครูว่า..ทะเลาะกับลูก...และลูกไม่ยอมเข้าบ้านทำไงดี...
*** ได้แต่ตอบในใจว่า...ทำใจนะ....และอยากถามต่อไปอีกว่า ผู้ปกครองจะโทษใครบ้างที่ทำให้ลูกไม่ยอมเข้าบ้าน โทษลูก โทษสังคม โทษตัวเอง หรือโทษครู
*** นี่ขนาดมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน...ซึ่งคนรุ่นเราๆไม่เคยพบเจอ
*** ขอบคุณบันทึก ที่ทำให้รู้สึกถอดใจ ... แต่ก็อยากให้ภาพผู้ต้องเป็นอนาคตของชาติสะท้อนออกมามากๆ ... คำว่า ล้มละลาย อาจจะมีความหมาย เชิญชวนให้ทุกฝ่ายได้สำนึกในการป้องกันปัญหาและเร่งรัดพัฒนาเยาวชน
หวังเหมือนกันค่ะ....
เพราะมันส่งผลถึงความรับผิดชอบต่อครอบครัว สังคม องค์กรและผู้ร่วมงานในอนาคต
By Jan เคยเขียนบล็อกนี้ มีผู้มาแลกเปลี่ยนพอสมควรค่ะ
http://gotoknow.org/blog/manorom/353568?page=1
สวัสดีค่ะ...
*** สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะ ! ***
สวัสดีค่ะ
I hope your Valentine’s Day is great.
I hope it’s quite a treat.
I hope you have a happy day
Filled with things so sweet.
สวัสดีค่ะ
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณธนิตย์