เหลือบมองไปเห็นหนังสือตั้งชื่อให้ลูก หลายๆ เล่ม ก็อดนึกถึงครอบครัววัยรุ่น ครอบครัวหนึ่งไม่ได้..อดยิ้มกับความรักลูกของบรรดาสายตระกูลแห่งความรัก ไม่ได้สักที..
หลายเดือนก่อน อาตมา่มีกิจนิมนตร์ที่ตึกหมายเลขแปด กับห้องพิเศษ ซึ่งต้องเข้าไปเยี่ยมคนไข้ระยะสุดท้ายในอาการของโรคอันเกิดจากบุหรี่ หลายขนานพิษเหลือเกิน บรรยากาศผ่านไปด้วยดี แต่อีกงานหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นกรณีที่ต้องเยียวยาด่วนที่สุด คือ โรคขาดกำลังใจ..
ครอบครัวผู้ช่วยพยาบาลสาว กับหนุ่มอบต.ต่างอำเภอ ซึ่งสมรสถูกต้องตามกฎหมาย รูปแบบของความรักและความเป็นอยู่ อาจจะไม่ใช่ประเด็นที่น่าสนใจเท่าไหร่ จึงยังไม่กล่าวถึง..
หลักจากฉันน้ำปานะที่ห้องรับรองแล้ว ก็เข้าไปดูแลห้องพิเศษอีกแห่งหนึ่งถัดไปไม่ห่างกัน ซึ่งเจ้าของห้องเป็นคนไข้ เด็กชายวัยสามเดือน ซึ่งเป็นบุตรคนแรกของผู้ช่วยพยาบาลสาวรุ่นๆ ที่ทำงานในสถานพยาบาลแห่งนี้มาพอสมควร จึงได้รับสิทธิ์ให้พักในหอ อาณาบริเวณของโรงพยา่บาล
เจ้าตัวน้อยหลังจากที่คลอดแล้วก็ไม่เคยได้กลับบ้านเหมือนคนอื่น ต้องทำการรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลกับอาการป่วยซึ่งไม่ใช่โรคของเด็ก.. ซึ่งน้อยนักที่จะเกิดขึ้น ผู้เป็นแม่ เล่าถึงอาการของลูก และทุรกรรมของลูก เหมือนเป็นกรรมเป็นเวรมาแต่ชาติปางไหน ที่ลูกชายต้องผ่าท้อง ตัดไส้ มีอาการตาเหลือง ทานอาหารไม่ได้.. เหมือนกับวิบากอะไรหลายๆ อย่าง
ท่าทางของผู้เป็นพ่อ และแม่นั่งอยู่ในท่าทางสงบเสงี่ยม เฝ้าดูพระกำลังหยอกเอิืนกับบุตรชายบนเตียง ซึ่งสร้างความปิติให้กับทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง เจ้าตัวเล็กตาเหลืองโต ท้องป่อง ทาแป้งขาวโพลนไปทั้งตัว น่าเอ็นดู.. อาตมาบรรจงหยิบไหมน้อยเส้นสีขาวขุ่นมัวเก่า ๆ แต่ผ่านการเข้าพิธีอุปสมบทมาหลายครั้งหลายครา บรรจงผูกด้วยความตั้งใจ ตั้งเอาพระไตรรัตน์เป็นที่พึ่ง ระลึก ด้วยเศียรเกล้า แล้วรัดเบาๆ ที่ข้อแขนของทารกน้อย..
เสียงสาธุ..ของผู้เป็นพ่อ ดังขึ้น ...สาธุ บุญชูของพ่อ...
ผู้เป็นแม่ค้อนประหลักประเหลือกกับชื่อที่เฉิ่ม ของบุตรชาย ที่ผู้เป็นสามีตั้งให้..
สาธุ...ลูกหมาของแม่... เสียงดังไม่แพ้ก่อน เริ่มสัพยอกกับผู้เป็นสามี...
ชื่อนั้นสำคัญไฉน...
อาตมามักจะพูดให้คนรอบข้างฟังเสมอ เกี่ยวกับเรื่องของชื่อ
"ไม่เชื่อก็เฉย ๆ อย่าลบหลู่".. เพราะเป็นศาสตร์ที่แอบแฝงกับชีวิตประจำวัน และในสิ่งที่มองไม่เห็น...
มีเณรคนหนึ่ง ซึ่งอาตมาได้อุปการะไว้เมื่อปีกลาย ในช่วงของบวชเณรภาคฤดูร้อน ซึ่งเป็นงานประจำปีที่ทางวัดจัดขึ้น.. และได้บังเอิญเป็นพระพี่เลี้ยงกับเขาด้วย.. จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายดีล่ะ? ด้วยความใจดี มีเมตตาจิตอยู่เต็มย่ามที่สะพายทุกวัน จึงรับหน้าที่นี้ดวยความเต็มใจ แต่ก็มีอะไรขัดในใจบ่อยๆ อยู่ดี จึงรับหน้าที่นั้นให้เป็นภาระอย่างง่ายดาย...
พระพี่เลี้ยงกับลูกเณรกว่ายี่สิบชีวิตในหนึ่งกลุ่ม สร้างความปวดเศียรเวียนกระหม่อมให้ตลอดหนึ่งเดือนเต็ม เหมือนกับว่ามาลองกรรมฐานของพระ ซะให้ได้!!!
ล่วงเวลาผ่านไปอาตมาได้รับเณรน้อยคนหนึ่งมาอุปการะ ด้วยวัย 14 ปี แต่ยังไม่เต็มบาตร ยังขาดอีกสลึงกว่าๆ หลายประเด็นที่ทำให้อ้าแขนรับเข้ามา อาจจะเพราะวัยที่กำลังเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อในชีวิตวัยรุ่น และตามไม่ท้ันเพื่อนในวัยเดียวกัน ทำให้เลี้ยงดูยาก ลำบาก และผู้เป็นแม่ก็วัยเข้าหลักห้ากว่าๆ จนถึงวันนี้นับได้สิบเดือนพอดี แต่ไม่พัฒนาการใดๆ ที่จะเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเค้ามีพัฒนาการดีขึ้นเลย..
สายตาเหม่อลอย ว่างเปล่า เหมือนกับไม่มีจิตวิญญาณ เดินบิณฑบาตรตามบ้านบนเส้นทางถนนลาดยาง หรือถนนปูนซีเมนต์อย่างดี ยังเหยียบเศษไม้ หรือเศษแก้วบ่อยครั้ง.. นิ้วหัวแม่เท้าแผลไม่เคยหายและแห้งสนิท ต้องมีดับเบิ้ลตลอดเวลา..เฮ่อ อนิจจา.. เป็นเพราะอะไรกันแน่ หรือเป็นเพราะวิบากกรรม (ก็เป็นได้) หรือวิธีการสอนของผู้เป็นแม่ (ก็อาจจะเป็นได้) เพราะลูกอยู่กับแม่เพียงผู้เดียว บิดาไม่ขอกล่าวถึง (เพราะจะเยิ่นเย้อ) ที่กล่าวถึงเณร เพราะมีอยู่ว่า ก่อนนี้ เณรมีชื่อเดิมเหมือนกับดาราดังคนหนึ่ง แต่อาจจะไม่ถูกกับจริต ลัคนา หรือกาลกิณีอะไรสักอย่าง... จึงทำให้ชีวิตต้องมีสติช้ากว่าบรรดาเพื่อน ๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกัน.
หลังจากเปลี่ยนชื่อมาได้ร่วม 3 เดือน พัฒนาการของเณรเริ่มดีขึ้นบ้าง ไม่มีเรื่องราวเสื่อมเสียชื่อเสียงมาให้รำคาญในใจ ความรู้สึกนึกคิดหรือการสร้างสรรค์ การคิดงานเอง ต่อเรื่องราวคำสั่ง หรือสิ่งต่างๆ ที่เคยทำไม่ต้องให้สอนบ่อย หรือพูดจาซ้ำซากบจนทุกวันนี้อาการเริ่มดีโดยลำดับ แต่ต้องคอยกำชับไม่ให้โยมผู้เป็นแม่เข้าใกล้ เผื่ออะไรต่ออะไรจะเร็วขึ้น..
ลูกหมาของแม่ก็เหมือนกับนิยายเล่มละบาทในสมัยเมื่อสามสิบปีก่อน.. ก่อนกำเนิดเกิดจากครรภ์ ผู้เป็นแม่ได้นิมิตรเห็นมือ ขา และแขนออกจากบริเวณท้องของตัวเอง รวมถึงฝันเกี่ยวกับเทพบุตร เทพธิดา หรือสวรรค์ ในมิติต่างๆ ซึ่งฝันประเภทนี้บ่อยมากจนทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกไม่ค่อยดี และมีลางสังหรณ์แปลกๆ เดือนที่สาม ไม่สามารถทานอาหารเป็นปกติได้ นอกจากผักต้ม ขนมสดและผลไม้เท่านั้น คลื่นเหียน อาเจียนเมื่อเดินผ่านร้านอาหารที่มีกลิ่นคาว
เมื่อเจ้าหมาน้อยเกิดมา ก็มีพัฒนาการไม่เหมือนลูกชาวบ้าน จนผู้เป็นแม่ระแวงสงสัย จึงพึ่งหมอดูทางใน ร่างทรง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในที่ต่างๆ มากมาย เผื่อจะเป็นทางออกที่ดีให้เกิดความสบายใจขึ้นมาบ้าง ซึ่งได้คำตอบมาว่า "ลูกเทวดามาเกิด" จึงไม่เหมือนใคร เลี้ยงๆ ไปจะดีเอง ให้คุณ ไม่ให้โทษ (ทำอย่างกะเลี้ยงแมว)...
ทุกวันนี้ลูกหมาของแม่ ก็เปลี่ยนชื่อจริง และชื่อเล่น เพราะเกรงกลัวในอิทธิพลของตัวเลขพยากรณ์ หลายเรื่องรา่วที่ตรงกัน ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นโดยลำดับในความสามารถและพัฒนาการของลูกที่จะดีขึ้น..
ลูกหมา บุญชู หรือชื่ออะไรก็แล้ว เป็นนามสมมติซึ่งบัญญัติขึ้นมา ให้มนุษย์เราได้เอ่ยถึง หรือกล่าวถึงตรงกัน และเป็นการให้เกียรติกัน สื่อสารกันง่ายและรวดเร็วในการใช้นาม หรืออีกหลายประการในชีวิต เพราะทุกสิ่งทุกอย่างคือสมมติบัญญัติ สิ่งที่เราบัญญัติขึ้น เพื่อให้มีความเห็นตรงกัน สอดคล้องกัน และดำเนินชีึวิตไปถูกต้องตามกติกาที่ตั้งไว้ในสังคม เพื่อความมีวินัยในการอยู่ร่วมกันในสังคม...
เล่าเรื่องได้ไม่น่าเบื่อจังครับ
น่าอ่านมากครับ
ผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องชื่ออันเป็นมงคล อย่างน้อยที่สุดถึงไม่เชื่อเรื่องต่าง ๆ ที่ว่าด้วยโชคหรือภัยอันจะเกิดขึ้นได้จากการตั้งชื่อ การมีชื่อที่ดีก็สามารถทำให้เจ้าของชื่อนั้นภูมิใจในสมบัติชิ้นแรกที่พ่อแม่มอบให้นี้ ทั้งยังเป็นการเบิกทางให้กล้าพบปะพูดคุยกับผู้คน กล้าคิดกล้าทำขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ
ผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องชื่ออันเป็นมงคล อย่างน้อยที่สุดถึงไม่เชื่อเรื่องต่าง ๆ ที่ว่าด้วยโชคหรือภัยอันจะเกิดขึ้นได้จากการตั้งชื่อ การมีชื่อที่ดีก็สามารถทำให้เจ้าของชื่อนั้นภูมิใจในสมบัติชิ้นแรกที่พ่อแม่มอบให้นี้ ทั้งยังเป็นการเบิกทางให้กล้าพบปะพูดคุยกับผู้คน กล้าคิดกล้าทำขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ